8 เรื่องควรรู้เกี่ยวกับภูมิแพ้ในเด็ก (Mother & Care)
เรื่อง : thida
มีข้อเท็จจริงที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้ เปิดเผยจาก ดร.จอร์จ ดู ทอยท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้ในเด็ก จากโรงพยาบาลพอร์ทแลนด์ เพื่อผู้หญิงและเด็ก ประเทศอังกฤษ ดังนี้ค่ะ
1.มีคนจำนวนถึง 40-50 % ที่ต้องทุกข์ทรมานจากโรคภูมิแพ้ โดยอัตราการป่วยเพิ่มสูงที่สุดในหมู่เด็ก
2.เรายังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของภูมิแพ้ แต่คาดว่าอาจเป็นเพราะการใช้ชีวิตแบบปลอดเชื้อโรคมากเกินไป ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันของคนสมัยนี้ต่ำลง ประกอบกับ เมื่อสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ (เช่น เกสรดอกไม้ ไรฝุ่น และขนแมว) และภูมิแพ้อาจเกิดจากสาเหตุร่วมทั้งปัจจัยด้านพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม
3.เด็กชาวอังกฤษ 6-8 % มีอาการแพ้อาหารมากที่สุด ได้แก่ นมวัว ไข่ไก่ ถั่วลิสง ถั่วจากไม้ยืนต้น (เช่น เม็ดมะม่วงหิมพานต์) งา ถั่วเหลือง ข้าวสาลี และกีวี
4.เด็กบางคนอาการภูมิแพ้จะลดลงเมื่อโตขึ้นประมาณ 85 % อาการแพ้ไข่และนมจะหายไป เมื่ออายุ 5-7 ปี แต่อาการแพ้บางชนิด เช่น ถั่วลิสง ถั่ว และงา อาจคงอยู่จนถึงผู้ใหญ่
5.ให้สังเกตอาการแพ้อาหารที่พบบ่อย ซึ่งรวมถึงผื่น (ลมพิษ ผื่นแพ้) บวม ปวดท้อง อาเจียน คันตา ตาแดง น้ำมูกไหล หายใจฟืดฟาด และบางครั้งอาจเป็นโรคภูมิแพ้ชนิดรุนแรง อาจหายใจหอบ ความดันเลือดต่ำ
6.50 % ของเด็กที่มีอาการผื่นแพ้เกี่ยวข้องกับการแพ้อาหาร แม้ว่าสารก่อภูมิแพ้ในอาหารไม่ได้ทำให้เกิดผื่นแพ้ แต่ก็อาจทำให้อาการแย่ลง
7.ถึงลูกของคุณจะเกิดผื่นแพ้จากการแพ้อาหาร เช่น มะเขือเทศ ส้ม และผลไม้พวกเบอร์รี่ แต่ไม่ได้หมายความว่าเด็ก ๆ จะกินอาหารเหล่านี้ไม่ได้ ให้คุณลองทำผลไม้เหล่านี้ให้สุกเสียก่อน
8.พาลูกไปรับการทดสอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ โดยทดสอบทางผิวหนังหรือตรวจเลือด เพื่อการวิเคราะห์และรักษาที่ถูกต้อง ซึ่งการดูแลผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ปัจจุบันยังต้องคำนึงถึงเรื่องการสนับสนุนดูแลทางจิตใจหรืออารมณ์ด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Vol.8 No.90 มิถุนายน 2555