ถ้าลูกน้อยเป็นโควิด 19 ดูแลอย่างไรดี ?
อย่างที่ทราบกันว่าตอนนี้โควิด 19 ติดกันง่ายมาก ซึ่งการรักษาก็ต้องรักษาตามอาการของแต่ละคน ซึ่งทารกส่วนใหญ่มักจะมีอาการดังนี้
- ซึมลง ดูดนมได้น้อยลง
- มีผื่นขึ้นตามตัว
- คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอแห้ง หรือมีเสมหะ
- หายใจลำบาก หายใจเร็วกว่าปกติ หรือหายใจมีเสียงดัง
- อาเจียน ท้องเสีย
- มีไข้
อาการลองโควิดในทารกที่ต้องรู้
โดยทั่วไปแล้วหากลูกน้อยเป็นโควิดจะมีอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่หลังจากผ่านไปประมาณ 4-12 สัปดาห์ อาจมีอาการข้างเคียงหลังจากที่หายจากโควิดแล้วเกิดขึ้นได้ โดยอาการลองโควิดที่พบในเด็กและทารกคือ
- การรับรสและกลิ่นเปลี่ยนไป
- เหนื่อยง่าย อ่อนล้าผิดปกติ
- ปวดศีรษะบ่อย ๆ
- เบลอ ไม่มีสมาธิ
- มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ
- ไอ
- อารมณ์ไม่ค่อยดี
- นอนหลับยาก
- หายใจไม่ออก
- เจ็บหน้าอก
- หัวใจเต้นเร็วหรือแรง
ภาวะ MIS-C ในเด็ก หลังลูกหายจากโควิด
นอกจากอาการลองโควิดข้างต้นที่พบได้บ่อยแล้ว ยังมีภาวะอักเสบทั่วร่างกายในเด็ก หลังหายจากโควิด 19 หรือที่เรียกว่า MIS-C ในเด็กที่ต้องกังวลด้วย ซึ่งค่อนข้างอันตรายและรุนแรงกว่าลองโควิดมาก โดยเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันที่สูงผิดปกติ อาจมีอาการคล้ายโรคคาวะซากิ เช่น
- มีไข้สูง เกิน 38 องศาเซลเซียส นานเกิน 24 ชั่วโมง
- ตาแดง
- ริมฝีปากแห้ง แดง ลิ้นแดงเป็นตุ่ม
- ผื่นขึ้นตามตัว
- มีอาการช็อค ความดันต่ำ
- ปวดท้อง อาเจียน ท้องเสีย
- หายใจหอบ
- ปวดศีรษะ ซึม
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าเด็กทุกคนจะมีโอกาสเป็น MIS-C เนื่องจากมีการศึกษาพบว่ามีเด็กเพียง 0.14% ที่เกิดภาวะนี้ขึ้น ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรชะล่าใจ และสังเกตอาการลูกอย่างใกล้ชิด
ดูแลลูกน้อยที่เป็นลองโควิดยังไงดี
คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลลูกน้อยที่เป็นลองโควิดได้โดยการดูแลตามอาการของลูก แต่หากเป็นเกิน 4 สัปดาห์ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป โดยวิธีที่พ่อแม่ต้องดูแลทารกที่เป็นโควิดมีดังนี้
- ให้ลูกน้อยนอนหลับให้เพียงพอ
- ทำกิจวัตรต่าง ๆ ภายในบ้าน พยายามอย่าพาออกนอกบ้าน
- ให้เขาดื่มนมและดื่มน้ำบ่อย ๆ เพื่อช่วยระบบขับถ่ายและระบบหมุนเวียนเลือด
- ให้เขาออกกำลังกายเบา ๆ หากลูกสามารถเดินได้แล้ว ลองให้เดินไปกลับในระยะใกล้ ๆ ก็ได้
- พาไปพบแพทย์ทันทีหากอาการแย่ลง มีไข้ หรือเป็นลองโควิดนานเกิน 4-6 สัปดาห์
เด็ก ๆ ที่เป็นลองโควิดอาจงอแงและเหนื่อยง่ายกว่าปกติ สิ่งสำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ต้องคอยใส่ใจ มอบความรัก ใช้ความอดทนกับเขาให้มาก และเฝ้าสังเกตอาการเขาอย่างใกล้ชิด แล้วลูกน้อยก็จะสามารถหายเป็นปกติได้ในที่สุดค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : chulalongkornhospital.go.th, praram9.com, kidshealth.org.nz, hopkinsmedicine.org