เลือดกำเดาไหลตอนท้อง มีสาเหตุมาจากอะไร แล้วจะอันตรายไหม ใครที่กำลังเจอปัญหานี้อยู่ มาหาคำตอบกันเลยค่ะ
เชื่อว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ช่วงนี้คงมีปัญหาหลาย ๆ อย่างที่เป็นกังวลเลยใช่ไหมล่ะคะ และปัญหาหนึ่งที่ทำให้คุณแม่หลายคนตกอกตกใจได้มากก็คงเป็นอาการของ "
เลือดกำเดาไหล" ในขณะตั้งครรภ์ ซึ่งอาการนี้จะพบได้บ่อยมาก ถึงแม้บางคนจะอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ล้วง แคะ แกะ หรือเกาจมูกเลือดกำเดาก็สามารถไหลออกมาได้ง่าย ๆ ซึ่งปัญหานี้เกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร แล้วจะอันตรายไหม วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปหาคำตอบกันค่ะ
สำหรับอาการเลือดกำเดาไหลตอนท้องนั้น ถือเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนท้องค่ะ เนื่องจากตอนท้องร่างกายของคุณแม่จะเกิดการเปลี่ยนแปลง ฮอร์โมนจะกระตุ้นระบบการไหลเวียนของเลือดที่มาเลี้ยงเยื่อบุจมูก ทำให้เส้นเลือดในเยื่อบุจมูกมีการขยายตัวกว้างขึ้น มีเลือดมาหล่อเลี้ยงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เยื่อบุจมูกเปราะบาง ประกอบกับโพรงจมูกของคนเรานั้นมีเส้นเลือดฝอยอยู่จำนวนมาก เมื่อเยื่อบุจมูกบางลง แต่ระบบการไหลเวียนของเลือดมีความหนาแน่นมากขึ้น จึงทำให้เส้นเลือดฝอยแตกหรือมีเลือดกำเดาไหลออกมาได้ง่าย โดยเฉพาะในที่ที่มีอากาศเย็นและแห้ง จะยิ่งทำให้เยื่อบุโพรงจมูกเกิดการฉีกขาดได้ง่ายมากกว่าเดิม ดังนั้นถึงแม้คุณแม่จะอยู่เฉย ๆ เลือดกำเดาก็สามารถไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวได้ค่ะ
ทั้งนี้หากเลือดกำเดาที่ไหลออกมามีปริมาณไม่มาก คุณแม่ก็ไม่ต้องกังวลค่ะ ถือเป็นเรื่องปกติและไม่อันตราย เพียงแค่จัดการหยุดเลือดกำเดาด้วยการนั่งลงแล้วก้มหน้าเล็กน้อย หายใจทางปาก แล้วใช้นิ้วมือบีบจมูกทั้งสองข้างให้แน่นเป็นเวลา 5-10 นาที หรืออาจหาผ้าเย็นหรือน้ำแข็งที่ห่อด้วยผ้าบาง ๆ มาประคบที่บริเวณจมูก จะช่วยให้เลือดกำเดาหยุดไหลได้เร็วขึ้นค่ะ
เมื่อเลือดกำเดาหยุดไหลแล้ว แนะนำให้คุณแม่พักผ่อน และควรระมัดระวังหลีกเลี่ยงการแคะ แกะ เกาจมูก หรือสั่งน้ำมูกแรง ๆ เพราะจะทำให้เลือดกำเดาไหลออกมาได้อีก แต่ทั้งนี้ในกรณีที่เลือดกำเดาไม่หยุดไหลหรือออกมากผิดปกติ แนะนำให้คุณแม่ควรรีบไปโรงพยาบาลพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาจะดีที่สุดค่ะข้อมูลจาก : si.mahidol.ac.th, th.theasianparent.com, konthong.com