นิทานอีสป ห่านกับไข่ทองคำ นิทานสอนใจพร้อมภาพประกอบสุดน่ารักสำหรับอ่านก่อนนอน ให้เจ้าตัวเล็กได้หลับฝันดีทุกคืน
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังหานิทานสำหรับกล่อมลูกน้อยก่อนนอน วันนี้เราขอนำเสนอนิทานอีสป เรื่อง "ห่านกับไข่ทองคำ" ที่มาพร้อมกับเนื้อเรื่องสนุก ๆ ภาพประกอบน่ารัก ๆ พร้อมข้อคิดคติสอนใจให้เจ้าตัวเล็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับบทเรียนชีวิตอีกด้วย ว่าแล้วก็อย่ารอช้า ตามเราไปอ่านนิทานด้วยกันเลยค่ะ ^^
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีสองตายายผู้แสนยากจนอาศัยอยู่ที่กระท่อมเก่า ๆ ในป่ากว้างอย่างสงบสุข แต่จู่ ๆ วันหนึ่งก็เกิดเรื่องประหลาดขึ้น เมื่อตาเฒ่าพบว่าห่านที่เลี้ยงไว้นั้นออกไข่มาเป็นสีทองอร่าม
"ยาย ๆ ดูนี่สิตาเจออะไร ! ห่านของเราออกไข่มาเป็นทองคำด้วยล่ะ" ตาเฒ่าร้องเสียงดัง
"จริงหรือตาเฒ่า ? จู่ ๆ ห่านมันจะออกไข่มาเป็นทองคำได้ยังไงกัน" ยายเฒ่าถามกลับแบบไม่เชื่อหูตัวเอง
"ถ้ายายไม่เชื่อ เดี๋ยวตาเอาไข่ใบนี้ไปให้ในเมืองดูก่อนแล้วกัน จะได้รู้กันไปเลยว่านี่คือทองคำจริงหรือปลอม" พูดจบตาเฒ่าก็รีบเดินทางไปยังร้านทองในเมืองทันที
เมื่อตาเฒ่ามาถึงร้านทองจึงยื่นไข่ห่านปริศนาให้ช่างทองตรวจดูอย่างละเอียด เมื่อช่างทองยืนยันว่านี่แหละคือทองคำของแท้ ตาเฒ่าก็เสนอขายไข่ทองคำใบนั้นอย่างไม่รอช้า แล้วมุ่งหน้ากลับบ้านไปบอกข่าวดีกับยายด้วยความตื่นเต้น
"ยาย ๆ ไข่ใบนั้นคือทองคำของจริง ตาได้เงินกลับมาตั้งเยอะแน่ะ ต่อไปนี้เราจะรวยกันแล้วนะ !" พูดจบแล้วทั้งสองก็กอดกันอย่างมีความสุข
จากวันนั้นเป็นต้นมา สองตายายก็หมั่นเก็บไข่ทองคำไปขายทุกวัน จนกลายเป็นเศรษฐีและมีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ แต่วันหนึ่งตาเฒ่าก็เริ่มรู้สึกไม่พอใจว่าทำไมห่านของเขาถึงออกไข่ได้เพียงวันละฟองเท่านั้น จึงเกิดความคิดขึ้นมาว่า
"ยายเฒ่า.. วันนี้เราไปผ่าท้องห่านกันดีกว่า จะได้เอาไข่ทองคำทั้งหมดในนั้นไปขายทีเดียว มัวแต่เก็บวันละฟองแบบนี้ มันจะไปทันกินอะไร" ตาเฒ่าเอ่ยชวน
"ก็ดีเหมือนกันนะตา เราจะได้ไม่ต้องเหนื่อยเดินทางเข้าเมืองทุกวัน" ยายเฒ่าเห็นดีเห็นงามไปด้วย
ว่าแล้วก็ไม่รอช้า สองตายายรีบจับห่านมาผ่าท้องทันที แต่ปรากฏว่าในท้องของห่านนั้นไม่มีไข่ทองคำอยู่เลยแม้แต่ฟองเดียว แถมทั้งสองยังต้องสูญเสียห่านของพวกเขาไป โดยไม่มีโอกาสเก็บไข่ทองคำไปขายอีกเลย..
