เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
หากถามคุณพ่อคุณแม่สมัยนี้ ว่าจำนวนลูกกี่คนถึงจะนับว่ากำลังพอดีกับความสามารถในการดูแล ส่วนใหญ่ก็มักตอบกันว่ามีลูกสัก 1-2 คนก็พอแล้ว เยอะกว่านี้เกินไปสงสัยจะปวดหัวน่าดู จึงคิดสงสัยมาตลอดว่าถ้าอย่างนั้นครอบครัวลูกดกเกือบยกโหลอย่างที่เคยเห็นตามข่าว แบบนี้ท่าทางคุณแม่ซึ่งทำหน้าที่หลักในการดูแลลูก ๆ คงจะปวดหัวแทบระเบิด แต่สิ่งที่เราพบจากผลการสำรวจของเว็บไซต์ today.com นั้นกลับไม่ใช่เลย เมื่อปรากฏว่ามีลูกเยอะไม่ได้ทำให้เครียดอะไรมากมาย จำนวนลูก ๆ ที่ทำให้ผู้เป็นมารดาเครียดได้มากที่สุด คือจำนวนลูกแค่สามคนเท่านั้นเอง
เหตุที่การมีลูกจำนวน 3 คน แต่กลับทำให้คุณแม่เครียดปวดหัวตุ้บ ๆ ได้มากกว่าคุณแม่ลูกสี่ ลูกห้า ลูกหก หรือจะลูกดกเท่าไหร่ก็ตาม เป็นเพราะ "3 เป็นจำนวนแรกที่เกินไปกว่า 2 ซึ่งเป็นจำนวนทายาทที่กำลังเพอร์เฟคท์ที่สุด ช่วงรอยต่อที่เลยจากนี้ไปจึงกดดันคุณแม่ให้เครียดได้มาก" แต่กลับกันเมื่อคุณแม่มีลูก 3 คนเข้าไปแล้ว การมีลูกคนต่อไปกลับไม่ได้ก่อความเครียดอะไรมากนัก ขนาดลูกสามคนยังรับมือไหว ลูกคนต่อไปก็ไม่ใช่เรื่องน่าหนักใจอะไรอีกต่อไปแล้ว คล้าย ๆ กับเริ่มปล่อยวางแล้วนั่นเอง
จิลล์ สม็อกเลอร์ คุณแม่ลูก 3 จากบัลติมอร์ สหรัฐฯ ซึ่งมีลูกสาวและลูกชายอายุ 5, 7 และ 9 ขวบ บอกว่า เธออดรู้สึกหัวปั่นไม่ได้ที่มีลูกสามคน ทุกอย่างดูอลเวงวุ่นวาย เธอคิดมาก และเป็นกังวลกับสิ่งต่างไปเสียหมด ไม่ว่าจะเป็นการจัดสรรให้ลูก ๆ แต่ละคนได้รับสิ่งดี ๆ หรือการบริหารเวลาให้พอดีกับกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นหลายอย่าง ยิ่งเป็นตอนที่ต้องพาลูก ๆ ข้ามถนนเธอรู้สึกเหมือนจะสติแตก เพราะมีมือไว้คอยจูงลูกได้แค่ 2 คนเท่านั้น การมีลูกสามคนทำให้เธอรู้สึกว่าไม่สามารถรับมือกับหน้าที่แม่และภาระต่าง ๆ ได้
อย่างไรก็ดี ความเครียดที่เกิดขึ้นกับคุณแม่ลูกสามนั้น 75% เป็นความเครียดที่คุณแม่สร้างขึ้นมาจากการกดดันตัวเอง หาใช่ความเครียดที่เกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อม หรือการกดดันจากคนรอบตัว ด้วยสปิริตของความเป็นแม่ที่ต้องการจะเป็นคุณแม่ที่สมบูรณ์แบบ เมื่อทุกอย่างเกินจะรับมือไหวจึงเกิดอาการเครียดขึ้นนั่นเอง
แต่เมื่อผ่านการเลี้ยงดูลูก 3 คนมาได้ การมีลูกคนต่อไปก็ไม่เป็นเรื่องน่ากังวลหรือหวั่นวิตกอะไรอีก เพราะคุณแม่ผ่านความยากลำบากทั้งทางกายและใจมากจนแข็งแกร่งแล้ว การมีลูกคนต่อ ๆ ไปคุณแม่จึงดูผ่อนคลายขึ้นมาก และเริ่มหาทางที่จะรีแลกซ์ตัวเองมากขึ้น
ดอกเตอร์เจเน็ต เทย์เลอร์ นักจิตแพทย์และคุณแม่ลูกสี่ ที่อายุระหว่าง 19-25 ปี บอกว่า เธอจัดการลูก ๆ และชีวิตตัวเองในฐานะคุณแม่ลูกสี่ ได้ดีกว่าตอนมีลูกสามเสียอีก ด้วยประสบการณ์การเลี้ยงลูกที่โชกโชน เธอรู้สึกมั่นใจในตัวเองในฐานะคนเป็นแม่อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน แม้จะมีบางอย่างที่เกินกว่าจะรับมือ เธอก็รู้จักที่จะปล่อยวาง แถมยังหาทางผ่อนคลายตัวเองจากความวุ่นวายของการมีลูกสี่ได้อย่างลงตัวอีกด้วย แทนที่จะอดทนเตรียมอาหารมื้อเที่ยงที่เพอร์เฟคท์ที่สุดให้ลูก ๆ เธอก็พักมือไว้แค่เท่าที่เธอทำได้ แล้วออกไปเดินเล่นบ้าง "สูดหายใจลึก ๆ แล้วทำตามสิ่งที่คุณอยากทำบ้าง จะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นมากเลยล่ะ"
นอกจากนี้คุณแม่อีกรายยังบอกว่าเธอพบข้อดีจากการมีลูกสี่คนได้ นั่นคือลูก ๆ แต่ละคนจะมีเพื่อนเล่นเป็นคู่ไปโดยอัตโนมัติ ไม่มีการเล่นกันอยู่สองคน แล้วมีคนหนึ่งที่ต้องนั่งโดดเดี่ยวอยู่คนเดียว แถมบ้านของเธอก็ยังคึกคักอยู่เสมอ เพื่อน ๆ ของลูกก็ชอบที่จะมาที่บ้าน เพราะจำนวนเด็กที่เยอะอยู่แล้ว การพาเพื่อนมาเพิ่มอีก 1-2 คน ก็เปลี่ยนการมาเที่ยวบ้านเพื่อนให้กลายเป็นงานปาร์ตี้ได้โดยปริยาย เรื่องการจัดการงานภายในบ้านก็กลายเป็นเรื่องที่ตื่นเต้นท้าทายความสามารถเธอได้ในทุก ๆ วัน
ได้ฟังอย่างนี้แล้วคุณแม่ที่เตรียมตัวอยากมีลูกดกน่าจะเบาใจ ลูกเยอะไม่ได้ทำให้เครียดอะไรมากมาย ขอแค่ผ่านช่วงลูกคนที่สามมาให้ได้ก็พอ .. อ้อ นอกจากนี้ก็เตรียมทุนทรัพย์ไว้ให้เพียงพอจะได้ดูลูก ๆ ทุกคนได้อย่างมีคุณภาพด้วยนะคะ (เรื่องนี้ล่ะ ข้อสำคัญที่สุดในยุคนี้เลย ^^")
