ลูกขี้ฟ้อง รับมืออย่างไรดี

ลูกขี้ฟ้อง รับมืออย่างไรดี (M&C แม่และเด็ก)

             "นอกจากหนูจะขี้อิจฉาแล้ว หนูยังขี้ฟ้องอีกต่างหาก คุณแม่จะทำอย่างไรดีค่ะ" คำถามนี้ของคุณแม่ท่านหนึ่ง น่าจะเป็นเสียงสะท้อนของคุณแม่หลายๆ ท่านที่มีลูกวัยประมาณ 3 ขวบ ซึ่งมักเอามาฟ้องแม่ได้ทุกวัน ทีนี้คุณแม่จะรับมืออย่างไรดีนั้น หรือจะคล้อยตามลูกดี เราเลยรวบรวมวิธีจัดการกับเจ้าหนูขี้ฟ้องมาแนะนำค่ะ

สาเหตุที่หนูช่างฟ้อง

             ต้องการเรียกร้องความสนใจ เด็กบางคนมีนิสัยส่วนตัว เป็นคนเรียกร้องความสนใจทั้งจากพ่อแม่ จากเพื่อน จากคุณครูบ้าง การที่เขานำเรื่องของคนอื่นมาฟ้อง เขาจะรู้สึกถึงความเก่งในตัวเอง และรู้สึกว่าเขาเป็นที่สนใจ ต้องการได้รับคำชมจากคนที่เขานำเรื่องมาฟ้อง บางทีเด็กไม่มีเรื่องจะฟ้องหรือเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย เขาก็สามารถพูดให้มันเป็นเรื่องใหญ่ได้

             เห็นว่าสิ่งนั้นไม่ถูกต้อง เด็กวัยนี้เขาจะมีบรรทัดฐานของความถูกต้อง มีระเบียบอยู่ในตัว จากการฟังจากพ่อแม่ จากคุณครู ซึ่งบางทีการกระทำของคนที่เขาฟ้องอาจไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่มันไม่ถูกต้องในความรู้สึกของเขา เขาก็จะตักเตือนในทันที แต่เมื่อคน ๆ นั้นไม่ทำตามเขาบอก เขาก็จะนำเรื่องนั้นไปฟ้องผู้ใหญ่คนอื่น

             ต้องการแก้แค้น บางทีที่เด็กทำไป ก็เพราะต้องการให้เพื่อนอีกคนถูกลงโทษ อาจเพราะไม่ชอบหน้า ไม่ชอบนิสัยเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว เด็กสองคนนั้นอาจจะมีเคยทีเรื่องกันมาก่อน อย่างเช่น ทะเลาะแย่งของเล่นกัน คนที่แพ้อาจจะแค้น และหาโอกาสเอาคืน ซึ่งเป็นธรรมชาติของเด็ก แต่ไม่ว่าเด็กจะช่างฟ้องเพราะสาเหตุใดก็ตาม พ่อแม่ผู้ปกครองคงไม่ชอบอย่างแน่นอน อย่างนี้แล้วมาหาวิธีรับมือกับเด็กช่างฟ้องดีกว่าค่ะ

รับมือ เมื่อหนูช่างฟ้อง

             รับฟังและวิเคราะห์หาสาเหตุ ตอนที่ลูกเดินเข้ามาฟ้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ให้คุณแม่รับฟังเขาเสียก่อน อย่าเพิ่งเดินหนี หรือไม่รับฟังนะคะ เพราะบางทีเรื่องที่เขานำมาเล่าอาจจะเป็นเรื่องสำคัญก็ได้ เมื่อรับฟังแล้วให้คุณแม่พิจารณาเรื่องที่เขาพูดให้ถี่ถ้วน แล้วค่อยตัดสินใจค่ะ คราวหลังคุณแม่ก็จะได้ตัดสินใจและรู้ว่าลูกมีนิสัยอย่างไร ก็จะสามารถหาทางออกได้ในวันหน้าค่ะ

             อย่าเก็บเรื่องทุกอย่างไว้ การช่างฟ้องไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเด็ก แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ยอมพูดยอมเล่าอะไรเลยนะคะ ลูกคนไหนที่ไม่ยอมพูดเลยก็ไม่ดีค่ะ ต้องสอนให้ลูกรู้จักเล่าในเรื่องที่ควรเล่า เช่น หากโดนเพื่อนแกล้ง ต้องบอกผู้ใหญ่ ไม่ใช่เก็บไว้คนเดียว คราวหลังลูกอาจจะโดนอีก อย่างนี้เป็นต้นค่ะ

             ให้ลูกแก้ปัญหาเอง คุณแม่ควรสอนให้ลูกรู้จักป้องกันตัวเอง เป็นที่พึ่งให้ตัวเองก่อน เพื่อฝึกนิสัยที่ดีให้เขากล้าตัดสินใจและเชื่อมั่นในตัวเอง ให้เขาระลึกเสมอว่าพ่อแม่ไม่ได้อยู่กับเขาตลอดเวลา และการช่วยเหลือตัวเองให้ได้นั้น จะฝึกให้เขาเป็นคนที่เข้มแข็ง คราวหน้าคราวหลังที่เกิดเรื่องแบบนี้อีก จะได้ไม่มีใครมารังแกเขาได้ค่ะ

             อธิบายให้ลูกเห็นการที่เป็นคนช่างฟ้อง ให้คุณแม่อธิบายถึงเรื่องที่ไม่ดีของการเป็นคนช่างฟ้อง อาจยกตัวอย่างคนรอบตัวจากนิทานประกอบ ว่าการมีนิสัยขี้ฟ้องบ่อยๆ ฟ้องทั้งที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ พร่ำเพรื่อ การกระทำเช่นนี้อาจทำให้ไม่มีใครอยากมาเล่นกับหนู ไม่มีใครไว้วางใจ และอนาคตอาจจะไม่มีเพื่อนก็ได้

             ให้คำแนะนำก่อนที่จะจัดการให้ เมื่อเกิดปัญหาแล้วลูกมาฟ้อง คุณแม่อาจจะแนะนำวิธีการ แล้วให้เขาลองปฏิบัติตามก่อน ก่อนที่คุณแม่จะยื่นมือเข้าช่วย

             โดยธรรมชาติของเด็กวัย 3 ขวบ เขากำลังหัดพูด เป็นธรรมดาที่เขาจะช่างพูด ช่างจินตนาการ ต้องการเรียกร้องความสนใจ และในขณะเดียวกัน เขาก็ไม่สามารถแยกแยะระหว่างสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ มีพฤติกรรมหลายอย่างที่ดูไม่เหมาะสม เป็นเพราะเขาเริ่มมีอะไรเข้ามาใหม่ มีสังคมใหม่ เริ่มช่วยเหลือตัวเองได้ เหล่านี้เป็นต้นที่ทำให้เขาเปลี่ยนไป พ่อแม่ต้องทำความเข้าใจและพยายามเรียนรู้ในตัวเขา โดยตั้งอยู่บนเหตุผล และความเข้าใจ อย่าใช้อารมณ์โดยเด็ดขาดค่ะ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก