6 ถ้อยคำ...ที่ห้ามเอ่ยกับลูก (M&C แม่และเด็ก)
พ่อแม่พร่ำบ่นปาว ๆ ก็หวังว่าลูกจะเป็นเด็กที่ดีอย่างที่ใจคิด แต่ถ้อยคำหลาย ๆ ประโยคด้วยสมองกระจ้อยร่อยของลูกก็ยังเล็กเกินกว่าจะตีความหมายประชดประชันได้ออก บางประโยคก็ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา เพราะไม่กล้าแสดงความคิดเห็นตอบโต้ บางประโยคก็อาจทำให้เสียเซลฟ์กลายเป็นเด็กเก็บกดหรือขาดความมั่นใจได้ เช่น
1.ตอนแม่ (พ่อ) อายุเท่าลูก
ประโยคคลาสสิคของพ่อแม่ทุกยุคทุกสมัยค่ะ ฟังแล้วก็ไม่ค่อยมีความหมายอะไรมากนัก ยิ่งเด็กในวัยนี้ด้วยแล้ว เขาไม่สามารถนึกภาพพ่อแม่ตอนเด็ก ๆ ได้หรอกค่ะ เป็นเด็กโตกว่านี้พอรู้เรื่องรู้ราวขึ้นมาบ้าง ก็อาจจะคิดในใจเงียบ ๆ เพราะไม่กล้าเถียงว่า "แม่เชยชะมัด เดี๋ยวนี้โลกมันเปลี่ยนไปเยอะแล้ว"
2.รอพ่อกลับมาก่อนโดนแน่
กว่าคุณพ่อจะกลับมาบ้านมาจัดหนักเรื่องดังกล่าวก็จืดจางหมดอารมณ์ร่วมไปแล้วค่ะ อิ อิ นอกจากนี้ถ้อยคำที่หลุดจากปากอย่างนี้ งดเสียดีกว่า เจ้าตัวเล็กฟังก็ขวัญหนีดีฝ่อไม่เป็นอันทำอะไรเสียทั้งวัน เพราะไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ในอนาคตของคุณพ่อได้ออกว่าจะลงโทษอะไรกับเขาบ้าง
3.ทำไม...เราถึงไม่เหมือน (พี่) น้องเขาบ้าง
การเปรียบเทียบทำให้เด็กรู้สึกไร้ค่า บั่นทอนความรู้สึกเขามาก ๆ ค่ะ นอกจากทำให้เกิดความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจแล้ว อาจทำให้ลูกกลายเป็นเด็กขาดความมั่นใจเลยก็ได้ค่ะ หากเจอประโยคฟังไม่รื่นหูเช่นนี้อยู่บ่อย ๆ
4.เพราะแม่สั่งน่ะสิ!
การออกคำสั่งให้ลูกเชื่อฟังโดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ ถ้าได้ผลก็ทำให้เรากลายเป็นผู้ใหญ่ที่กระด้าง และไร้ความคิด ทางที่ดีควรหาเหตุผลมาอธิบายให้ลูกฟังอย่างง่าย ๆ หรือตั้งกฎเกณฑ์ภายในบ้านให้ชัดเจน เพื่อที่ลูกจะได้เข้าใจได้อย่างกระจ่างแจ้ง ไม่ใช่สักแต่ว่าสั่ง ๆ คล้ายนายกับบ่าว ซึ่งไม่ดีแน่นอนค่ะ
5.ลูกไม่เคยทำอะไรถูกกะเขาเลย
คำพูดนี้ถ้าหลุดออกจากปากพ่อแม่ไป นั่นเท่ากับเราตราหน้าลูกว่า เป็นคนไร้ความสามารถ ท้ายที่สุดลูกจะกลายเป็นเด็กขาดความมั่นใจอย่างรุนแรง ไม่กล้าลงมือทำอะไรสักอย่าง เพราะกลัวผิดพลาดไปเสียหมด ลองบอกลูกด้วยคำพูดเชิงบวกดีกว่าค่ะ เช่น "ไม่เป็นไรจ้ะ แม่เชื่อว่าหนูไม่ตั้งใจ" หรือ "ถ้าหนูตั้งใจ แม่ว่าต้องทำออกมาได้ดีแน่นอน"
6.เอาอีกแล้ว ทำไมถึงไม่จำ
ถ้อยคำที่ขุดคุ้ยความผิดของลูก ไม่ว่าจะเป็นผิดเล็กน้อยจนถึงความผิดเรื่องใหญ่โต การย้ำแล้วย้ำอีกถึงความผิดพลาดที่เขาทำขึ้น ก็จะยิ่งทำให้ลูกเริ่มรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง และอาจกลายเป็นเด็กเก็บกด และชอบโทษตัวเองอยู่เสมอค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ปีที่ 35 ฉบับที่ 484 มิถุนายน 2555