คลอดลูกในน้ำ คืออะไร คลอดลูกในน้ำดียังไง วันนี้กระปุกดอทคอมมีข้อมูลมาเป็นทางเลือกให้กับคุณแม่ที่อยากคลอดธรรมชาติมาฝากกันค่ะ
การคลอดในน้ำ ถือเป็นวิธีการคลอดโดยธรรมชาติอย่างหนึ่ง ซึ่งกำลังได้รับความนิยมมาก ๆ ในต่างประเทศ และกำลังเข้ามาในประเทศไทย สำหรับการคลอดโดยวิธีนี้นั้นก็เพียงแค่เปลี่ยนจากการคลอดบนเตียง มาเป็นคลอดในน้ำแทน ซึ่งว่ากันว่าจะช่วยลดความเจ็บปวดของคุณแม่ระหว่างคลอดได้ แต่ทั้งนี้หลาย ๆ คนก็มีความกังวลว่าการคลอดด้วยวิธีนี้นั้นจะปลอดภัยหรือไม่ วันนี้กระปุกดอทคอมจึงมีข้อมูลสำหรับบรรดาคุณแม่ที่อยากคลอดด้วยวิธีนี้มาฝากกันค่ะ
การคลอดลูกในน้ำ (Water Birth) เป็นการคลอดลูกวิธีธรรมชาติ โดยคุณแม่จะลงไปคลอดลูกในอ่างน้ำอุ่นที่มีการควบคุมอุณหภูมิไว้ประมาณ 35-37 องศาเซลเซียส โดยน้ำจะช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของคุณแม่ผ่อนคลายและบรรเทาอาการเจ็บปวดจากการคลอดให้ลดลง สำหรับการคลอดโดยวิธีนี้คุณแม่จะต้องมีสุขภาพที่แข็งแรง และไม่มีภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ แต่ถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยเพราะเมื่อศีรษะของทารกพ้นจากช่องคลอดแล้ว ก็จะลอยตัวอยู่ในน้ำได้ ซึ่งน้ำจะช่วยรองรับแรงกระแทก และป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย รวมถึงคุณแม่เองก็จะรู้สึกเบาสบาย ผ่อนคลาย และเจ็บน้อยลง นอกจากนี้ยังเป็นการคลอดที่พ่อ แม่ ลูก จะได้อยู่ใกล้ชิดกันมาก ๆ อีกทั้งไม่ต้องคอยกังวล เพราะจะมีสูติแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอยู่ตลอดเวลา
คลอดลูกในน้ำดียังไง ?
คลอดลูกในน้ำ คุณแม่จะรู้สึกสบายตัว และเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ และน้ำอุ่นจะช่วยให้กล้ามเนื้อเชิงกรานขยายตัวและช่องคลอดเปิดได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้การฉีกขาดของช่องคลอดก็จะน้อยกว่าการคลอดด้วยวิธีธรรมดา ทำให้คุณแม่เจ็บน้อยลง ระยะเวลาคลอดสั้นลง อีกทั้งยังฟื้นตัวได้เร็วกว่าคลอดด้วยวิธีธรรมดาอีกด้วย
คลอดลูกในน้ำ อันตรายหรือไม่ ?
เชื่อว่าคงมีคุณแม่หลาย ๆ คนเกิดความสงสัยกันอย่างแน่นอนว่าคลอดลูกในน้ำนั้นจะมีอันตรายหรือไม่ และเมื่อทารกคลอดออกมาจะจมน้ำหรือเปล่า สำหรับเรื่องนี้ไม่ต้องห่วงค่ะ เนื่องจากในอ่างน้ำจะมีการควบคุมอุณหภูมิไว้ที่ประมาณ 35-37 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ใกล้เคียงกับอุณหภูมิน้ำคร่ำในท้องแม่ อีกทั้งน้ำในอ่างยังผ่านการฆ่าเชื้อโดยรังสีอัลตราไวโอเลตมาแล้ว จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัย และเมื่อทารกคลอดออกมาก็ไม่ต้องกลัวว่าจะจมหรือสำลักน้ำเลยค่ะ เพราะในขณะที่คลอดออกมาทารกยังจะได้รับออกซิเจนจากเลือดที่ผ่านจากรกเข้ามาทางสายสะดืออยู่ อีกทั้งน้ำจะช่วยพยุงให้ลอยตัวให้ความรู้สึกเหมือนตอนอยู่ในถุงน้ำคร่ำของแม่ ซึ่งจะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 40-60 วินาทีโดยไม่เป็นอันตรายค่ะ
กรณีไหนที่คุณแม่ไม่ควรใช้วิธีคลอดลูกในน้ำ
การคลอดลูกในน้ำ คุณแม่จะต้องมีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่มีภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ รวมถึงจะต้องไม่เป็นโรคติดต่อ เช่น เริม งูสวัด ที่ผิวหนังหรืออวัยวะเพศ เนื่องจากเชื้อจะสามารถกระจายได้ง่ายในน้ำ ทำให้เป็นอันตรายกับทารก นอกจากนี้กรณีที่ไม่ควรใช้วิธีคลอดลูกในน้ำอีก ได้แก่ ทารกมีน้ำหนักตัวมากเกินไป ครรภ์เป็นพิษ ท้องแฝด เด็กทารกไม่กลับหัว คุณแม่มีเลือดออกมาก หรือมีอาการเจ็บท้องต้องคลอดก่อนกำหนดประมาณ 2 สัปดาห์หรือมากกว่า เป็นต้น
สำหรับการคลอดลูกในน้ำปัจจุบันนั้นยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมในประเทศไทยเท่าไรนัก และโรงพยาบาลที่ให้บริการคลอดในน้ำนั้นมีอยู่น้อย อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการคลอดก็ค่อนข้างสูงกว่าเมื่อเทียบกับการคลอดด้วยวิธีปกติ ซึ่งหากคุณแม่คนไหนที่กำลังชั่งใจอยู่ว่าจะใช้วิธีคลอดในน้ำดีหรือไม่ แนะนำให้ไปปรึกษากับแพทย์ เพื่อสอบถามรายละเอียดให้แน่ชัดก่อนตัดสินใจจะดีที่สุดค่ะ