เด็กร้องกลั้น ต้องทำยังไง พ่อแม่ต้องตกใจแน่ ๆ ถ้าลูกร้องกลั้นจนหน้าเขียว ตามมาทำความเข้าใจอาการเหล่านี้พร้อมหาวิธีแก้ไขกัน

อาการหนึ่งในเด็กเล็กที่พ่อแม่ต้องระวังมาก ๆ คือ ร้องกลั้น เพราะถ้าเด็กร้องไห้จ้าตามปกติก็อาจเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าเขาร้องแบบไม่มีเสียง อาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพของเขาได้ เรามาทำความเข้าใจกันดีกว่าว่าภาวะเด็กร้องกลั้นอันตรายไหม และถ้าเด็กร้องกลั้นต้องทำยังไง เพื่อให้เขากลับมาเป็นปกติ
อาการร้องกลั้นคืออะไร
การร้องกลั้น หรือ ภาวะกลั้นหายใจในเด็ก (Breath Holding Spells) พบในเด็กเล็ก ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยพบได้บ่อยในเด็กอายุ 1-3 ขวบ หรือในช่วงที่เด็กเริ่มรู้จักการแสดงอารมณ์ พบได้ร้อยละ 5 ของเด็กทั่วไป และจะหายไปเมื่อเด็กอายุ 6-8 ขวบ เป็นภาวะที่เด็กมีอาการกลั้นหายใจขณะหายใจออกเป็นชั่วขณะหนึ่ง ทำให้ออกซิเจนเข้าไปหล่อเลี้ยงในสมองไม่เพียงพอ จนทำให้หน้าเขียวและเกือบเสียชีวิตได้
ร้องกลั้นเกิดจากอะไร
สาเหตุของอาการร้องกลั้นในเด็กมีมากมาย โดยทั่วไปมักเกิดขึ้นเพราะอารมณ์ของเขา ได้แก่
- ถูกขัดใจ
- โกรธ
- โมโห
- เจ็บปวด
- ความเครียด
- กลัวมาก
เด็กร้องกลั้นอันตรายไหม
ตามปกติแล้วอาการร้องกลั้นจะหายไปภายใน 1 นาที และเด็กจะกลับมาหายใจตามปกติ แต่ก็มีบางส่วนที่ร้องกลั้นนานกว่า 1 นาที ทำให้เกิดภาวะหมดสติ หรือมีอาการเกร็งหรือกระตุกร่วมด้วย ซึ่งอาจเกิดอันตรายได้

ภาวะกลั้นหายใจในเด็ก มี 2 ประเภท
- แบบเขียว หรือ Cyanotic Spells เป็นการร้องไห้อย่างรุนแรง เป็นประเภทที่พบมากที่สุด โดยมีอาการหยุดหายใจในขณะหายใจออก ทำให้เกิดการขาดออกซิเจนและหน้าเขียว หากเด็กไม่สามารถปรับการหายใจจะนำไปสู่การหมดสติและชักตามมา แต่โดยส่วนใหญ่อาการจะกลับสู่ภาวะปกติภายใน 1 นาที เหตุกระตุ้นเกิดจากการที่เด็กถูกขัดใจ โมโห หรือโกรธอย่างรุนแรง โดยสาเหตุที่เกิดเนื่องจากระบบประสาทอัตโนมัติที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่
- แบบซีด หรือ Pallid Spells เป็นการร้องไห้ไม่รุนแรง ไม่มีภาวะเขียวหรือขาดออกซิเจน แต่มีอาการหน้าซีด ซึ่งมักสัมพันธ์กับการขาดธาตุเหล็ก อาจร้องไห้หรือไม่ร้องเลย แต่อาจหมดสติ กระตุก และมักจะกลับเป็นปกติภายใน 1 นาที โดยเหตุกระตุ้นเกิดจากความกลัวหรือตกใจ
เด็กร้องกลั้นต้องทำยังไง
ถ้าลูกมีอาการร้องกลั้นขึ้นมา สิ่งสำคัญคือพ่อแม่ควรตั้งสติ ไม่ตระหนกตกใจเกินไป แล้วทำตามขั้นตอนดังนี้
- จับเด็กนอนหงายบนเตียงหรือพื้นราบ เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้มากที่สุด
- ถ้าร้องกลั้นนานเกิน 1 นาที ให้จับนอนตะแคงเพื่อป้องกันการสำลัก
- นำผ้าชุบน้ำเย็นวางบนหน้า 15 วินาที จะช่วยให้อาการดีขึ้น
- ไม่ควรเอาสิ่งของเข้าปากหรือป้อนเครื่องดื่มใด ๆ
- ไม่ควรอุ้มเขย่าตัวเด็กแรง ๆ เพราะอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อกระดูกคอหรือสมองได้
ป้องกันไม่ให้เด็กร้องกลั้นยังไง
สาเหตุสำคัญของภาวะนี้คืออารมณ์เด็กที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว วิธีการป้องกันก็คือ
- หลีกเลี่ยงวิธีบังคับหรือขัดใจ เปลี่ยนเป็นวิธีเบี่ยงเบนความสนใจ โน้มน้าวหรือห้ามด้วยความนุ่มนวล
- ให้เขาพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยลดอาการหงุดหงิดได้
- ในเด็กโต ฝึกให้เขาผ่อนคลายเมื่อมีอาการโกรธหรือถูกขัดใจ

เด็กร้องกลั้นแบบไหนต้องไปพบแพทย์
แม้ว่าภาวะนี้จะไม่เป็นอันตรายมากนักและสามารถหายเองได้ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องคอยสังเกตลูก ๆ ถ้าเขามีอาการเหล่านี้ควรพาไปหาหมอ
- มีอาการร้องกลั้นบ่อย ๆ หรือร้องกลั้นทีละนาน ๆ
- มีโรคประจำตัวอื่น ๆ โดยเฉพาะโรคหัวใจ ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที
- มีอาการชักเกร็งร่วมด้วย
สรุปได้ว่า เด็กร้องกลั้น เป็นอาการที่สามารถพบเจอได้และไม่ส่งผลอันตรายมากนัก แต่ถ้าหากนานผิดปกติหรือมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : childrenhospital.go.th, synphaet.co.th, ekachaihospital.com