x close

นิทานอีสป ต้นโอ๊กกับต้นอ้อ นิทานก่อนนอนสนุก ๆ พร้อมภาพประกอบ

          นิทานอีสป ต้นโอ๊กกับต้นอ้อ เรื่องราวสอนใจดี ๆ ที่จะปลูกฝังเรื่องความอ่อนโยนไม่แข็งกระด้างให้ลูกน้อยได้ฟังก่อนนอน
   

          การอ่านนิทานให้ลูกน้อยได้ฟัง นอกจากจะได้ใช้เวลาร่วมกันและสร้างความอบอุ่นในครอบครัวแล้ว นิทานหลาย ๆ เรื่องยังช่วยเสริมจินตนาการให้เด็ก ๆ กลับไปคิดต่อยอดถึงเรื่องราวในนิทานนั้นได้อีกด้วย วันนี้กระปุกดอทคอมจึงนำเอา นิทานอีสป ต้นโอ๊กกับต้นอ้อ มาฝาก นอกจากจะมีเรื่องราวสนุกสนานน่าติดตามแล้ว ยังนับว่าเป็นนิทานสอนใจเรื่องความอ่อนโอนไม่แข็งกระด้างได้อีกหนึ่งเรื่อง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น มาติดตามกันได้เลย

          กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว กลางผืนป่าอันแสนร่มรื่นอุดมสมบูรณ์ มีต้นโอ๊กใหญ่ยืนแผ่กิ่งใบอย่างสง่างาม จนสัตว์ป่าที่ผ่านไป-มาได้อาศัยพักพิง อีกทั้งสัตว์เหล่านั้นก็ชื่นชมในความแข็งแกร่งของมัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ต้นโอ๊กรู้สึกภาคภูมิใจ นานวันเข้าจากการภูมิใจก็แปรเปลี่ยนเป็นความลำพองตน คิดว่าตัวเองมีอำนาจถึงขั้นเป็นที่พึ่งพาแก่คนอื่นได้

นิทานอีสป

          "เจ้าโอ๊กน้อยเอ๋ย ดูสิ ในป่าผืนนี้ไม่ว่าใครต่างก็ต้องพึ่งพาเราทั้งนั้น นกน้อยก็บินมาเกาะพัก สัตว์ป่าก็อาศัยหลับนอนที่โคนต้น ข้าภูมิใจเหลือเกิน" ต้นโอ๊กใหญ่กล่าวกับต้นโอ๊กน้อยที่ขึ้นอยู่ใกล้ ๆ

          "เพราะเราเกิดมาโชคดีกว่าใครเลยตัวใหญ่จนไม่มีผู้ใดมาทำอันตรายได้" โอ๊กน้อยตอบกลับ


          "ใช่แล้ว ในป่าแห่งนี้ ไม่มีอะไรมาทำลายเราได้แน่นอน ฮ่า ๆ" ต้นโอ๊กใหญ่กล่าวพร้อมหัวเราะอย่างทะนงตน

          ผ่านไปไม่กี่ปี พื้นที่ตรงนั้นเริ่มมีสายน้ำแผ่ขยายมา ทำให้ต้นอ้อที่ชอบขึ้นบริเวณชุ่มชื้นได้เติบโตขึ้น ต้นโอ๊กใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจึงกล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงโอ้อวด

นิทานอีสป
          
          "สวัสดีเจ้าต้นอ้อน้อย เจ้านี่ช่างตัวเล็กบอบบางเหลือเกินนะ สบายดีหรือไม่ล่ะ"


          "สวัสดีคุณต้นโอ๊กสูงใหญ่ ฉันสบายดีและสุขใจมาก ถึงจะตัวเล็กบอบบางแต่ก็ไม่เป็นอะไร" ต้นอ้อกล่าวตอบต้นโอ๊กด้วยน้ำเสียงสดใสและถ่อมตน

          "ฮ่า ๆ ๆ ๆ อย่างนั้นหรือ ทั้งรากอันแสนสั้นกับลำต้นที่เปราะบางจนปลิวไป-มาแม้ลมพัดเบา เจ้าจะมีความสุขได้อย่างไร" ต้นโอ๊กกล่าวด้วยความสงสัยพลางขำขันไปด้วย พร้อมหันมาพูดต่อ

          "ลองยืดรากลงดินแล้วยืดลำต้นให้สูงเท่าฟ้าแบบเราดูสิ ต่อให้มีอันตรายมาถึงตัวแค่ไหนก็ทำอะไรเราไม่ได้หรอก ฮ่า ๆ ๆ ๆ" ต้นอ้อได้แต่รับฟังเงียบ ๆ ไม่โต้ตอบอะไรสักนิด

          อยู่มาวันหนึ่ง พายุลูกใหญ่ได้เคลื่อนผ่านป่าแห่งนี้ ทั้งลมและสายฝนพัดกระหน่ำอย่างรุนแรงแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำเอาสิ่งมีชีวิตในป่าต่างหนีหลบภัยด้วยความหวาดกลัว เหลือแค่ต้นโอ๊กใหญ่ที่เชื่อมั่นว่าพายุจะทำอะไรตนไม่ได้ "ลมพัดแค่นี้ทำอะไรเราไม่ได้หรอก ต้นเราใหญ่โตแข็งแกร่งขนาดนี้ ไม่มีทางล้มลงแน่นอน"

นิทานอีสป

          ด้านต้นอ้อผู้บอบบางไม่นึกหวั่นอะไรมาก เพราะตัวมันเองก็ลู่ไปตามลมได้ตลอดเวลา ไม่คิดขัดขืนอะไร ลมแรงแค่ไหนก็ทำอันตรายต้นอ้อไม่ได้ ต้นโอ๊กใหญ่เห็นต้นอ้อเอนไปเอนมาแบบนั้นเลยหัวเราะใส่พร้อมพูดถากถาง

          "โธ่ เจ้าต้นอ้อกระจิริดเอ๋ย ยอมแพ้เสียเถิด ลมแรงขนาดนี้เจ้าคงไม่รอดหรอก มัวแต่เอนไปเอนมาเสียเวลาเปล่า" พูดไม่ทันขาดคำ ต้นโอ๊กใหญ่ก็ล้มลง รากที่ฝังอยู่ใต้ดินลึกก็โผล่มาให้เห็นด้วย ส่วนต้นอ้อก็ยังปลิวไหวไปตามลมจนกระทั่งพายุพัดผ่านไป

นิทานอีสป

          อีก 2-3 วันต่อมา ชาวบ้านผ่านมาเห็นต้นโอ๊กที่ล้มลงจึงเอาเลื่อยมาตัดไม้ออกมาเพื่อเอาไว้ใช้สอยและสร้างบ้านเรือน ทิ้งไว้เพียงพื้นที่ว่างเปล่าอันเคยมีต้นโอ๊กตั้งอยู่ ด้านต้นอ้อผู้อ่อนโยนและโอนอ่อนไปกับลมก็ยังคงยืนต้นอย่างสำราญไปอีกนานแสนนาน


นิทานอีสป

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :
                                        
          คนที่รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตนและยอมโอนอ่อนผ่อนตามสถานการณ์ ย่อมผ่านพ้นเรื่องต่าง ๆ ไปได้ด้วยดี กลับกันคนที่แข็งกระด้างไม่ยอมปรับตัวมักจะต้องแพ้ภัยจนไปไม่รอดเอง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นิทานอีสป ต้นโอ๊กกับต้นอ้อ นิทานก่อนนอนสนุก ๆ พร้อมภาพประกอบ อัปเดตล่าสุด 19 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 16:12:35 289,773 อ่าน
TOP