![S26](http://img.kapook.com/image/Star2/01_263.jpg)
ไอคิวของลูก เพิ่มได้ง่าย ๆ ด้วย 7 กลุ่มอาหาร
ข้อมูลโดย : คุณ เกศกนก สุกแดง นักวิชาการโภชนาการ ฝ่ายโภชนาการ รพ.ศิริราช
หลังกำเนิดจำนวนของเซลล์สมองนั้นจะสามารถเพิ่มขึ้นได้แต่ไม่มากนัก แต่เซลล์สมอง สามารถสร้างและพัฒนาเครือข่ายได้อย่างมีศักยภาพมากที่สุดในช่วง 3 ขวบปีแรก ผ่านการส่งเสริมให้เส้นใย ที่ส่งข้อมูลในสมองแตกกิ่งก้านสาขาเพิ่มขึ้น ผ่านการสร้างประสบการณ์
ในขณะที่ส่วนของสมองที่เป็นเปลือกหุ้มเส้นใยสมอง หรือ นวมสมอง ที่เป็นตัวเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ สามารถสร้างเพิ่มขึ้นได้จาก อาหาร และการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ใหม่ ๆ อาหารจึงมีบทบบาทสำคัญในการสร้างความฉลาดให้สมอง ดังนั้นจึงแนะนำให้เด็กรับประทานอาหารที่ดีมีคุณภาพ และรับประทานให้หลากหลายโดยใช้หลักการของ ทฤษฎี 7 กลุ่มอาหาร จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหลักการทางโภชนาการ ที่ช่วยให้เกิดการรับประทานอาหารที่หลากหลาย เพื่อช่วยเสริมสร้างไอคิวลูกได้จริงในชีวิตประจำวัน
ซึ่ง ทฤษฏี 7 กลุ่มอาหาร นี้ เป็นการบอกพื้นฐานทางโภชนาการที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน โดยแนะนำให้ทานอาหาร 7 ชนิด ในหนึ่งวัน เป็นทฤษฎีจากสหรัฐอเมริกาที่ปฏิบัติตามได้ง่ายเหมาะกับยุคสมัย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน สมดุล เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีตามไปด้วยนั่นเองค่ะ
![](http://hilight.kapook.com/admin_hilight/spaw2/imghilight4/fashion/yumhammy5.gif)
เห็นประโยชน์ของ 7 กลุ่มอาหาร มากขนาดนี้ มารู้จักทฤษฎี 7 กลุ่มอาหาร ว่าประกอบไปด้วยอะไรบ้างกันเถอะค่ะ
![](http://img.kapook.com/image/baby/01_553_1.jpg)
![](http://img.kapook.com/image/baby/01_557.jpg)
![](http://img.kapook.com/image/baby/02_3_1.jpg)
![](http://img.kapook.com/image/baby/02_4.jpg)
![](http://img.kapook.com/image/baby/03_16_1.jpg)
![](http://img.kapook.com/image/baby/03_17.jpg)
![](http://img.kapook.com/image/baby/03_19.jpg)
![](http://img.kapook.com/image/baby/04_15.jpg)
![](http://img.kapook.com/image/baby/04_14_1.jpg)
![](http://img.kapook.com/image/baby/05_20.jpg)
![](http://img.kapook.com/image/baby/06_10_1.jpg)
![](http://img.kapook.com/image/baby/06_11.jpg)
![](http://img.kapook.com/image/baby/01_559.jpg)
![](http://img.kapook.com/image/baby/07_6.jpg)
![](http://hilight.kapook.com/admin_hilight/spaw2/imghilight4/fashion/yumhammy5.gif)
เพราะจากงานวิจัยพบว่าเด็กไทยที่อยู่ในวัยเรียนรู้ในปัจจุบัน มีสัญญาณพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้อง จึงทำให้มีแนวโน้มว่า จะได้รับสารอาหารที่สำคัญบางชนิดไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการ ทำให้สมองเรียนรู้ได้ช้า สมาธิน้อยลง และความจำไม่ดี ไม่อยากให้ลูกตกเป็นหนึ่งของกลุ่มเด็กไทย ที่เผชิญกับภาวะการพัฒนาการไม่เต็มศักยภาพ อย่ามองข้ามการส่งเสริมการทานอาหารให้หลากหลายครบ 7 กลุ่ม อาหารเพื่อให้มั่นใจว่าลูกจะได้รับสารอาหารที่มีคุณภาพครบถ้วน เพียงพอต่อความต้องการนะคะ
