ลูกเคลื่อนไหวดังใจ เมื่อกล้ามเนื้อมัดใหญ่พร้อม



เคลื่อนไหวดังใจ เมื่อกล้ามเนื้อมัดใหญ่พร้อม
(modernmom)
เรื่อง : ชุติมา

            การเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ที่สำคัญของร่างกาย เช่น คอ ลำตัว แขน ขา รวมถึงการทรงตัว และการเคลื่อนไหวร่างกายของลูก ล้วนมีกล้ามเนื้อมัดใหญ่อยู่เบื้องหลังของพัฒนาการที่สำคัญเหล่านั้น

0-1 ปี ขยับแขนขา แรกเริ่มเคลื่อนไหว คืบคลาน ก้าวเดิน

            ลูกจะสามารถงอแขนและขา เคลื่อนไหวยับเนื้อตัวได้เล็กน้อย ปฏิกิริยาส่วนใหญ่ยังเป็นปฏิกิริยารีเฟลกซ์ จับวางไว้ท่าไหนก็ยังอยู่ท่าเดิม

1 เดือน ตอบโต้ด้วยรีเฟลกซ์

            การเคลื่อนไหวของศีรษะทำงานได้ดีขึ้นและเร็วกว่าส่วนอื่น ส่วนการเคลื่อนไหวนั้นยังเป็นปฏิกิริยารีเฟลกซ์ คอยังไม่สามารถตั้งตรงแต่เริ่มชันคอ ผงกศีรษะหันหน้าซ้าย-ขวา และขาเหยียดในท่าคว่ำ

2 เดือน เริ่มชันคอ 45 องศา

            เริ่มเคลื่อนไหวมากขึ้น แขนขาก็ยังกระตุกแบบสะดุ้งอยู่บ้าง เมื่อเห็นวัตถุจะพยายามหยิบ คว้า และฉวย เมื่อให้นอนคว่ำสามารถชันคอได้ 45 องศา ส่วนท่านั่งจะยกศีรษะเงยหน้าขึ้น แต่คอยังอ่อนเวลาอุ้มจึงควรประคองให้ดี

3 เดือน ชันคอนิ่ง

            การทำงานของกล้ามเนื้อมีมากขึ้นไม่ใช่ปฏิกิริยารีเฟลกต์เหมือนที่ผ่านมา หากจับให้นอนคว่ำจะสามารถชันคอนิ่ง ๆ และตรงได้หลายวินาทีแต่อาจจะไม่นาน สามารถยกแขนและขาได้ทั้งคู่ และเมื่อลองจับนั่งจะเห็นว่าลูกนั่งได้มั่นคงขึ้น แต่ต้องระวังประคองส่วนคอให้ดี เพราะคอยังไม่แข็ง ศีรษะยังโงนแงนอยู่

4 เดือน เริ่มพลิกคว่ำและหงาย

            ความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อลำตัวมีพอที่จะเคลื่อนไหวอย่างอิสระ คอเริ่มแข็ง นั่งหลังตรงได้ประมาณ 10-15 นาที ช่วงที่นอนคว่ำก็สามารถยกศีรษะได้จนเกือบตั้งฉาก สามารถหันซ้าย-ขวา แขนขาก็ยกได้อย่างใจมากขึ้น และกำลังฝึกพลิกคว่ำพลิกหงายด้วยตัวเอง

5 เดือน นั่งพิงได้แล้ว

            ช่วงที่นอนคว่ำจะสามารถยกศีรษะขึ้นได้เองและยันหน้าอกได้สูง เพราะคอเริ่มแข็ง แล้วก็สามารถนั่งพิงได้นานเกือบครึ่งชั่วโมง กล้ามเนื้อแขนและขาแข็งแรงจนสามารถดึงให้ยืนขึ้นได้ง่าย ๆ ส่วนขาที่ให้ยืนก็ตั้งตรง

6 เดือน คว่ำหงายได้เอง

            ลูกสามารถพลิกตัวจากท่านอนคว่ำมาเป็นท่ากึ่งนั่งได้ เมื่อจับให้นั่งก็สามารถนั่งได้ด้วยตัวเอง แต่อาจจะต้องมีหมอนมาพยุงไม่ให้ลืมการควบคุมศีรษะให้หันซ้าย-ขวาทำได้ดีมากขึ้น และเริ่มยืนได้แต่ต้องมีแม่ช่วยพยุงไว้

7 เดือน นั่งแล้วนะ

            ยันตัวขึ้นนั่งได้เองและนั่งได้นานขึ้นโดยที่ไม่ต้องมีหมอนมาพยุงหลังมากเหมือนช่วงเดือนที่ 6 เริ่มยันตัวในท่าคลาน บางคนอาจจะเป็นท่าคีบมากกว่า แต่ก็สามารถคืบไปได้ถนัดถึงแม้จะมีของเล่นในมือ ถ้าพ่อแม่จับให้ยืนก็ยืนได้ ทำท่าเดินได้

