วิจัยชี้พ่อแม่สูบบุหรี่ ส่งผลต่อพฤติกรรมลูก

ห้ามสูบบุหรี่



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


          เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอรส์ เปิดเผยผลวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของการสูบบุหรี่ที่มีต่อพฤติกรรมและสุขภาพจิตลูกน้อยว่า การที่พ่อแม่สูบบุหรี่นั้น ทำให้ลูกน้อยมีสมาธิสั้นและมีพฤติกรรมในทางลบได้ง่าย

          โดย มาร์ค แฮมเมอร์ หัวหน้าทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอนได้เปิดเผยว่า ใคร ๆ ก็รู้ว่าผลกระทบของการสูดกลิ่นควันบุหรี่นั้นก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพร่างกายของเด็ก แต่จะมีกี่คนที่รู้ว่าควันบุหรี่ส่งผลต่อสุขภาพจิตเช่นกัน

          ปัจจุบันนี้ 2 ใน 3 ของเด็กอายุระหว่าง 3-11 ปีในสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากการสูดดมควันบุหรี่ ขณะที่ 1 ใน 5 ของเด็กอายุ 9-17 ปี ได้สูดกลิ่นควันบุหรี่ถึงขั้นเสพติด และมีภาวะผิดปกติทางจิตแล้ว และจากการศึกษาโดยการตรวจปริมาณควันบุหรี่จากน้ำลายของเด็กวัย 4-8 ปี จำนวน 901 คน พบว่า เด็กที่ได้รับควันบุหรี่เข้าสู่ร่างกายมากจะมีสุขภาพจิตอยู่ในเกณฑ์ย่ำแย่ และมีพฤติกรรมที่ค่อนข้างติดลบ ขณะที่เด็กที่ได้รับควันบุหรี่น้อยที่สุด มีสุขภาพจิตดี และมีพัฒนาการทางสมองที่ดีด้วย ดังนั้น พ่อแม่จึงต้องพยายามให้ลูกน้อยอยู่ห่างไกลจากควันบุหรี่ และได้รับควันบุหรี่เข้าสู่ร่างกายให้น้อยที่สุด เพื่อสุขภาพจิตที่ดี อีกทั้งยังมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคได้น้อยกว่าเด็กคนอื่น ๆ

          ทั้งนี้ ทีมวิจัยยังพบอีกว่า ควันบุหรี่ต้นเหตุทำลายสุขภาพจิตของเด็ก ๆ นั้น ส่วนใหญ่มาจากในบ้านของเด็กทั้งนั้น นั่นหมายถึง พ่อและแม่ของเด็กเอง ที่สูบบุหรี่โดยไม่ตระหนักถึงโทษร้ายที่ลูกจะได้รับ จึงทำให้เด็กได้รับควันบุหรี่เข้าสู่ร่างกายและบุหรี่มือสองก็เป็นอันตรายกว่าผู้สูบเองเสียอีก ดังนั้น ก็คงจะถึงเวลาแล้วที่พ่อแม่ควรจะตระหนักถึงภัยร้ายที่แฝงอยู่ในควันบุหรี่ ที่ไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดมะเร็งและโรคต่าง ๆ ได้ง่ายแล้ว ยังทำลายสุขภาพจิต จนทำให้ลูกน้อยมีพฤติกรรมที่เลวร้าย และคงถึงเวลาแล้ว ที่พ่อแม่ ไม่เพียงแค่เลี่ยงการสูบบุหรี่ต่อหน้าลูกเท่านั้น แต่ควร "เลิก" สูบบุหรี่ไปโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ ก็เพื่อสุขภาพกายและจิตใจที่ดีของลูก และยังทำให้ตัวพ่อแม่เองมีสุขภาพดีอีกด้วย




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วิจัยชี้พ่อแม่สูบบุหรี่ ส่งผลต่อพฤติกรรมลูก อัปเดตล่าสุด 19 มีนาคม 2554 เวลา 13:47:25 1,956 อ่าน
TOP
x close