การดูแลทารกแรกเกิดง่าย ๆ สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ บอกเลย 10 ข้อนี้สำคัญสุด ๆ รู้แล้วจะทำให้การเลี้ยงลูกคนแรกง่ายขึ้นเยอะ
สำหรับลูกน้อยวัยทารกแล้ว อาหารที่ดีที่สุดของเขาคือ "นมแม่" เพราะมีสารอาหารครบถ้วนและยังสร้างภูมิต้านทานโรคต่าง ๆ ให้ลูกแบบที่หาจากนมไหน ๆ ไม่ได้อีกด้วย ซึ่งองค์การอนามัยโลกแนะนำให้ลูกกินนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน หลังจากนั้นกินนมแม่ร่วมกับอาหารเสริมอื่น ๆ จนถึงอายุ 2 ปี รับรองลูกน้อยสุขภาพแข็งแรง เติบโตสมวัยแน่นอนค่ะ
2. ลูกต้องนอนหลับให้เพียงพอ
ทารกแรกเกิด ถึง 6 เดือนแรก เป็นวัยแห่งการนอนหลับ ซึ่งการนอนที่เพียงพอจะส่งผลให้สมองและร่างกายมีพัฒนาการเต็มที่จึงควรให้ลูกวัยนี้นอนหลับวันละ 18-20 ชั่วโมง โดยปกติเขาจะนอนกลางวันมากกว่ากลางคืน ช่วงกลางคืนจะหลับ 3-4 ชั่วโมงแล้วตื่นมากินนม อิ่มแล้วก็นอนต่อ ช่วงนี้คุณแม่อาจจะดูอิดโรยก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะฉะนั้นเวลาที่ลูกหลับคุณแม่ก็ควรหลับไปพร้อมกับลูกด้วย จะได้มีแรงดูแลลูกอย่างเต็มที่ค่ะ
3. ดูแลสะดือน้อย ๆ ให้สะอาดเสมอ
บางครั้งคุณแม่มือใหม่ก็ไม่กล้าเช็ดสะดือให้ลูก เพราะกลัวลูกเจ็บบ้าง ไม่กล้าทำบ้าง จึงเป็นสาเหตุให้สะดือเกิดการติดเชื้อได้ง่าย ดังนั้นต้องไม่กลัวการเช็ดสะดือโดยการดูแลสะดืออย่างถูกวิธีคือ หลังอาบน้ำเสร็จใช้ผ้าสะอาดนุ่ม ๆ เช็ดสะดือให้ทั่ว โดยเฉพาะบริเวณรอยต่อระหว่างสะดือกับผิวหนังควรเช็ดให้แห้ง แล้วใช้น้ำเกลือเช็ดให้ทั่วอีกครั้ง ทำวันละ 2 ครั้ง จะช่วยให้สะดือแห้งเร็วและจะหลุดได้ง่ายภายใน 7-10 วันค่ะ
4. สร้างภูมิคุ้มกันด้วย "วัคซีน"
ลูกน้อยวัยแรกคลอด ถึง 1 ปีแรก ยังมีภูมิคุ้มกันน้อยอยู่ ดังนั้นจึงควรให้ลูกน้อยได้รับวัคซีนตามกำหนดทั้งวัคซีนหลักและวัคซีนเสริม เพื่อกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง ลูกน้อยจะได้มีสุขภาพดี ไม่เจ็บป่วยบ่อย ๆ ค่ะ
5. ระมัดระวังเรื่องการอาบน้ำ
ยิ่งการอาบน้ำครั้งแรก ต้องระวังเรื่องของสถานที่และเวลาในการอาบ ควรอาบในห้องที่มิดชิด ไม่มีลมพัด น้ำควรมีอุณหภูมิพอเหมาะ ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป และควรอาบช่วงเวลาที่อากาศไม่เย็นป้องกันการเป็นหวัด หลังจากอาบน้ำใช้ผ้าขนหนูนุ่ม ๆ เช็ดตัวให้แห้ง ใช้สำลีชุบน้ำอุ่นหรือน้ำเกลือเช็ดทำความสะอาดตา รูจมูก สะดือ เสร็จแล้วสวมเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ และห่อตัวด้วยผ้าขนหนูเพื่อให้สร้างความอบอุ่นให้ร่างกายค่ะ
6. กอดลูกบ่อย ๆ
อ้อมกอดของคุณพ่อคุณแม่จะทำให้ลูกมีความสุข มีจิตใจที่มั่นคง เวลาที่ลูกร้องควรรีบเข้าไปอุ้มกอด และสังเกตว่าลูกต้องการอะไร ดูว่าลูกหิว ร้อน หรือไม่สบายตัวไหม แล้วตอบสนองความต้องการของลูกทันที จะช่วยสร้างพื้นฐานอารมณ์ที่มั่นคงให้ลูกน้อยได้ค่ะ
7. เปลี่ยนผ้าอ้อมเป็นประจำ
