เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ตั้งแต่อินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้ง่ายขึ้นและเทคโนโลยีมีราคาถูกลงกว่าเดิมมาก พฤติกรรมของเด็ก ๆ สมัยใหม่ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปจากเก่า หากมองในแง่ของปัญหาสำหรับเด็กที่อยู่ในช่วงย่างก้าวเข้าสู่วันแรกรุ่น หรือช่วงอายุประมาณสิบปีขึ้นไป จากที่เคยใช้เวลาอยู่หน้าทีวีหรือเอาแต่เล่นวิดีโอเกม ก็กลายมาเป็นติดหน้าจอคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือมือถือที่จะเขาเข้าสู่โลกออนไลน์แทน โดยในปัจจุบันเด็ก ๆ ใช้เวลาไปกับอินเทอร์เน็ตนานถึงวันละ 6 ชั่วโมง ที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือพ่อแม่เด็ก ๆ เหล่านี้ ไม่รู้เลยว่าลูก ๆ ของพวกเขาใช้เวลาเหล่านั้นทำอะไรลงไปบ้าง หนำซ้ำยังไว้ใจว่าโลกอินเทอร์เน็ตสมัยใหม่ปลอดภัยสำหรับเด็กมากกว่าเดิม
แหล่งข่าวต่างประเทศระบุว่า McAfee บริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์สำหรับรักษาความปลอดภัยในโลกอินเทอร์เน็ต ได้สำรวจพบว่า ผู้ปกครองอเมริกัน 74% จากทั้งหมด 1,301 ราย ยอมรับว่าไม่รู้เลยว่าลูก ๆ ใช้เวลาไปกับการทำอะไรบ้างเมื่อพวกเขาท่องโลกออนไลน์ ในขณะที่ผลการสำรวจในหมู่เด็ก ๆ อายุ 10-12 จำนวน 351 คน ส่วนใหญ่ยอมรับว่าพวกเขาได้แหกกฏการควบคุมพฤติกรรมเด็กในโลกออนไลน์ไปแล้วหลายข้อ ตัวอย่างเช่น 75% ยอมรับว่ามีแอคเคาท์เฟซบุ๊กเป็นของตัวเอง ทั้ง ๆ ที่ตามกฎของเฟซบุ๊กแล้วเด็กที่จะสมัครเพื่อเข้าใช้บริการโซเชียลเน็ตเวิร์กนี้ได้ ต้องมีอายุมากกว่า 13 ปีขึ้นไปเท่านั้น แถมเด็ก ๆ ยังเปิดเผยอีเมลแอดเดรส และข้อมูลส่วนตัวของพวกเขาในหน้าโปรไฟล์อีกด้วย
นอกจากแหกกฏการท่องโลกออนไลน์สำหรับเด็กแล้ว บรรดาคุณหนูที่กำลังย่างเข้าสู่วัยแรกรุ่นเหล่านี้ยังรู้จักปกปิดกลบเกลื่อนหลักฐานอีกต่างหาก 25% ลบประวัติการเข้าชมหน้าอินเทอร์เน็ตทุกครั้งหลังใช้งานเสร็จ 17% ลบกระทั่งข้อความและคลิปวิดีโอที่ดาวน์โหลดมาดู เพราะรู้แน่ว่าถ้าพ่อแม่เห็นเข้าจะต้องโดนว่าแน่ ๆ
โดยทาง McAfee ชี้จุดน่าสังเกตให้ดูว่า การที่เด็กสมัยใหม่ใช้เวลาในโลกอินเทอร์เน็ตนานเกินควร หรือแอบทำอะไรไม่สมควรในโลกออนไลน์ยังไม่น่าตกใจนัก เพราะก็เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นไปตามวัยที่รักสนุกและอยากรู้อยากเห็น แต่การกลบเกลื่อนและลบประวัติไม่ให้ตามรอยการใช้งานของพวกเขาได้คือสิ่งที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่า เพราะพ่อแม่จะไม่มีโอกาสรู้ได้เลยว่าลูก ๆ ของพวกเขาเข้าไปทำอะไรเอาไว้บ้าง จึงทำให้เด็กกลุ่มนี้เสี่ยงที่จะกลายเป็นเหยื่อของโลกออนไลน์ ทั้งการเสพสื่อลามก ถูกกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต หรืออาจถูกล่อลวงจากคนในโลกออนไลน์ก็ได้ แต่สิ่งที่น่าตระหนกไปมากกว่าเก่าคือ พ่อแม่ถึง 79% กลับรู้สึกว่าโลกออนไลน์สมัยใหม่ปลอดภัยสำหรับการใช้งานของเด็กมากขึ้น .. ซึ่งไม่น่าจะเป็นความจริงได้เลยหากปล่อยให้เด็กใช้งานเพียงลำพัง โดยไม่อยู่ในการดูแลสอดส่องของผู้ใหญ่
ดูท่าทางแล้วโลกอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันนี้กลายเป็นดาบสองคม ที่คมกริบเอามาก ๆ สำหรับเด็ก ในด้านหนึ่งก็มีสื่อส่งเสริมความรู้ออนไลน์ให้ได้เล่น มีเกมสนุก ๆ เสริมจินตนาการ มีความรู้ให้หาอ่านได้ฟรี ๆ ไม่มีวันหมดก็เป็นด้านที่ดี ในขณะที่อีกด้านคือจุดอับของการใช้อินเทอร์เน็ตโดยไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของผู้ใหญ่ ความเสี่ยงและอันตรายก็อยู่ใกล้กับเด็ก ๆ เพียงปลายนิ้วคลิก เมื่อได้ลองมองกลับมาดูเด็ก ๆ บ้านเราก็พบว่ามีจำนวนไม่น้อยกำลังเติบโตขึ้นมากับหน้าจอ มีทั้งคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนส่วนตัวกันตั้งแต่อายุยังน้อย รวมทั้งกลุ่มที่ใช้ชีวิตผูกพันอยู่กับร้านเกมและร้านอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะในกลุ่มหลังที่พ่อแม่ไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่าลูกทำอะไรลงไปในโลกเสมือนเหล่านี้บ้าง กำลังทำผิดประการใด ๆ หรือกำลังตกเป็นเหยื่อของใครอยู่หรือไม่
ฟังดูแล้วน่ากลัวมากเลยนะคะ เพราะฉะนั้นหากคุณกำลังปล่อยให้เด็ก ๆ เรียนรู้การใช้โลกออนไลน์ ก็จำเป็นต้องดูแลอย่างใกล้ชิด (แต่ต้องไม่ทำให้เขารู้สึกอึดอัดเกินไปกับการถูกควบคุม) อีกทั้งตั้งกฎไว้ตั้งแต่แรกเลยว่าให้ใช้คอมพิวเตอร์ได้วันละกี่ชั่วโมงและในเวลาใดบ้าง รวมทั้งพยายามดึงเด็ก ๆ ออกมาทำกิจกรรมที่ไม่ได้อยู่กับหน้าจอบ้าง เพื่อไม่ให้เขาหมกมุ่นอยู่กับโลกเสมือนนี้มากเกินไปนะคะ