เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ รายงานว่า พ่อแม่ชาวอังกฤษสุดเศร้า เมื่อลูกสาววัย 2 ขวบ ถูกเชือกปรับมูลี่รัดคอจนพิการและเสียชีวิต
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เมื่อนายเจมี่ วอร์เนอร์ คุณพ่อวัย 30 ปี และภรรยา ได้ปล่อยหนูน้อยเอมิลี่ ลูกสาววัย 2 ขวบ ไว้ในห้องนอนตามลำพัง ส่วนตัวเองก็นั่งเล่นอยู่ภายในบ้าน แต่แล้วกลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น เมื่อเจมี่ได้เดินผ่านห้องของลูกสาว แล้วมองเข้าไปพบว่า ลูกสาวตัวน้อยถูกเชือกปรับมู่ลี่รัดคอจนขาดอากาศหายใจ ร่างแน่นิ่งอยู่ในท่าที่กำลังพยายามเขย่งเท้าเปิดมู่ลี่ดูวิวภายนอกบ้าน
และโดยไม่รอช้า เจมี่รีบวิ่งเข้าไปอุ้มหนูน้อยเอมิลี่แล้วปลดเชือกปรับมู่ลี่ที่รัดคอออก ขณะที่ภรรยาผู้เป็นแม่ของหนูน้อยเอมิลี่ก็รีบโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลทันที แต่ก็ยากเกินจะกู้ชีวิตหนูน้อยให้กลับมามีสภาพเหมือนเดิมได้แล้ว เพราะสมองหนูน้อยขาดออกซิเจนไปหลายนาที ทำให้หนูน้อยพิการ และมีปัญหาทางสมองและหัวใจนับแต่นั้น
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมปีที่แล้ว หนูน้อยเอมิลี่ก็เสียชีวิตลงจากภาวะหัวใจวาย หลังจากรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนาน 3 เดือน และเรื่องราวการเสียชีวิตของหนูน้อยเอมิลี่ ก็กลายเป็นอุทาหรณ์ให้พ่อแม่ทั่วอังกฤษพึงระวังกันมากขึ้น
แต่แล้วหลังจากนั้นเพียง 1 เดือน ยังไม่ทันที่ข่าวการเสียชีวิตของหนูน้อยเอมิลี่จะถูกลืมไป ก็เกิดเหตุการณ์เดียวกันนี้ขึ้นซ้ำอีกที่เมืองเฮิร์ทฟอร์ดเชียร์ของอังกฤษ เมื่อหนูน้อยอาเธอร์ วินฟิลด์ วัย 2 ขวบ ได้ถูกเชือกปรับมู่ลี่รัดคออีกราย หลังจากที่พ่อแม่เพิ่งจะส่งหนูน้อยอาเธอร์เข้านอนได้ไม่กี่นาทีเท่านั้น ทำให้หนูน้อยถูกหามส่งโรงพยาบาลโดยด่วน และเสียชีวิตหลังจากนั้นเพียง 5 วัน
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์สุดสลดเหล่านี้ ก็ได้ทำให้แคมเปญเฝ้าระวังอุบัติเหตุที่เกิดกับเด็กถือกำเนิดขึ้น และมีการประชาสัมพันธ์วิธีการป้องกันอย่างจริงจังทั่วอังกฤษในขณะนี้ โดยเน้นในเรื่องของการระมัดระวังเชือกปรับมู่ลี่ ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่หลายบ้านมักจะมองข้ามมากที่สุด โดยมีข้อปฏิบัติที่น่าหยิบยกมาฝากผู้ปกครองที่มีเด็กเล็กในบ้าน ดังนี้
1. ตรวจสอบมู่ลี่ในบ้านว่ามีเชือกที่มีลักษณะเป็นห่วงห้อยอยู่ด้านหน้าหรือไม่ หากเห็นว่าเสี่ยงอันตรายให้เปลี่ยนไปใช้มู่ลี่ที่ไม่มีเชือก หรือใช้ม่านแทน
2. อย่าตั้งเตียงเด็ก หรือเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ไว้ใกล้กับหน้าต่างมู่ลี่ เพราะเด็กอาจปีนขึ้นไปเพื่อจะคว้าเอาเชือกปรับมู่ลี่ได้
3. เปลี่ยนระบบการปรับมู่ลี่ เป็นมู่ลี่ระบบมอเตอร์ ซึ่งจะไม่มีเชือกห้อยระโยงระยางออกมา
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่เชือกปรับมู่ลี่เท่านั้นที่ผู้ปกครองควรระวัง แต่ควรเฝ้าระวังครอบคลุมไปถึงอุปกรณ์ทุกอย่างที่มีลักษณะเป็นห่วงห้อยลงมาจากเพดาน หรือแม้แต่สายไฟระเกะระกะอีกด้วย