ลูกน้อยที่กินนมจะถ่ายอุจจาระบ่อย วันละประมาณ 3-4 ครั้ง ปัสสาวะวันละหลายครั้ง คุณแม่ต้องคอยหมั่นดูและทำความสะอาด เปลี่ยนผ้าอ้อมทุกครั้งที่ลูกอุจจาระหรือปัสสาวะเยอะ ๆ เพื่อลูกน้อยจะได้สบายตัว ไม่ร้องงอแง อารมณ์ดีไปตลอดวันค่ะ
8. ไม่พาลูกไปสถานที่แออัด
ด้วยลูกน้อยยังมีภูมิคุ้มกันร่างกายน้อย การไปอยู่ในสถานที่ที่ผู้คนแออัด อากาศไม่บริสุทธิ์ อาจทำให้ลูกได้รับเชื้อโรคต่าง ๆ มาได้ง่าย ๆ เลยค่ะ
9. เตรียมของใช้ไว้ให้พร้อม
เตรียมของใช้ที่จำเป็น เช่น เสื้อผ้า ที่นอน ผ้าห่ม ผ้าอ้อม ไว้ให้พร้อม เวลาที่ลูกออกจากโรงพยาบาลกลับมาบ้านจะได้มีของไว้ใช้ได้เลย ไม่ต้องไปหาซื้อให้วุ่นวายอีกค่ะ
10. พ่อแม่ช่วยกันแชร์การเลี้ยงลูก
ข้อนี้สำคัญมาก ๆ คุณพ่อต้องคอยเป็นผู้ช่วยที่ดี คอยช่วยดูแลลูกเวลาที่คุณแม่ทำธุระส่วนตัว หรือช่วยงานบ้านต่าง ๆ เท่าที่ทำได้ จะได้แบ่งเบาภาระให้คุณแม่ไม่เหนื่อยเกินไป คุณแม่จะได้ดูแลลูกอย่างเต็มที่ คุณพ่อก็ภูมิใจที่ได้ดูแลลูก และลูกน้อยก็มีความสุข มีพัฒนาการที่ดีพร้อมค่ะ
10 วิธีนี้ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ลองนำไปปรับใช้กันดู ก็จะช่วยให้การดูแลลูกน้อยวัยแรกเกิดเป็นเรื่องง่ายขึ้น และเพิ่มความมั่นใจให้คุณพ่อคุณแม่พร้อมที่จะดูแลลูกน้อยได้อย่างเต็มที่แล้วค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : fhs.gov.hk, th.yanhee.net, nytimes.com
เจ้าตัวน้อยใกล้คลอดเข้ามาทุกที
สร้างความตื่นเต้นดีใจให้คุณพ่อคุณแม่ไม่น้อยเลย
แต่ในความดีใจนั้นก็อาจแฝงความกังวลไว้ด้วย กังวลว่าจะดูแลลูกไม่ดี
ไม่รู้ต้องเตรียมอะไรก่อนหลังบ้าง วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอนำวิธีเลี้ยงลูกฉบับ การดูแลทารกแรกเกิด มาฝากคุณพ่อคุณแม่มือใหม่กันค่ะ
1. ให้กินนมแม่ อาหารดีที่สุดของลูก
สำหรับลูกน้อยวัยทารกแล้ว อาหารที่ดีที่สุดของเขาคือ "นมแม่" เพราะมีสารอาหารครบถ้วนและยังสร้างภูมิต้านทานโรคต่าง ๆ ให้ลูกแบบที่หาจากนมไหน ๆ ไม่ได้อีกด้วย ซึ่งองค์การอนามัยโลกแนะนำให้ลูกกินนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน หลังจากนั้นกินนมแม่ร่วมกับอาหารเสริมอื่น ๆ จนถึงอายุ 2 ปี รับรองลูกน้อยสุขภาพแข็งแรง เติบโตสมวัยแน่นอนค่ะ
2. ลูกต้องนอนหลับให้เพียงพอ
ทารกแรกเกิด ถึง 6 เดือนแรก เป็นวัยแห่งการนอนหลับ ซึ่งการนอนที่เพียงพอจะส่งผลให้สมองและร่างกายมีพัฒนาการเต็มที่จึงควรให้ลูกวัยนี้นอนหลับวันละ 18-20 ชั่วโมง โดยปกติเขาจะนอนกลางวันมากกว่ากลางคืน ช่วงกลางคืนจะหลับ 3-4 ชั่วโมงแล้วตื่นมากินนม อิ่มแล้วก็นอนต่อ ช่วงนี้คุณแม่อาจจะดูอิดโรยก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะฉะนั้นเวลาที่ลูกหลับคุณแม่ก็ควรหลับไปพร้อมกับลูกด้วย จะได้มีแรงดูแลลูกอย่างเต็มที่ค่ะ
3. ดูแลสะดือน้อย ๆ ให้สะอาดเสมอ
