x close

Finger Food…ของกินมือถือ

อาหารเด็ก - Finger Food

Finger Food…ของกินมือถือ
(Mother & Care)
เรื่อง : นมิแอม

          แม่ ๆ รู้ไหม ตั้งแต่หนูโต โต๊ โต มาจนถึงอายุ 8 เดือนเนี่ย หนูก็คิดว่าหนูโตพอที่จะดูแลตัวเองได้บ้างแล้วนะ งั้นหนูว่าเรื่องใกล้ ๆ ตัวอย่างการกิน น่าจะเป็นสิ่งแรกที่แม่ควรจะให้เด็กโต ๆ อย่างหนูเริ่มช่วยเหลือตัวเองได้บ้างแล้วล่ะ

          แม่คงเห็นนะว่าช่วงนี้หนูอยากมีส่วนร่วมในการหยิบของกินเข้าปากตัวเองอยู่บ่อย ๆ ไหนจะช้อนตักข้าวที่แม่เอามาป้อน หนูก็พยายามคว้ามาถือกินซะเอง ฉะนั้นหนูขอแนะนำให้แม่คนเก่งหาของหม่ำ ๆ มาให้หนูได้หยิบมากัด ๆ เคี้ยว ๆ คลายอาการคันเหงือกและทดสอบประสิทธิภาพของฟันซี่น้อย ๆ ของหนูที่กำลังจะโต โต๊ โต ขึ้นมาด้วยจะดีกว่า อ้อ! แบบที่ภาษาฝรั่งเขาเรียกกันว่า Finger Food ไงแม่ อาหารว่างที่หนูสามารถคว้า จับ หยิบ ฉวย เข้าปากได้เองน่ะ

How to choose…

          จะว่าไปแล้วข้อควรปฏิบัติในการเลือกหา Finger Food มาให้หนูหม่ำ ๆ ล้วนมีแต่คำว่า "ไม่" อยู่แทบทุกข้อที่กล่าวมา ไม่เชื่อแม่ก็ลองอ่านดูละกัน

         1.แม่ต้องไม่เลือก Finger Food ประเภทที่มีปริมาณไขมัน น้ำตาล และเกลือสูง เพราะจะส่งผลต่อปัญหาด้านสุขภาพของหนู อาจเลือกของขบเคี้ยวประเภท ธัญพืชอัดแท่ง ซีเรียล ขนมปังกรอบ แครกเกอร์รสผักต่าง ๆ ขนมปัง ABC เป็นต้น

         2.แม่ต้องไม่ซื้อของกินที่มีส่วนผสมของสารกันบูดหรือสีผสมอาหาร ของกินสำหรับเด็กน่ารัก ๆ แบบหนูนั้นควรเป็นของจากธรรมชาติล้วน ๆ ไม่ควรถูกดัดแปลง หรือแต่งแต้มจากสารเคมี

         3.แม่ต้องไม่เลือกผักหรือผลไม้ที่มีเนื้อแข็งจนเกินไป หนูขอแนะนำผักผลไม้อย่าง กล้วย ชมพู่ เมล่อน มะม่วงสุก มะละกอ ส้ม ฟักทอง แครอท มันเทศ บร็อคโคลี่ เป็นต้น

         4.แม่ต้องไม่เลือกของขบเคี้ยวที่มีลักษณะเหนียวมากเกินไป แต่ควรเลือกของกินที่มีเนื้อนิ่ม ๆ กินได้ง่าย อย่าง เต้าหู้ ชีสแท่ง ไข่ขาว มะกะโรนี พาสต้า วาฟเฟิล เป็นต้น

         5.แม่ต้องไม่ให้ของกินที่มีขนาดเล็ก ๆ กลม ๆ อย่าง เมล็ดถั่ว และธัญพืชประเภทต่าง ๆ ลูกเกด องุ่น หรือผักผลไม้ที่มีเมล็ด แม่ก็ต้องแกะเอาเมล็ดออกไปให้หมดก่อนนะ เดี๋ยวหนูเผลอกลืนลงไป แล้วติดคอขึ้นมา แย่แน่ ๆ เลย

My hints

          แอบมากระซิบบอกใบ้คุณแม่สักหน่อยว่าการเริ่มต้นระหว่างหนูกับของกินประเภท Finger Food น่ะ ควรทำอย่างไรบ้าง

         1.ช่วงแรก ๆ แม่ควรให้ Finger Food กับหนูแค่วันละครั้งก็พอ หลังจากนั้นค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ตามความเหมาะสม อย่าลืมว่าของที่เอามาให้หนูหม่ำ ๆ น่ะควรเลือกของกินที่มีสีสัน (ตามธรรมชาติ) และรูปร่างที่หลากหลาย

         2.ช่วงวัยแบบหนูอยู่ในช่วงวัยแห่งการเรียนรู้ ดังนั้นหนูทั้งชอบหยิบ ชอบดม และชอบชิมของกินนู่นนี่ไปเรื่อย คล้ายกับการเล่นอีกแบบหนึ่ง รู้แบบนี้แม่ต้องใจเย็น ๆ ไม่หงุดหงิด หรือจริงจังกับการกินไปเล่นไปของหนูในครั้งนี้นะ ถึงจะดูเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปบ้างก็ตาม

         3.สมมติว่า Finger Food ที่แม่เตรียมไว้ให้หนูหม่ำ ๆ ไม่เป็นที่ชื่นชอบจากหนูสักเท่าไหร่ แม่ก็หยุดให้ของกินประเภทนั้น ๆ สักพักละกัน พอผ่านไปสัก 2-3 อาทิตย์ค่อยเอามาให้หนูชิมใหม่ บางทีหนูอาจจะชอบขึ้นมาก็ได้

         4.สมมติอีกข้อละกัน ถ้าหากว่าหนูไม่สนใจ ไม่กิน ไม่ยุ่งกับ Finger Food ทุกอย่างที่แม่สรรหามาให้หม่ำ ๆ แม่ก็ต้องอดทนเยอะ ๆ แล้วก็พยายามต่อไปนะ มันต้องมีของกินที่ถูกใจ ใช่เลย สำหรับหนูบ้างล่ะน่า

         5.Finger Food ก็เหมือนกับของว่างกินเล่นสำหรับหนูนั่นแหละ ดังนั้นแม้ว่าหนูจะดูมีความสุขกับการกินขนาดไหน แม่ก็ควรให้หนูกินแต่พอดี ถ้าให้กินมากไป เกิดหนูไม่สนใจหม่ำ ๆ อาหารมื้อหลักขึ้นมาทีนี้จะทำยังไงล่ะเนี่ย

         6.ถ้าแม่เห็นว่าหนูฟันกำลังจะขึ้น แม่อย่าลืมให้หนูหม่ำ ๆ Finger Food แบบเย็น ๆ นะ ช่วยลดอาการคันเหงือกของหนูไง อาจเป็นพวกผลไม้แช่เย็นอย่าง กล้วย มะละกอ หรือ เมล่อน ก็ได้

         7.ข้อสำคัญห้ามลืมเด็ดขาด คือ ห้ามปล่อยหนูนั่งกินอะไรต่ออะไรคนเดียว ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เผลอแป๊บเดียวก็ไม่ได้ด้วยนะ





ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.8 No.87 มีนาคม 2555

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
Finger Food…ของกินมือถือ อัปเดตล่าสุด 17 เมษายน 2555 เวลา 11:58:36 5,335 อ่าน
TOP