ถ่ายรูปลูกเล็กแบบช่างภาพมือโปร


baby

ถ่ายรูปลูกเล็กแบบช่างภาพมือโปร
(modernmom)

          เจ้าตัวเล็กเป็นขวัญใจของทุกคนในครอบครัว คุณพ่อคุณแม่คงอดไม่ได้ ที่จะคว้ากล้องขึ้นมาบันทึกภาพความน่ารักเก็บไว้ แต่เจ้าตัวเล็กไม่ยอมอยู่นิ่ง ภาพถ่ายเลยออกมาชัดบ้างเบลอบ้าง ไม่สวยบ้าง อย่างที่ตั้งใจ Modern Mom มีเทคนิคดี ๆ จากสองช่างภาพประจำนิตยสารของเรามาฝากครับ

           Step 1 : รู้จังหวะเวลา พ่อแม่เป็นคนที่รู้ใจลูกมากที่สุดว่า ช่วงเวลาไหนที่ลูกมีอารมณ์สดใสร่าเริง เช่น เวลาตื่นนอน อาบน้ำ หรือกินนมอิ่ม ถ้าโตขึ้นมาอีกนิดอาจเป็นช่วงเวลาที่ได้วิ่งเล่นซุกซน การหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปในช่วงนี้ ภาพลูกที่ถ่ายออกมาก็จะน่ารักและดูมีชีวิตชีวา

          Tips : อย่าบังคับให้ลูกยิ้ม ยืนนิ่ง ๆ หรือใช้กล้องจด ๆ จ้องเล็งเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้ลูกเกร็ง ภาพถ่ายที่ออกมาก็จะดูไม่เป็นธรรมชาติและขาดความสดใสในแววตา

           Step 2 : ฉากหลังไม่รกรุงรัง การถ่ายภาพลูกให้ออกมาดูโดดเด่น ควรเลือกฉากหลังที่ไม่รุงรังหรือถ้าถ่ายภาพตามอาคารสถานที่ต่าง ๆ ควรใช้ฉากหลังที่ไม่สะท้อนแสง เช่น ฝาผนังทาสีเรียบ และมีโทนค่อนข้างมืด

          Tips : ให้ลูกอยู่ห่างจากฉากหลังพอสมควร เพื่อกันไม่ให้เงาตกลงบนตัวลูก รวมไปถึงชุดที่เลือกให้ลูกใส่ ก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับสถานที่ และไม่ฉูดฉาดจนเกินไป

           Step 3 : ระวังการใช้แสงแฟลช เด็กทารกนับแต่วัยแรกเกิดไปจนถึงวัยเด็กเล็ก ไม่ควรถ่ายภาพโดยใช้แฟลชยิงตรงเข้าตา เพราะแสงแฟลชเป็นอันตรายสำหรับดวงตาอันบอบบางของลูก คุณพ่อคุณแม่ควรปิดแฟลชและปรับตั้งกล้องเลือก ISO สูง ๆ และตั้งความเร็วชัตเตอร์โหมด P เพื่อถ่ายภาพแบบออโต้

          Tips : การถ่ายภาพเด็กของสตูดิโอที่ทำงานเกี่ยวกับเด็ก โดยเฉพาะจะมีซอฟต์บล็อก เพื่อช่วยกรองแสงแฟลช ไม่ให้แสงกระทบตาเด็กโดยตรง

           Step 4 : รอจังหวะแสง แสงยามเช้าและช่วงเย็นภายนอกตัวบ้านเหมาะกับถ่ายภาพลูกมากที่สุด หรือแสงที่ส่องผ่านหน้าต่างและประตู เพราะจะได้ภาพที่ดูดีมีมิติของแสง หากถ่ายภาพในบ้านที่แสงมืดแล้วใช้แฟลช ภาพจะแบนไม่สวย ถ้าเป็นไปได้อาจใช้มุมถ่ายภาพด้วยแสงบริเวณนอกบ้าน เช่น ระเบียงมุมในสวน สนามหญ้า หรือสระว่ายน้ำจะดีกว่า แต่ต้องเลือกช่วงเวลาที่แสงไม่แรงจนเกินไป เพราะแสงอาจสะท้อนเข้าตาลูก ทำให้ลูกหยีหรือหลับตาได้

          Tips : ระวังการถ่ายภาพย้อนทางแสงอาทิตย์ เพราะภาพลูกที่ถ่ายออกมาจะดำมือเกินความเป็นจริง