บางครั้งคุณแม่มือใหม่ก็ไม่กล้าเช็ดสะดือให้ลูก เพราะกลัวลูกเจ็บบ้าง ไม่กล้าทำบ้าง จึงเป็นสาเหตุให้สะดือเกิดการติดเชื้อได้ง่าย ดังนั้นต้องไม่กลัวการเช็ดสะดือโดยการดูแลสะดืออย่างถูกวิธีคือ หลังอาบน้ำเสร็จใช้ผ้าสะอาดนุ่ม ๆ เช็ดสะดือให้ทั่ว โดยเฉพาะบริเวณรอยต่อระหว่างสะดือกับผิวหนังควรเช็ดให้แห้ง แล้วใช้น้ำเกลือเช็ดให้ทั่วอีกครั้ง ทำวันละ 2 ครั้ง จะช่วยให้สะดือแห้งเร็วและจะหลุดได้ง่ายภายใน 7-10 วันค่ะ
ลูกน้อยวัยแรกคลอด ถึง 1 ปีแรก ยังมีภูมิคุ้มกันน้อยอยู่ ดังนั้นจึงควรให้ลูกน้อยได้รับวัคซีนตามกำหนดทั้งวัคซีนหลักและวัคซีนเสริม เพื่อกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง ลูกน้อยจะได้มีสุขภาพดี ไม่เจ็บป่วยบ่อย ๆ ค่ะ
5. ระมัดระวังเรื่องการอาบน้ำ
ยิ่งการอาบน้ำครั้งแรก ต้องระวังเรื่องของสถานที่และเวลาในการอาบ ควรอาบในห้องที่มิดชิด ไม่มีลมพัด น้ำควรมีอุณหภูมิพอเหมาะ ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป และควรอาบช่วงเวลาที่อากาศไม่เย็นป้องกันการเป็นหวัด หลังจากอาบน้ำใช้ผ้าขนหนูนุ่ม ๆ เช็ดตัวให้แห้ง ใช้สำลีชุบน้ำอุ่นหรือน้ำเกลือเช็ดทำความสะอาดตา รูจมูก สะดือ เสร็จแล้วสวมเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ และห่อตัวด้วยผ้าขนหนูเพื่อให้สร้างความอบอุ่นให้ร่างกายค่ะ
อ้อมกอดของคุณพ่อคุณแม่จะทำให้ลูกมีความสุข มีจิตใจที่มั่นคง เวลาที่ลูกร้องควรรีบเข้าไปอุ้มกอด และสังเกตว่าลูกต้องการอะไร ดูว่าลูกหิว ร้อน หรือไม่สบายตัวไหม แล้วตอบสนองความต้องการของลูกทันที จะช่วยสร้างพื้นฐานอารมณ์ที่มั่นคงให้ลูกน้อยได้ค่ะ
7. เปลี่ยนผ้าอ้อมเป็นประจำ
ลูกน้อยที่กินนมจะถ่ายอุจจาระบ่อย วันละประมาณ 3-4 ครั้ง ปัสสาวะวันละหลายครั้ง คุณแม่ต้องคอยหมั่นดูและทำความสะอาด เปลี่ยนผ้าอ้อมทุกครั้งที่ลูกอุจจาระหรือปัสสาวะเยอะ ๆ เพื่อลูกน้อยจะได้สบายตัว ไม่ร้องงอแง อารมณ์ดีไปตลอดวันค่ะ
ด้วยลูกน้อยยังมีภูมิคุ้มกันร่างกายน้อย การไปอยู่ในสถานที่ที่ผู้คนแออัด อากาศไม่บริสุทธิ์ อาจทำให้ลูกได้รับเชื้อโรคต่าง ๆ มาได้ง่าย ๆ เลยค่ะ
9. เตรียมของใช้ไว้ให้พร้อม
เตรียมของใช้ที่จำเป็น เช่น เสื้อผ้า ที่นอน ผ้าห่ม ผ้าอ้อม ไว้ให้พร้อม เวลาที่ลูกออกจากโรงพยาบาลกลับมาบ้านจะได้มีของไว้ใช้ได้เลย ไม่ต้องไปหาซื้อให้วุ่นวายอีกค่ะ
10. พ่อแม่ช่วยกันแชร์การเลี้ยงลูก
ข้อนี้สำคัญมาก ๆ คุณพ่อต้องคอยเป็นผู้ช่วยที่ดี คอยช่วยดูแลลูกเวลาที่คุณแม่ทำธุระส่วนตัว หรือช่วยงานบ้านต่าง ๆ เท่าที่ทำได้ จะได้แบ่งเบาภาระให้คุณแม่ไม่เหนื่อยเกินไป คุณแม่จะได้ดูแลลูกอย่างเต็มที่ คุณพ่อก็ภูมิใจที่ได้ดูแลลูก และลูกน้อยก็มีความสุข มีพัฒนาการที่ดีพร้อมค่ะ
10 วิธีนี้ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ลองนำไปปรับใช้กันดู ก็จะช่วยให้การดูแลลูกน้อยวัยแรกเกิดเป็นเรื่องง่ายขึ้น และเพิ่มความมั่นใจให้คุณพ่อคุณแม่พร้อมที่จะดูแลลูกน้อยได้อย่างเต็มที่แล้วค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : fhs.gov.hk, th.yanhee.net, nytimes.com