
แพ้อากาศ...โรคฮิตของเด็กเมือง (modernmom)
โดย: ศ.เกียรติคุณ น.พ.มนตรี ตู้จินดา
โรคแพ้อากาศ หรือที่เรียกว่า Allergic Rhinitis พบว่าเด็ก ๆ เป็นกันมากขึ้น โดยเฉพาะเด็กในเมืองที่มีวิถีชีวิตวัฒนธรรมการกินอยู่เปลี่ยนไป ซึ่งจากการวิจัยพบว่ามีทั้งเด็กและผู้ใหญ่เป็นโรคแพ้อากาศนี้ถึง 30% แถมมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย
แพ้อากาศ ติดลมบน!!
ชื่อโรคแพ้อากาศนี้ทำให้คนเข้าใจผิดกันมามาก เพราะเข้าใจว่าเด็กแพ้อากาศหายใจเข้าไปทุกวัน แต่ความจริงแล้วสิ่งที่แพ้ก็คือสารที่แฝงตัวอยู่ในอากาศต่างหาก อย่างเช่น ไรฝุ่น ขี้แมลงสาบ เกษรดอกไม้ เป็นต้น
สำหรับสาเหตุที่โรคแพ้อากาศมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ก็มาจากคนไทยได้เปลี่ยนวิถีชีวิตการกินอยู่ไปจากเดิม สมัยก่อนบ้านที่อยู่ก็จะมีลักษณะโล่งโปร่งลมพัดเข้าออก ข้าวของไม่เยอะ แต่สมัยนี้นิยมติดเครื้องปรับอากาศในห้อง ปูพรม เลี้ยงสัตว์ในห้อง ปิดหน้าต่าง ทำให้ฝุ่นฟุ้งอยู่ในบ้าน และยังมีเรื่องอาหารการกินที่นิยมตามกระแสตะวันตก เน้นเนื้อ นม ไข่ ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นภูมิแพ้ทั้งนั้น หากอยู่กินแบบธรรมชาติโอกาสเกิดอาการแพ้ในธรรมชาติก็จะน้อยลง
ต้นเหตุ ... เด็กยอมแพ้ (อากาศ)


