โรคหูชั้นกลางอักเสบในเด็กเกิดจากเป็นหวัดเรื้อรังและลุกลามไปที่บริเวณหูชั้นกลางทำให้เกิดการติดเชื้อ ส่วนอาการเบื้องต้นกระปุกดอทคอมก็มีวิธีสัเกตอาการจากนิตยสาร รักลูก พร้อมการดูแลรักษาเมื่อลูกติดเชื้อในหู มาแนะนำกันค่ะ หากรู้เร็วและป้องกันได้เร็วลูกน้อยก็จะมีความเสี่ยงโรคหูชั้นกลางอักเสบ น้อยลงค่ะ ^^
การติดเชื้อในหูลูกมีได้หลายสาเหตุ ถ้ารักษาไม่ทัน อาการอาจรุนแรงถึงสมองได้หูชั้นกลางอักเสบ
หูของคนเราแบ่งเป็นหูชั้นนอก หูชั้นกลาง และหูชั้นใน หูของเด็กก็เช่นกัน ต่างแค่ขนาดและตำแหน่งของท่อปรับความดันหรือท่อยูสเตเชียน (Eustachian tube) เท่านั้น
การติดเชื้อในหูที่พบบ่อย อยู่ที่หูชั้นกลาง ที่คุณพ่อคุณแม่เรียกว่าหูน้ำหนวกนั่นเอง สาเหตุเกิดจากเป็นหวัดเรื้อรัง แล้วติดเชื้อลุกลามไปที่บริเวณหูชั้นกลางค่ะ
ส่วนใหญ่พบภาวะนี้ในเด็กอายุ 3-5 ปี มากถึง 10-30% แต่จริง ๆ แล้ว ทารกแรกเกิดก็เป็นได้จนกระทั่งถึงวัยรุ่น หรือวัยผู้ใหญ่ ถ้าเป็นหวัดเรื้อรังก็มีโอกาสเป็นได้เหมือนกันค่ะ
สาเหตุหูติดเชื้อ
1. น้ำเข้าหู แคะหู หรือมีขี้หูค้างอยู่ในรูหูมาก เมื่อมีน้ำเข้าหูอาจเกิดการอักเสบได้ ซึ่งมักเกิดการอักเสบของหูชั้นนอก
2. การทำงานของท่อยูสเตเชียนผิดปกติ อาจเกิดการบวมและอุดตัน ทำให้การระบายอากาศไม่ค่อยดีและเกิดการอักเสบติดเชื้อตามมา เด็กที่เป็นโรคภูมิแพ้อาจมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหูชั้นกลางอักเสบมากขึ้น
3. เกิดจากการติดเชื้อในทางเดินหายใจ เช่น ลูกเป็นหวัด คัดจมูก คออักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบ ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ เป็นต้น โดยเชื้อนี้จะมีความรุนแรง แฝงตัวมากับเชื้อหวัดและปอดบวม ผ่านจากคอหรือจมูกขึ้นไปที่หูชั้นกลางแล้วเกิดการติดเชื้อ
อาการ 
1. ลูกจะบ่นหูอื้อ ฟังไม่ค่อยได้ยิน

2. ตรวจพบภาวะหูชั้นกลางอักเสบร่วมกับอาการของไข้หวัด

3. มีน้ำหนองไหลออกจากหู เนื่องจากภาวะหูชั้นกลางอักเสบหากปล่อยทิ้งไว้จนเรื้อรังจะทำให้เยื่อแก้วหูทะลุได้
ในกรณีที่มีการติดเชื้อรุนแรงและลามเข้าสู่หูชั้นใน จะทำให้มีอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เสียการทรงตัวเนื่องจากเกิดการอักเสบของเส้นประสาทบริเวณหูชั้นในเด็กต่างวัย อาการแสดงออกต่างกัน เด็กทารกหรือเด็กเล็ก 
ไม่สามารถบอกอาการได้ชัดเจน อาจมีเพียงไข้ต่ำ ๆ ร้องไห้ งอแง กวนคุณพ่อคุณแม่ตอนกลางคืน และถ้าติดเชื้อรุนแรง อาจชักได้

เอามือจับหรือดึงหู หรือเมื่อคุณพ่อคุณแม่ไปโดนที่หูลูก ก็จะงอแง เพราะมีอาการเจ็บอยู่ข้างใน พอที่จะบอกได้ว่า หูอื้อ เจ็บหู ปวดหูมาก ร่วมกับไข้ เวียนศีรษะ มีหนองออกจากหู
เมื่อลูกติดเชื้อ อาจเสี่ยง 1. ถ้าหากหูอักเสบและไม่ได้รับการรักษา ลูกจะมีไข้สูง ปวดหัวเรื้อรัง คลื่นไส้อาเจียน อาจเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด การติดเชื้อของกระดูกและเส้นประสาทบริเวณหูชั้นใน และบริเวณเยื่อหุ้มสมอง ทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้
2. แก้วหูทะลุได้ อาจต้องได้รับการผ่าตัดในกรณีที่มีหนองออกจากหูเรื้อรัง
วิธีดูแลรักษา 
ไม่เอาสิ่งแปลกปลอมเข้าไปไว้ในหู ไม่ว่าจะเป็นของเล่น เศษสำลี เป็นต้น

ใช้สำลีหรือคัดตอนบัดเช็ดแค่บริเวณภายนอกในระยะตื้น ๆ และไม่แหย่จนลึกเกินไป

เช็ดทำความสะอาดหูให้แห้งหลังอาบน้ำ และหลังสระผมทุกครั้ง

ถ้าลูกป่วยด้วยไข้หวัด หากเกิน 24-48 ชั่วโมง อาการของลูกไม่ดีขึ้น และมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่นไข้สูง ปวดหู หูอื้อ ควรรีบมาพบแพทย์ทันที
หากรู้ก่อน...ป้องกันได้

ควรให้ทารกกินนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน เพราะในน้ำนมแม่มีภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อได้

เวลาลูกกินนมและอาหาร พยายามให้ลูกอยู่ในท่านั่งหรือศีรษะสูงกว่าลำตัว อย่าให้ลูกหลับขณะขวดนมยังคาอยู่ในช่องปาก เพราะอาจเกิดการสำลักและทำให้ติดเชื้อได้

ปัจจุบันมีวัคซีนที่ครอบคลุมเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของหูอักเสบ คุณพ่อคุณแม่สามารถปรึกษากุมารแพทย์เพื่อให้วัคซีนกับลูกน้อยได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ปีที่ 33 ฉบับที่ 395 ธันวาคม 2558