           Step 5 : หาของเล่นจูงใจ ตามธรรมชาติของเด็ก บางครั้งเขาอาจไม่สนใจมองกล้องขณะถ่ายภาพ และชอบทำอะไรซ้ำ ๆ นาน ๆ คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องใช้ความอดทน และมีวิธีการทำให้เจ้าตัวเล็กหันมาสนใจกล้อง ถ้าเป็นลูกเล็กของเล่นเขย่าแล้วมีเสียงนี่แหละครับ ที่จะสร้างความสนใจให้ลูกเพ่งมอง หรือถ้าเป็นเด็กโต อาจใช้ของเล่นที่เขาชื่นชอบหรือใช้สัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนเล่น ถ่ายไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่ก็จะได้ภาพประทับใจ

           Step 6 : ถ่ายภาพระนาบเดียวกับเด็ก อย่าลืมว่าเมื่อลูกเริ่มหัดเดินหรือเดินเล่น ขนาดความสูงของเด็กต่ำกว่าสายตาผู้ใหญ่มาก การถ่ายภาพให้มีชีวิตชีวาเราต้องลงไปนั่งคุกเข่า ย่อตัว นอนราบกับพื้น เพื่อให้ได้ระดับสายตาเดียวกับลูก หรือถ่ายมุมเงยหน้าเล็กน้อย ภาพที่ออกมาจะสามารถสื่อสารทางอารมณ์ด้วยสายตาที่มีต่อกล้อง
         
          Tips : ระวังการถ่ายภาพมุมกด เพราะภาพที่ถ่ายออกมาดวงตาของเล็กๆ ของลูกดูเล็กลงเหมือนนอนหลับตา

           Step 7 : ถ่ายตามธรรมชาติ บางครั้งการถ่ายภาพเด็กให้มีอารมณ์ร่าเริงแจ่มใส อาจไม่จำเป็นต้องจัดองค์ประกอบภาพหรือฉากให้ยุ่งยาก แต่ใช้เทคนิคการถ่ายในลักษณะที่เป็นธรรมชาติของเด็กมากที่สุด หรือการถ่ายเวลาเผลอ ภาพของลูกที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติและบอกถึงอารมณ์ในช่วงเวลานั้น ๆ ได้ด้วย

          Tips : บางครั้งเด็กอาจจะทำกิจกรรมต่าง ๆ และไม่อยู่นิ่งถ้าคุณพ่อคุณแม่เตรียมกล้องไว้ให้พร้อม และปรับสปีดชัตเตอร์ให้สูงกว่าปกติ ก็จะไม่พลาดภาพที่ประทับใจนั้นไปได้

          การถ่ายภาพลูกไม่ยากเลยใช่ไหมครับ ด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ เพียงเท่านี้ ก็สามารถทำให้คุณพ่อคุณแม่เ ก็บภาพความประทับใจในแต่ละช่วงเวลาของลูกน้อย ได้อย่างมืออาชีพแล้ว

          "การถ่ายรูปเด็กให้น่ารัก เราต้องใช้เวลาคลุกคลีกับเขาให้มาก ๆ ต้องเข้าใจอารมณ์เด็ก อย่าบังคับ ที่สำคัญความน่ารักของลูกจะออกมาได้มากแค่ไหน พ่อแม่ย่อมจะรู้ดีที่สุด่าลูกของตัวเอง ถ่ายภาพมุมไหน ทำผมหรือแต่งตัวอย่างไร ถึงจะดูน่ารักไม่ยากค่ะ แต่ต้องหมั่นฝึกฝน"

          "สิ่งที่แน่นอนอย่างหนึ่งเกี่ยวกับเด็กคือความไม่แน่นอน เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าช่วงเวลาต่อไปเด็กจะทำอะไร จะเป็นอย่างที่เราคิดหรือไม่ พ่อแม่ที่อยากถ่ายรูปลูกให้ออกมาน่ารัก ต้องหมั่นสังเกตพฤติกรรมของลูกบ่อย ๆ รู้ใจลูก ถ้าทำได้การถ่ายรูปลูกก็ไม่ใช่เรื่องยาก"

          "การถ่ายภาพเด็กให้ออกมาน่ารัก เราต้องเรียนรู้ธรรมชาติของเด็กด้วย เพราะเด็กเล็ก ๆ มักซนไม่อยู่นิ่ง การถ่ายภาพเด็ก จึงต้องอาศัยจิตวิทยาความเข้าใจ ประกอบกับความอดทนภาพของเด็กที่ออกมาจึงจะสมบูรณ์สวยงาม และมีชีวิตชีวา




ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.15 No.179 กันยายน 2553

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ถ่ายรูปลูกเล็กแบบช่างภาพมือโปร อัปเดตล่าสุด 2 มิถุนายน 2554 เวลา 22:28:43 3,856 อ่าน
TOP
x close