ผลไม้สำหรับเด็ก 6 เดือนขึ้นไป เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน รวมถึงสร้างพัฒนาการให้กับลูกน้อยมีอะไรบ้าง การให้ผลไม้ทารกดียังไง ไปหาคำตอบกัน
เด็กวัย 6 เดือนเป็นวัยที่เริ่มมีพัฒนาการมากขึ้น เนื่องจากเขาจะคันเหงือก ฟันกำลังจะขึ้น จึงต้องการที่จะบดเคี้ยว นอกจากนี้ยังเป็นวัยที่เริ่มเรียนรู้รสชาติต่าง ๆ การเสริมอาหารอื่นนอกจากนมแม่จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยเสริมสร้างฟัน สร้างภูมิคุ้มกันให้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสร้างพัฒนาการให้เขาด้วย ซึ่งหนึ่งในเมนูอาหารเด็กที่ควรให้ทารกได้ลองกินคือ ผลไม้ เพราะมีวิตามินและแร่ธาตุ แถมรสชาติหวานอร่อยถูกใจลูกน้อย เรามาดูกันว่า ผลไม้สำหรับเด็ก 6 เดือนขึ้นไป มีอะไรบ้าง
แนะนำผลไม้
สำหรับเด็ก 6 เดือนขึ้นไป
ในผลไม้ให้สารอาหารมากมาย เช่น ไฟเบอร์ วิตามินซี ธาตุเหล็ก และโพแทสเซียม สารอาหารเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดีของลูกน้อย ผลไม้ที่เลือกควรเป็นผลไม้รสหวานเพื่อให้เด็กรู้จักเรียนรู้รสหวานจากน้ำตาลฟรุกโตส และควรบดละเอียดเพื่อให้ง่ายต่อการเคี้ยวกลืน เริ่มจากปริมาณน้อย ๆ 2-3 ชิ้นเล็ก ๆ ก่อน แล้วจึงเพิ่มปริมาณได้ถึง 2 ช้อนโต๊ะ ซึ่งผลไม้ที่แนะนำมีดังนี้
1. กล้วย
รสชาติหวานอร่อย ย่อยง่าย อีกทั้งกล้วยบดยังมีลักษณะเป็นครีมที่ช่วยให้ลูกกินง่ายขึ้น ในกล้วยมีใยอาหารแบบละลายน้ำ ช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย และยังมีโพแทสเซียมสูงอีกด้วย
2. แอปเปิ้ล
เน้นเป็นแอปเปิ้ลแดงที่มีรสหวาน อ่อนละมุน และย่อยง่าย เป็นผลไม้ที่มีวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิดที่จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็ก ๆ อีกทั้งยังมีไฟเบอร์สูง ช่วยให้ลูกขับถ่ายได้ดีขึ้น
3. อโวคาโด
เป็นผลไม้รสนวล ๆ เนื้อครีมมี่ กินง่าย มีวิตามินอี และกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายโดยเฉพาะหัวใจ แต่ควรจำกัดปริมาณไม่เกิน 2-3 ชิ้นเต๋า เพราะเป็นผลไม้ที่มีไขมันสูง และเด็กบางคนอาจจะไม่ชอบรสชาติของอโวคาโด จึงอาจจะบดผสมกับกล้วยเพื่อเพิ่มรสชาติได้
4. ลูกแพร์
ลูกแพร์มีรสหวานและเต็มไปด้วยไฟเบอร์ ซึ่งป้องกันอาการท้องผูกในทารกได้ รสชาติหวานหอม เป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่เด็กส่วนใหญ่ชื่นชอบรองจากแอปเปิ้ล
5. แคนตาลูป
ผลไม้ที่มีความฉ่ำ เนื้อนุ่ม เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและไฟเบอร์ ช่วยป้องกันปัญหาการย่อยอาหารและท้องผูกในทารก และยังเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีอีกด้วย
6. มะละกอ
เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงอีกอย่างหนึ่ง อุดมไปด้วยไฟเบอร์และกรดโฟลิก ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโต อีกทั้งยังมีเบต้าแคโรทีนที่ช่วยบำรุงสายตาลูกอีกด้วย
7. พรุน
ลูกพรุนอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้ดีมาก และมีวิตามินหลากหลายที่ช่วยบำรุงร่างกายลูกน้อย ทั้งยังมีรสหวานอร่อย จะบดลูกพรุนน้อย ๆ ให้ลูกกินหรือจะนำน้ำลูกพรุนไปผสมในโจ๊กสำหรับเด็กก็ได้
8. ส้ม
วิตามินซีในน้ำส้มช่วยการดูดซึมธาตุเหล็ก และภาวะความเป็นกรดจะช่วยให้การย่อยโปรตีนจากนมดีขึ้น สามารถคั้นน้ำส้มป้อนลูกได้เลย แต่ต้องให้เวลาเขาปรับตัวกับรสชาตินิดนึงนะ เพราะส้มมีรสเปรี้ยว เด็กบางคนอาจจะไม่ชอบ
9. แตงโม
ช่วยทดแทนการขาดน้ำได้ดี รสหวานอ่อน ๆ จะทำให้ลูกรู้สึกสดชื่น มีวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตา ทั้งยังเป็นยาระบายชนิดเบา ช่วยในการขับถ่ายอีกด้วย
10. มะม่วงสุก
มีเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตา และมีสารแอนติออกซิแดนต์ที่ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ รสหวานอร่อย กินง่าย เด็ก ๆ ชอบ
สิ่งสำคัญในการเตรียมผลไม้
เพื่อลูกน้อย
การเตรียมอาหารสำหรับลูกน้อยสำคัญมาก เพราะกระเพาะและลำไส้ของทารกยังไม่แข็งแรง และไม่สามารถย่อยอาหารได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นจึงควรใส่ใจให้มาก โดยแนะนำว่าให้ทำดังนี้
- นึ่งผลไม้ก่อนบด การนึ่งผลไม้ช่วยให้การย่อยอาหารง่ายขึ้นในเด็กเล็ก จึงควรนึ่งก่อนจะนำไปบดหรือปรุง
- เสิร์ฟแบบอุ่น ๆ และปรุงสดเท่านั้น แม้ผลไม้บางชนิดจะเก็บไว้ได้นาน และหากทิ้งไว้หลังบดอาจทำให้สูญเสียคุณค่าทางโภชนาการ และอาจทำให้เด็กท้องอืดได้
- ลองให้ลูกกินผลไม้แยกแต่ละชนิดก่อนนำมาผสมกัน เพื่อให้เด็ก ๆ ได้จดจำรสชาติของผลไม้แต่ละชนิด ก่อนที่จะได้เรียนรู้การผสมผสานรสชาติของผลไม้
- ถ้าผลไม้บดมีเนื้อข้นไป สามารถนำมาผสมน้ำอุ่น นมแม่ หรือนมวัวได้ เพื่อให้เนื้อผลไม้เนียนนุ่ม และกินง่ายขึ้น แต่ถ้าจะผสมนม อย่าผสมน้ำลงไปด้วย เพราะอาจตีกันและทำให้ลูกท้องเสีย
- สังเกตอาการลูกแต่ละครั้งในการป้องผลไม้ว่าเขาชอบหรือไม่ชอบอะไร มีอาการแพ้หรือไม้ เพื่อที่จะแก้ปัญหาได้ทันท่วงที
ผลไม้ถือเป็นอาหารอีกชนิดหนึ่งซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายของลูกมาก ๆ ดังนั้นนอกจากนมแม่แล้ว การป้อนผลไม้ที่หลากหลายก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีที่จะทำให้เขาเติบโตแข็งแรงค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : gkfooddiary.com, mylittlemoppet.com, healthyeating.sfgate.com