เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สำหรับคนเป็นแม่ แค่เรื่องเลี้ยงลูกก็มีรายละเอียดยิบย่อยให้ยุ่งจนหัวปั่นมากพอแล้ว มิหนำซ้ำหลาย ๆ คนยังต้องเป็นทั้งคุณแม่และแม่บ้านผู้รับผิดชอบงานครัวเรือนทุกอย่างไปพร้อม ๆ กันอีก ถ้าไม่ได้อยู่ในสถานะนั้นจริง ๆ คงจินตนาการไม่ออกเลยว่าจะยุ่งแค่ไหน และรู้ไหมคะว่าเรื่องอะไรที่ทำให้แม่บ้านลูกอ่อนรู้สึกสติแตกได้มากที่สุด "การทำกับข้าวสำหรับทุก ๆ คนในบ้าน" ยังไงล่ะ
ตามผลสำรวจที่ได้ทำขึ้นเพื่อควบคู่กับการเปิดตัวหนังสือสูตรทำอาหารเร็วและง่ายสำหรับลูกน้อย (Quick & Easy Toddler Recipes) ของ แอนนาเบล คาร์เมล นักเขียนหนังสือทำอาหารสำหรับเด็กและครอบครัว ชาวอังกฤษ ที่ได้ทำการสำรวจพูดคุยกับคุณแม่บ้าน 1,000 ราย ที่เปรียบเหมือนตัวแทนแม่ของลูกและแม่ผู้ดูแลความเรียบร้อยภายในบ้านจากทุกครอบครัวทั่วประเทศ พบว่า ส่วนใหญ่พวกเธอต้องทำอาหารเฉลี่ยแล้วถึง 9 มื้อต่อวัน สำหรับสมาชิกทุกคนในบ้าน ที่อาจจะหิวไม่พร้อมกัน หรืออยากกินอาหารต่าง ๆ กันไป จึงเดือดร้อนให้คุณแม่ที่รับผิดชอบเรื่องปากท้องของครอบครัว ต้องวุ่นอยู่ในครัววันละหลาย ๆ ชั่วโมง ซึ่งนั่นเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวหนึ่งของภาระรับผิดชอบในแต่ละวันเท่านั้น งานที่ต้องทำทุกวันยังมีทั้งปลุกทุกคนในบ้านให้ตื่น ทำความสะอาดบ้าน ซื้อของสด จัดการของใช้ ซักผ้า เก็บผ้า ฯลฯ
หน้าที่ที่ต้องจัดการเหล่านี้ทำให้บรรดาคุณแม่ออกมายอมรับว่าทำให้เธอรู้สึกเครียดมาก ส่วนใหญ่เครียดกันวันละ 5 เวลา แต่ก็มีอยู่ 14% ที่บอกว่าเครียดกันวันละ 10 ครั้งเป็นอย่างต่ำ มีจำนวนไม่น้อยที่วุ่นแต่กับงานบ้านจนไม่ได้รับประทานอาหารให้ตรงมื้อ ลืมเตรียมอาหารให้ตัวเองจนต้องกินอาหารที่เหลือจากลูก ไปจนกระทั่งลืมกินอาหารสำหรับตัวเองไปเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่ชวนให้เสียทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตเอามาก ๆ
คราวนี้ลองมาดูกันว่าเวลาแห่งความเครียด หรือ Stress o\'clock ของคุณแม่จะพุ่งสูงที่สุดในช่วงเวลาใดของวัน การสำรวจได้ผลออกมาว่า ชั่วโมงแห่งความเครียดจากความวุ่นวายหัวปั่นที่ต้องทำงานหลาย ๆ อย่างไปพร้อมกันก็คือ เวลาประมาณ 11.56 นาฬิกาของวันจันทร์ ที่ต้องเตรียมอาหารให้ลูกไปพร้อม ๆ กับจัดการงานบ้านอีกหลายอย่าง
เวลาแห่งความเครียดลำดับรองลงมาคือตอนแปดโมงเช้า และห้าโมงครึ่งในตอนเย็นของทุก ๆ วัน ส่วนสถานการณ์ที่ทำให้วุ่นจนหัวหมุน เรียงตามลำดับความยุ่งและเครียดได้ดังนี้
พาลูกเล็กที่ดื้อ ซน หรืองอแง ไปซูเปอร์มาเก็ตด้วย (35%)
ทำงานบ้านไปพร้อม ๆ กับคอยเล่นกับลูก (35%)
ไล่ปลุกทุกคนในบ้าน แล้วรีบมาเตรียมอาหาร ก่อนจะส่งลูกไปโรงเรียน (31%)
งัดสารพัดวิธีมาหลอกล่อชักชวนให้ลูกกินข้าวให้หมดจาน (28%)
หมุนหน้าหมุนหลังอยู่ในครัวเพื่อเตรียมอาหารสำหรับทุก ๆ คนในบ้านให้เรียบร้อย (24%)
ทราบแล้วก็น่าเห็นใจคุณแม่ ๆ ทั้งหลายจริง ๆ นี่ยังไม่รวมว่าพวกเธอยังคงมีความวิตกกังวลว่าจะทำหน้าที่แม่หรือแม่บ้านตกหล่นบกพร่องไป แถมยังห่วงว่าอาหารที่ทำไว้จะไม่พอสำหรับความต้องการของคนในครอบครัวซะอีก อู๊ยย อย่างนี้มันน่ามอบโล่เชิดชูเกียรติ คุณแม่ (บ้าน) ผู้ดีเด่น ให้ไปครองจริง ๆ .. หาเวลาพักบ้างก็ดีนะคะ วานคุณพ่อบ้านช่วยทำงาน ทำข้าวกล่องพร้อมส่งตัวลูกให้ญาติช่วยดูแลแทนสักหนึ่งวัน แล้วหันมาดูแลตัวเองบ้างนะ จะได้เก็บแรงไว้สู้งานรอบต่อไปไม่เครียดจนเจ็บไข้ไปเสียก่อนนะคะคุณแม่