อีกอย่างที่สำคัญที่สุดคือ เศษหรือขี้แมลงสาบ เพราะเมื่อเจ้าแมลงเหล่านี้ตายแล้ว ซากป่น ๆ จะปลิวมาในอากาศ ทำให้เราสูดดมเข้าไปเป็นประจำโดยไม่รู้ตัว
ส่วนสิ่งแวดล้อมภายนอกก็จะเป็นเกษรดอกไม้ เกษรหญ้า เกษรวัชพืช หรือเชื้อราในอากาศ ยิ่งไปกว่านั้นฤดูกาลก็อาจจะทำให้อาการแพ้อากาศเพิ่มขึ้นได้ด้วย อย่างเช่น ฤดูฝนมีความชื้นมากทำให้คัดจมูกมากขึ้น ส่วนฤดูหนาวเด็กที่แพ้อากาศจากเกษรดอกไม้จะมีอาการกำเริบขึ้น เนื่องจากมีดอกหญ้าปลิวตามลมมาเป็นจำนวนมากเป็นต้น
หากครอบครัวของคุณหรือว่าเจ้าหนูไม่มีอาการแพ้สารใด ๆ มาก่อน ก็อย่าเพิ่งวางใจนะครับ เพราะหากคุณพ่อคุณแม่ปล่อยให้บ้านรก ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนไม่เคยทำความสะอาด หากเด็กสูดเข้าทุกวัน ๆ ก็อาจจะเกิดภูมิแพ้ขึ้นมาได้เหมือนกัน
นี่แหละอาการแพ้
การที่เด็กแพ้ของที่อยู่ในอากาศจะทำให้เกิด น้ำมูกไหล คัดจมูก แน่นจมูก หายใจไม่ค่อยออก จาม หรือบางทีก็มีอาการคันตาร่วมด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้จะเป็นๆ หายๆ เรื้อรัง กินเวลาเป็นเดือนเป็นปี ทำให้เด็กหงุดหงิด นอนไม่ค่อยหลับ ไม่มีสมาธิในการเรียนหรือเล่น
นอกจากนี้อาจจะมีอาการแทรกซ้อน เช่น อาการติดเชื้อซ้ำ หูอักเสบ เจ็บคอ หรือบางทีอาจเป็นไซนัสอักเสบร่วมด้วย เพราะว่าเมื่อมีน้ำมูกมากเชื้อโรคก็จะเข้าสู่จมูกได้ง่าย ทำให้แพร่เชื้อเข้าไปในโพรงไซนัสหรือเข้าไปในหูชั้นกลาง เนื่องจากมีท่อเชื่อมโยงติดต่อกันอยู่ภายใน
สำหรับในเด็กเล็กก็สามารถแพ้อากาศได้เหมือนผู้ใหญ่ แต่บางทีการแพ้นั้นไม่ได้มาจากแพ้อากาศโดยตรง มักจะแพ้จากอาหารอย่างเช่น นมวัว ไข่ ฯลฯ โดยจะออกอาการในรูปแบบคล้ายกันได้ เช่น น้ำมูกไหล ผื่นคัน แต่หากเด็กโตประมาณ 3 ขวบขึ้นไป มักพบอาการเหล่านี้จากอากาศมากกว่าอาหาร
ทั้งนี้มีงานวิจัยจากอเมริกาพบว่าโรคแพ้อากาศและ โรคหืด เป็นโรคที่ทำให้เด็กหยุดโรงเรียนมากที่สุด เสียค่าใช้จ่ายมากเอาการหากควบคุมอาการได้ไม่ดีพอครับ
รักษา...หากลูกแพ้
อย่างแรกคือต้องหลีกเลี่ยงหากรู้ว่าลูกแพ้สาร อะไร จากนั้นก็มีการให้ยาตามอาการ ยาลดน้ำมูก และยาแก้แพ้ต่าง ๆ เมื่อมีปฏิกิริยาแล้วจะได้ไม่แสดงอาการ ซึ่งยาแก้แพ้ยุคก่อนจะทำให้เด็กง่วงซึม ทว่าสมัยนี้มีการพัฒนามีฤทธิ์ไม่ให้ง่วงซึมแล้ว แต่ว่าต้องได้รับจากแพทย์เท่านั้นถึงจะปลอดภัยกว่า
ถ้ายังไม่ดีขึ้นคุณหมออาจจะฉีดยาเสริมภูมิ คือเอาสารที่เด็กแพ้มาสกัด แล้วฉีดให้ทีละนิดคล้ายกับฉีดวัคซีน เพื่อให้ร่างกายเคยชินกับสารตัวนี้ เมื่อสารตัวนี้เข้าไปในร่างกายจะได้ไม่ค่อยมีอาการแพ้ขึ้นมา แต่การรักษาแบบนี้จะต้องกินเวลา ไม่เหมือนวัคซีนที่ฉีดครั้งเดียวคุมไปชั่วชีวิต แต่วิธีนี้ถ้าฉีดมากไปก็อาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามการให้ยาถือเป็นการรักษาปลายเหตุ ควรเลือกป้องกันจะดีที่สุดครับ
7 ไม้เด็ดป้องกันแพ้อากาศ







เชื่อว่าถ้าป้องกันสาเหตุไม่ให้ก่อกวนถึงตัวได้ โรคน่าเบื่ออย่างแพ้อากาศก็จะค่อย ๆ ห่างหายไม่มาสร้างความรำคาญให้กับเจ้าตัวเล็กบ่อย ๆ อีกแล้ว
เป็นหวัดหรือแพ้อากาศ?
"คุณพ่อคุณแม่บางครั้งอาจจะสงสัยว่าลูกแพ้อากาศ หรือเป็นหวัดคัดจมูกกันแน่ วิธีสังเกตง่าย ๆ ก็คือ โรคไข้หวัดมักจะมีอาการไข้ร่วมด้วย และมักจะเป็นระยะสั้น ๆ 3-5 วันก็จะหายไป ไม่ค่อยเป็นซ้ำกันในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ส่วนแพ้อากาศไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ แต่เกิดจากสารที่เด็กแพ้เข้ามามีปฏิกิริยากับเซลล์ในร่างกาย ทำให้มีการหลั่งสารเคมีบางอย่างออกมา"
Percent UP!!!



เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