8 เดือน คลานได้แล้ว

            ลูกจะเคลื่อนที่ด้วยการคลานสลับไปกับการถัดก้น ขาที่แข็งแรงขึ้นสามารถเกาะเหนี่ยวขึ้นยืนได้ด้วยตัวเอง แต่ยืนได้ไม่นานและยังไม่สามารถนั่งลงเองได้ต้องมีคนช่วย และเริ่มก้าวขาได้นิดหน่อย และกำลังพยายามทรงตัว

9 เดือน ยืนได้เอง

            เด็กบางคนอาจจะยืนได้เองแบบที่ไม่ต้องเกาะเหนี่ยว และเมื่อยืนแล้วก็สามารถนั่งลงได้เองเริ่มคลานหมุนไปได้เอง คลานขึ้นบันไดพ่อแม่จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น เพราะอาจจะคลานได้เร็วและคล่องแคล่วมาก

10 เดือน จับเกาะก้าวเดิน

            ลุกขึ้นยืนได้เองโดยไม่ต้องเกาะยืน เริ่มก้าวเดินได้แต่ต้องจับเกาะเดินไปรอบ ๆ ขอบ ปีนขึ้นลงโต๊ะหรือเก้าอี้ได้ เมื่อยืนแล้วก็สามารถนั่งลงได้เอง แต่เมื่อจะไปไหนก็ยังใช้การคลานอยู่เหมือนเดิม

11 เดือน ตั้งไข่ล้ม

            ลุกขึ้นยืนได้เองโดยใช้มือยันหรือยกตัวขึ้น ขณะที่ยืนช่วงขาก็เหยียดตรงและสามารถก้มตัวลงได้ขณะที่ยืนอยู่ หรือนั่งยอง ๆ และก้มตัวขณะนั่งได้ แม้จะยืนได้แค่แป๊บ ๆ แล้วก็ล้มก้นกระแทก

12 เดือน ก้าวแรก

            เดินได้แล้วแต่ยังไม่คล่อง ช่วงแรก ๆ ที่ลูกหัดเดินคุณแม่อาจช่วยด้วยการจับสองมือ ลดลงเหลือมือเดียว ลูกจะเรียนรู้การทรงตัวเดินเอง แม้แรก ๆ จะยังไม่มั่นคงนัก แต่ถ้าอยากไปไหนดังใจยังใช้วิธีคลานเพราะไปเร็วกว่า

กระตุ้นขวบแรกของชีวิต

            หาหมอนใบนิ่มหลากหลายขนาดมากองเอาไว้ เพื่อให้ลูกได้ปีนป่ายข้ามไป ทดสอบพลังแขนขา หรือถ้าลูกเริ่มคลาน พ่อแม่ลองคลานแข่งกับลูกก็ได้นะคะ เพื่อให้หนูน้อยกระตือรือร้นและสนุกสนานในการคลานมากขึ้น

            เมื่อถึงวัยเกาะยืน กระตุ้นให้ลูกยืนด้วยการจับมือกันแล้วดึงให้ลูกลุกขึ้นยืน แล้วจูงมือหนูน้อยให้เดินไปด้วยกันช้า ๆ

            หาเชือกมาผูกตุ๊กตาตัวเล็ก ๆ ให้ลูกจูงตุ๊กตาเดินเล่นไปด้วยกัน จะช่วยให้ลดการคลานของลูกได้

            เรื่องพื้นที่โล่ง ๆ สำคัญ เพราะจะช่วยให้ลูกได้หัดยืนด้วยตัวเอง และหากมีมุมหรือขอบโต๊ะที่อาจเป็นอันตราย ควรหาฟองน้ำมาหุ้มเพื่อป้องกันศีรษะลูกกระแทก

1-2 ปี ยืนได้เองแต่โยกเยกไปมา

            ช่วงแรก ๆ ลูกยังคงเกาะเดิน เดินโดยจูงมือเดียว ยืนเองได้ชั่วครู่ แต่อาจต้องกางแขนขาออกเพื่อช่วยให้การทรงตัวทำได้ดีขึ้น แต่ไม่นานกล้ามเนื้อมัดใหญ่ทั่วร่างกายมีความพร้อมมากขึ้น แขน ขา และลำตัวที่แข็งแรงช่วยเรื่องการทรงตัว และสามารถควบคุมร่างกายให้ได้อย่างใจมากขึ้น และเมื่อเดินได้คล่องจะเริ่มวิ่งมากกว่าเดิน

1-3 ปี ปีนป่าย โลดโผน ขยับแขนขาคล่องแคล่ว

กระตุ้นช่วงวัยแห่งการเคลื่อนไหว 1-3 ปี

            ปล่อยให้ลูกได้เดินเล่นบนสนามหญ้าหรือพื้นทราย เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อถูกใช้งานอย่างเต็มที่

            สุมหมอนเป็นกำแพงชักชวนลูกให้ป่ายปีนข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง เป็นการฝึกใช้ทั้งกล้ามเนื้อขาและแขน

            ขี่รถสามล้อแบบไม่มีตัวถีบ ลูกจะฝึกไถรถ หัดทรงตัว ควบคุมตัวแฮนด์ และหักเลี้ยวในทิศทางที่ต้องการ จากนั้นเมื่อชำนาญพอจะค่อยถีบจักรยานสามล้อเพื่อฝึกกล้ามเนื้อขาและข้อต่อ

            เดินบนคานทรงตัวที่ไม่สูงเกินไป หรืออาจมีเบาะนวมหุ้มเพื่อป้องกันการกระแทกจะช่วยให้ลูกฝึกความสมดุลในการทรงตัวได้ดียิ่งขึ้น

            ชวนเป็นนักฟุตบอล เพราะการที่ลูกจะเตะลูกบอลที่กลิ้ง ๆ ได้ จะต้องใช้การทรงตัวที่ดี เพื่อหาจังหวะในการเตะ แม้จะยังไม่สามารถบังคับทิศทางได้

2-3 ปี วิ่งซิกแซก ทรงตัวได้ไม่ล้ม

            ลูกสามารถควบคุมทิศทางการวิ่งได้ดี หลบสิ่งกีดขวางได้ และยังเดินขึ้น-ลงบันไดได้ทีละขั้น โดยจับราวบันไดไว้ แต่ยังไม่สามารถสลับขาได้ นอกจากนั้นก็เริ่มเล่นเตะลูกบอลได้ และกระโดดตัวลอยสองเท้าได้ แต่ยังไม่สามารถกระโดดต่อเนื่องแบบจิงโจ้ได้ และเริ่มสนใจการปีนป่ายแบบโลดโผน

3-4 ปี เดินหน้าถอยหลังคล่อง

            ถึงตอนนี้ลูกสามารถเดินเขย่งขาได้ ยืนบนขาข้างเดียวได้ กระโดดลงจากบันไดขั้นสุดท้ายได้ ขึ้นบันไดสลับเท้าได้แต่เวลาเดินลงจะใช้เท้าที่ถนัดนำก่อน ยืนขาเดียวได้สักครู่ และสามารถเดินถอยหน้าถอยหลัง เดินไปข้าง ๆ ซ้ายขวาได้คล่องและว่องไวขึ้น

4-5 ปี กระโดดขาเดียว

            ลูกสามารถยืน กระโดด ขึ้นลงบันไดสลับเท้าได้อย่างสบาย ๆ โดยไม่ต้องจับราวบันได บางครั้งก็สามารถกระโดดขาเดียวได้ด้วย แต่อยู่ได้ไม่นานเพียง 3-4 วินาที และอาจจะมีเซบ้างล้มบ้างตามธรรมชาติ แต่จะเริ่มปีนป่าย และวิ่งเล่นได้ในระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น

5-6 ปี ความสมดุลร่างกายเต็มร้อย

            วัยนี้เด็กเปรียบเสมือนผู้ใหญ่ตัวเล็ก ๆ เพราะสามารถทำกิจกรรมได้เหมือนผู้ใหญ่ทั้งหมดแล้ว สามารถวิ่งซิกแซกได้คล่องแคล่ว ใช้ร่างกายแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ กระโดดสลับเท้าข้ามสิ่งกีดขวางได้ ยืนขาเดียวได้นาน 4 วินาที กระโดดสลับเท้าได้ทั้งสองข้าง กระโดดข้ามสิ่งกีดขวางเตี้ย ๆ ได้ และเดินต่อเท้าเป็นเส้นตรงได้โดยที่ไม่ล้ม

            การมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและสามารถเคลื่อนไหวตัวได้ดังใจและคล่องแคล่วว่องไว เป็นอีกหนึ่งพื้นฐานที่จะช่วยให้การเรียนรู้เรื่องอื่น ๆ ของลูกสมบูรณ์ยิ่งขึ้นค่ะ





ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.18 No.206 ธันวาคม 2555

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ลูกเคลื่อนไหวดังใจ เมื่อกล้ามเนื้อมัดใหญ่พร้อม อัปเดตล่าสุด 25 มกราคม 2556 เวลา 06:16:37 3,112 อ่าน
TOP
x close