คุณแม่มือใหม่ทำงานด้วยช่วยแก้เครียดได้ (ไทยโพสต์)
คุณแม่ยุคใหม่จำนวนมากเข้าใจดีว่า การทำให้เกิดความสมดุลระหว่างการทำงานไปพร้อม ๆ กับการเลี้ยงลูกนั้นเป็นสิ่งที่ค่อนข้างลำบาก แต่จากการวิจัยได้แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ตรงข้าม และขัดแย้งจากที่ทุกคนได้คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะเรื่องของการทำงานนั้น ไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพในการเลี้ยงดูลูกของแม่ต่ำลงไป หรือเพิ่มระดับความเครียดให้แก่คุณแม่ยุคใหม่แต่อย่างใด ดังนั้นคุณแม่ที่ทำงานในยุคนี้ คงต้องใช้เวลาในการเรียกสติและขวัญกำลังใจของตนเองให้กลับคืนมา
สำนักวิจัยด้านเศรษฐกิจแห่งชาติ (NBER) ได้สำรวจข้อมูลของครอบครัว ในประเทศสหรัฐอเมริกา และได้สะท้อนผลสำรวจดังกล่าวออกมาว่า การทำงานเป็นสิ่งที่สร้างคุณค่าให้กับชีวิตครอบครัว โดยนักวิจัยได้นำเรื่องของปัจจัยคุณภาพชีวิต รวมถึงสุขภาพจิตใจที่ดีของมารดา ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างแม่และเด็ก มาเปรียบเทียบกับตัวเลขของชั่วโมงการทำงาน ในขั้นตอนที่แตกต่างกันหลังการคลอดบุตร
และน่าแปลกใจที่เหล่าบรรดาคุณแม่นั้นได้แสดงให้เห็นว่า ระดับความเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นตลอดจนภาวะซึมเศร้า ไม่ได้เกิดจากการทำงานเต็มเวลา แต่จะเกิดในช่วง 3 เดือนหลังการลาคลอดบุตร ซึ่งอาการดังกล่าวนั้นจะเป็นมากกว่าผู้ที่ไม่ได้ทำงานเลย
แต่สิ่งที่น่าสนใจหลังจากขั้นตอนนี้ ดูเหมือนว่า การที่แม่ทำงานหนัก จะเพิ่มสุขภาพชีวิตโดยรวมของครอบครัวให้ดีขึ้นตามไปด้วย ในขณะที่ภาวะซึมเศร้าที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 6 เดือนของกลุ่มคุณแม่ที่ทำงาน เป็นตัวที่ทำให้เห็นว่าระดับความเครียดโดยรวม ปรับตัวลงจากเวลาที่ใช้ในการทำงานนั่นเอง
พร้อมกันนี้ นิตยสารไทม์กล่าวว่า ช่วงหกเดือนหลังจากคลอด คุณแม่ทั้งหลายจะเข้าสู่ระบบการทำงานอย่างเต็มที่ และจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเด็กเลย ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพของการเลี้ยงดูบุตรลดต่ำลง เป็นเวลาเดียวกับการที่นักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาเผยให้ทราบว่า คุณแม่ที่มีลูกส่วนใหญ่จะมีประสบการณ์น้อย ในการที่จะทำให้เกิดความสมดุลระหว่างการทำงาน และการดูแลครอบครัวไปพร้อม ๆ กัน แต่ในความเป็นจริง คุณแม่ทั้งหลายมีประสบการณ์โดยรวมน้อย ในเรื่องการจัดการกับความเครียด ถ้าพวกเขาต้องทำงานหนักในช่วง 2 ขวบปีแรก หรือครึ่งหนึ่งของ 4 ปี ที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตในชีวิตลูกน้อย
อย่างไรก็ตาม คุณแม่ที่ทำงานนั้นจะมีความเครียดน้อย นอกจากนี้ยังทำให้ครอบครัวของเขามีสุขภาพดีขึ้นด้วย กุญแจสำคัญที่ช่วยทำให้พวกเขามีความสุข และเกิดความสมดุลระหว่างการทำงานและการดูแลครอบครัว คือการสร้างความมั่นใจให้คุณแม่นั่นเอง แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงบทบาทของการเป็นแม่ ให้เป็นคุณแม่ที่ทำงานแต่อย่างใด
พวกเขากล่าวว่า การลาคลอดบุตรนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการเป็นแม่ แต่มันก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าคนเป็นแม่ยังต้องทำงานอยู่ แม้ว่ามันไม่ได้ทันทีทันใดหลังการคลอดบุตร อย่างไรก็ตามการหยุดพักจากการทำงานในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ไม่ได้ทำให้สุขภาพของคนที่เป็นแม่และลูกน้อยดูแข็งแรงขึ้น แต่อย่างใด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
