นกฮูกกับตั๊กแตน อีกหนึ่งนิทานอีสปสนุก ๆ สำหรับเอาไว้เล่าให้ลูกน้อยฟังก่อนนอนทุกคืน พร้อมข้อคิดเตือนใจดี ๆ
หลายเดือน หลายปีผ่านไป... เจ้านกฮูกที่อาศัยอยู่ในโพรงไม้นั้นได้แก่ตัวลง จะออกหากินแต่ละทีก็เริ่มลำบาก หากวันใดมีเสียงรบกวนช่วงเวลากลางวันก็จะทำให้นอนหลับไม่เต็มอิ่มจนหมดเรี่ยวแรง ถึงแม้ช่วงหลายวันที่ผ่านมาจะยังไร้เสียงหรือผู้ใดคอยรบกวน แต่วันนี้กลับมีเสียงร้องเพลงดังลั่นป่า นกฮูกแก่เลยต้องโผล่หน้าจากโพรงไม้เพื่อสังเกตการณ์ดูว่าใครกันนะที่ฮัมเพลงเสียงดังขนาดนี้
โดยต้นเสียงนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่มันเป็นเสียงขับร้องของตั๊กแตนผู้ย้ายมาใหม่นั่นเอง
"เจ้าตั๊กแตนตัวน้อย ช่วยเบาเสียงลงหน่อยได้ไหม เรานอนไม่ค่อยจะหลับเลย" นกฮูกกล่าวด้วยน้ำเสียงโมโห
"นี่คือเวลากลางวัน ช่วงพระอาทิตย์ส่องแบบนี้ เรามีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้" ตั๊กแตนหันมาตอบแล้วร้องเพลงต่ออย่างสบายใจ นกฮูกเห็นดังนั้นยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ ไม่คิดว่าจะมีใครกล้าเถียงตนได้ขนาดนี้
"ก็บอกเหตุผลมาสัก 1 ข้อสิ ว่าเราได้ประโยชน์อะไรจากการหยุดร้องเพลง... ลั้น ลา ละ ลั้น ลั้น ลา..." ตั๊กแตนร้องเพลงต่ออย่างไม่ไยดี
"ตั๊กแตนผู้มีเสียงอันไพเราะ เราต้องขอโทษทีที่เมื่อครู่นี้ได้ตวาดเจ้าไป มาตอนนี้เราได้ฟังเสียงเจ้าแล้วก็เป็นอันพอใจเพราะเสียงเจ้านั้นไพเราะเสนาะหูเหลือเกิน" นกฮูกออกมาพูดกับตั๊กแตนด้วยน้ำเสียงเยินยอ ทำเอาตั๊กแตนเกิดอาการประหลาดใจ แต่ก็อดยิ้มในคำชื่นชมนั้นไม่ได้
"วันนี้เรามีไวน์ชั้นเลิศ ที่เหล่าทวยเทพทั้งหลายใช้ดื่มช่วยทำให้เสียงใสก้องกังวานมากขึ้น เพื่อเป็นการมอบรางวัลให้ตั๊กแตนผู้ร้องเพลงดีกว่าใคร ได้โปรดขึ้นมาดื่มไวน์ด้วยกันบนนี้เถิด" นกฮูกเชื้อเชิญตั๊กแตนอย่างมีแผนการ
เมื่อตั๊กแตนเดินเข้าไปในโพรงไม้อันมืดสนิท ก็ทำให้มันมองไม่เห็นสิ่งใดเลย ต่างจากนกฮูกที่มองเห็นได้ดี ว่าแล้วนกฮูกเลยได้ทีจัดการกินเจ้าตั๊กแตนจนอิ่มหนำ แล้วก็นอนหลับพักผ่อนอย่างสบายใจไร้เสียงใด ๆ มารบกวนตลอดวัน
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :
อย่าหลงเชื่อคำเยินยอของใครง่าย ๆ เพราะสิ่งที่ร้ายกับเราได้มากที่สุดก็คือการหลงเชื่อคำพูดสรรเสริญอันไพเราะนั่นเอง อีกทั้งเมื่อเกิดความขัดแย้งอะไรกันควรใช้สติปัญญาในการแก้ไขดีกว่านั่งทะเลาะกันทั้งวันให้เสียเวลา