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :
เวลาที่เด็กๆ อยากได้อะไร ต้องรู้จักพยายาม รู้จักขวนขวาย เพราะในโลกของความจริงนั้นไม่มีห่านที่ออกไข่ทองคำให้เราเหมือนในนิทาน ถ้าอยากมีฐานะร่ำรวยก็ต้องเรียนรู้ที่จะประหยัดอดออม ไม่ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย หรือถ้าอยากได้ของเล่นก็ต้องรู้จักเก็บหอมรอมริบ หมั่นหยอดกระปุกทุกวัน และสิ่งที่สำคัญที่สุด เมื่อคุณหนู ๆ ได้สิ่งของที่ต้องการแล้ว ก็ควรพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีกันด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นชีวิตจะไม่เหลืออะไรเลยเหมือนกับสองตายาย หรือเป็นดั่งสุภาษิตไทยที่ว่า "โลภมาก มักลาภหาย" นั่นเอง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีสองตายายผู้แสนยากจนอาศัยอยู่ที่กระท่อมเก่า ๆ ในป่ากว้างอย่างสงบสุข แต่จู่ ๆ วันหนึ่งก็เกิดเรื่องประหลาดขึ้น เมื่อตาเฒ่าพบว่าห่านที่เลี้ยงไว้นั้นออกไข่มาเป็นสีทองอร่าม
"ยาย ๆ ดูนี่สิตาเจออะไร ! ห่านของเราออกไข่มาเป็นทองคำด้วยล่ะ" ตาเฒ่าร้องเสียงดัง
"จริงหรือตาเฒ่า ? จู่ ๆ ห่านมันจะออกไข่มาเป็นทองคำได้ยังไงกัน" ยายเฒ่าถามกลับแบบไม่เชื่อหูตัวเอง
เมื่อตาเฒ่ามาถึงร้านทองจึงยื่นไข่ห่านปริศนาให้ช่างทองตรวจดูอย่างละเอียด เมื่อช่างทองยืนยันว่านี่แหละคือทองคำของแท้ ตาเฒ่าก็เสนอขายไข่ทองคำใบนั้นอย่างไม่รอช้า แล้วมุ่งหน้ากลับบ้านไปบอกข่าวดีกับยายด้วยความตื่นเต้น
"ยาย ๆ ไข่ใบนั้นคือทองคำของจริง ตาได้เงินกลับมาตั้งเยอะแน่ะ ต่อไปนี้เราจะรวยกันแล้วนะ !" พูดจบแล้วทั้งสองก็กอดกันอย่างมีความสุข
"ยายเฒ่า.. วันนี้เราไปผ่าท้องห่านกันดีกว่า จะได้เอาไข่ทองคำทั้งหมดในนั้นไปขายทีเดียว มัวแต่เก็บวันละฟองแบบนี้ มันจะไปทันกินอะไร" ตาเฒ่าเอ่ยชวน
ว่าแล้วก็ไม่รอช้า สองตายายรีบจับห่านมาผ่าท้องทันที แต่ปรากฏว่าในท้องของห่านนั้นไม่มีไข่ทองคำอยู่เลยแม้แต่ฟองเดียว แถมทั้งสองยังต้องสูญเสียห่านของพวกเขาไป โดยไม่มีโอกาสเก็บไข่ทองคำไปขายอีกเลย..
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :
เวลาที่เด็กๆ อยากได้อะไร ต้องรู้จักพยายาม รู้จักขวนขวาย เพราะในโลกของความจริงนั้นไม่มีห่านที่ออกไข่ทองคำให้เราเหมือนในนิทาน ถ้าอยากมีฐานะร่ำรวยก็ต้องเรียนรู้ที่จะประหยัดอดออม ไม่ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย หรือถ้าอยากได้ของเล่นก็ต้องรู้จักเก็บหอมรอมริบ หมั่นหยอดกระปุกทุกวัน และสิ่งที่สำคัญที่สุด เมื่อคุณหนู ๆ ได้สิ่งของที่ต้องการแล้ว ก็ควรพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีกันด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นชีวิตจะไม่เหลืออะไรเลยเหมือนกับสองตายาย หรือเป็นดั่งสุภาษิตไทยที่ว่า "โลภมาก มักลาภหาย" นั่นเอง