![](http://hilight.kapook.com/admin_hilight/spaw2/imghilight4/fashion/yumhammy5.gif)
คุณแม่ควรคำนึงถึง 7 สารอาหารสำคัญ ที่เด็กต้องการเพื่อพัฒนาการที่ดีตามวัยด้วยค่ะ ซึ่งก็ได้แก่ 1. แคลเซียม 2. วิตามินดี 3. สังกะสี 4. เหล็ก 5. ไอโอดีน 6. วิตามินบี 1 7. วิตามินเอ
ซึ่งสารอาหารแต่ละชนิดเหล่านี้ก็มีความสำคัญไม่แพ้กันค่ะ ซึ่งสามารถได้จากการรับประทานอาหารให้ครบ 7 กลุ่ม ในแต่ละวัน ซึ่งแต่ละสารอาหารมีความสำคัญไม่แพ้กันนะคะ
แคลเซียม มีความสำคัญต่อการสร้างกระดูกและฟัน การทำงานของระบบประสาท เด็กไทยควรดื่มนมให้มากพอ เพราะเป็นแหล่งแคลเซียมที่เพียงพอต่อความต้องการ โดยนมเพียง 2-3 แก้ว จะให้แคลเซียมได้ถึง 287.5 มิลลิกรัมเชียวค่ะ ส่วน วิตามินดี จะช่วยดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ควบคุมการสร้างกระดูก มีในน้ำมันตับปลา ปลา และร่างกายยังสังเคราะห์ได้จากแสงแดด สังกะสี ก็เป็นส่วนประกอบของเอนไซน์ในร่างกายที่มีมากกว่า 200 ชนิด ช่วยในระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายเติบโตดีด้วยค่ะ หาให้ลูกทานได้จากเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล นม สำหรับ เหล็ก นับว่าเป็นส่วนประกอบของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ทำหน้าที่ขนส่งสารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ทั่วร่างกายและสมอง พบได้ในเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ เลือด ตับ ไข่แดง
ส่วน ไอโอดีน ที่รณรงค์ส่งเสริมก็เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของฮอร์โมนไทรอยด์ มีหน้าที่ควบคุมการเติบโตของร่างกายและสมอง ควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ช่วยพัฒนาสติปัญญาและการเรียนรู้ที่ดี สำหรับ วิตามินบี 1 ช่วยให้ระบบประสาทและกล้ามเนื้อทำงานได้ดี บำรุงระบบประสาท โดยเฉพาะปลายประสาทด้วยค่ะ สุดท้าย วิตามินเอ มีความสำคัญต่อจอประสาทตา ช่วยในการมองเห็น การเติบโตของร่างกาย การสร้างเม็ดเลือด กล้ามเนื้อและกระดูก การสร้างภูมิคุ้มกัน เมื่อไหร่ที่ลูกขาด ก็จะทำให้ร่างกายอ่อนแอ เจ็บป่วยได้ง่าย พัฒนาการการเจริญเติบโตก็ผิดปกติ ดังนั้นให้ลูกทานตับ ไข่แดง นม ผักผลไม้ที่มีเบต้าแคโรทีนด้วย ซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะเปลี่ยนเป็น วิตามินเอ หรือโปรวิตามินเอ ซึ่งผักโขม ตำลึง ผักบุ้ง แครอท ฟักทองก็มีค่ะ เมื่อไม่ขาดสารอาหารเหล่านี้ สมองลูกย่อมได้รับการพัฒนาให้มีไอคิวเพิ่ม และเรียนรู้ได้อย่างเต็มศักยภาพของเขาค่ะ
![](http://img.kapook.com/image/baby/01_561.jpg)
![](http://hilight.kapook.com/admin_hilight/spaw2/imghilight4/fashion/sakura_love_20060804155229.gif)
http://bs.serving-sys.com/BurstingPipe/adServer.bs?cn=tf&c=19&mc=imp&pli=2791863&PluID=0&ord=[timestamp]&rtu=-1
http://bs.serving-sys.com/BurstingPipe/adServer.bs?cn=tf&c=20&mc=click&pli=2791863&PluID=0&ord=[timestamp]=