ข้อดีข้อเสีย..เมื่อลูกติดจุกนมหลอก

ลูกติดจุกนมหลอก

          จุกนมหลอก ช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อภาวะการตายเฉียบพลันในทารก (SIDS) ได้ แต่ข้อเสียของการติดจุกนมหลอกก็มีค่ะ วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาคุณแม่ไปดูวิธีแก้จากนิตยสาร MODERNMOM อย่างเหมาะสมในการให้ลูกน้อยเลิกจุกนมหลอก มาฝากกัน แต่ต้องใช้ความอดทนและทำอย่างสม่ำเสมอลูกน้อยก็จะเลิกได้เองค่ะ ><

          แม้จุกนมหลอกจะมีข้อดีอยู่บ้าง แต่เมื่อติดแล้วอาจเลิกยากจนทำให้เกิดผลเสียระยะยาวต่อโครงสร้างของฟันซึ่งเป็นต้นเหตุของฟันไม่สวย และยังมีปัญหาการบดเคี้ยวอาหารหรือการพูดตามมาในอนาคตได้ครับ โดยทั่วไปกุมารแพทย์ไม่แนะนำให้เด็ก ๆ ดูดจุดนมหลอกครับ เพื่อป้องกันข้อเสียที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

          หากพิจารณาข้อดีของจุกนมหลอกแล้ว คุณพ่อคุณแม่จะเห็นว่าเราสามารถใช้วิธีอื่นที่ได้ผลไม่แพ้กันเพื่อหลีกเลี่ยงการติดจุกนมหลอกได้ครับ เช่น มีการศึกษาพบว่า การให้เด็กดูดจุกนมหลอกนั้น สามารถป้องกันการเกิดภาวะเสียชีวิตเฉียบพลันไม่ทราบสาเหตุ หรือที่เราเรียก SIDS (Sudden Inดant Death Syndrome) ได้ แม้จะยังไม่ทราบอย่างชัดเจนว่าจุกนมหลอกไปช่วยป้องกันการเกิด SIDS ได้อย่างไร แต่เราสามารถป้องกันการเกิด SIDS ได้ด้วยวิธีอื่นครับ เช่น ให้ลูกนอนหงายแทนนอนคว่ำ เลือกที่นอนหรือหมอนที่ไม่นุ่มเกินไป ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสม ไม่ให้ผ้าห่มที่ไม่จำเป็นบนที่นอนของเด็ก นอกจากนั้นจุกนมหลอกยังอาจถูกใช้เป็นตัวแทนของคุณแม่หรือผู้เลี้ยงดูใกล้ชิดเพื่อลดอาการกังวลจากการแยกจากเช่นเดียวกับผ้าห่ม ตุ๊กตา รวมทั้งเด็กบางคนอาจดูดจุกนมหลอก เพื่อกล่อมให้ตัวเองนอนหลับได้อีกด้วยครับ หากเด็กดูดนมแม่ ไม่ควรเริ่มจุกนมหลอกก่อนอายุ 1 เดือน เพื่อไม่ให้เด็กสับสนกับหัวนมแม่ ซึ่งรบกวนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ครับ

          ส่วนข้อเสียของการติดจุกนมก็อาจทำให้เกิดผมเสียต่อโครงสร้างของเหงือกและฟันจนผิดรูปร่างไปอย่างถาวร ซึ่งส่งผลต่อการสบฟันของเด็ก เมื่อมีปัญหาในการสบฟันก็จะทำให้มีผลต่อการบดเคี้ยวอาหาร เมื่อบดเคี้ยวอาหารได้ไม่ดี กระเพาะอาหารจะต้องทำงานหนักมากขึ้น ที่สำคัญร่างกายอาจได้รับสารอาหารจากอาหารที่รับประทานเข้าไปไม่เต็มที่ เพราะการบดเคี้ยวช่วยให้สารอาหารส่วนหนึ่งถูกปล่อยออกมาจากอาหารเพื่อให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายครับ


          ในเด็กที่ติดแล้วเมื่อต้องการให้เลิก คุณแม่ต้องสังเกตว่าลูกใช้จุกนมหลอกเพื่อวัตถุประสงค์อะไร เช่น เพื่อกล่อมตัวเองให้นอนหลับ ใช้เมื่อรู้สึกเบื่อหรือเหงา ใช้เมื่อรู้สึกวิตกกังวลหรือเครียด เพื่อจะได้วางแผนรับมือและช่วยเหลือได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมครับ

          เด็กที่ติดจุกนมเพราะต้องใช้กล่อมให้ตัวเองนอน มักดูดก่อนนอน ถ้าไม่ดูดจะนอนไม่หลับ คุณแม่ต้องช่วยเขาอย่างนี้ครับ เมื่อถึงเวลานอนโดยคอยสังเกตช่วงที่ลูกเริ่มเคลิ้ม ๆ ให้ค่อย ๆ ดึงจุกนมหลอกออก เพื่อให้เขาเข้าสู่วงจรการนอนขั้นต่อไปด้วยตัวของเขาเอง ถ้าดึงออกแล้วลูกตื่นขึ้นมาก็ไม่เป็นไรครับ ให้ดูดใหม่แล้วสังเกตใหม่ แสดงว่าขณะที่เราดึงออกนั้นลูกยังรู้ตัวอยู่ วงจรของการนอนยังไม่ลึกพอ ตรงนี้ต้องอาศัยทักษะการสังเกตและความนุ่มนวลของการดึงจุกนมออกเป็นสำคัญครับ ด้วยความที่วงจรการนอนของทุกคนจะหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ จากหลับตื้นสู่หลับลึกแล้วหมุนขึ้นมาเป็นหลับตื้น ตามด้วยรู้สึกตัวแบบสะลึมสะลือเป็นอย่างนี้หลายรอบในระหว่างคืน

          ดังนั้น เมื่อลูกหลับไปแล้ว คุณแม่อาจวางจุกนมไว้ใกล้ ๆ ลูกเผื่อลูกตื่นขึ้นมาคว้าไปดูดเองได้ในรอบการนอนรอบต่อ ๆ ไป เมื่อเขารู้สึกตัวว่าจุกนมไม่อยู่ในปากจะได้ไม่ลำบากคุณแม่ต้องตื่นขึ้นมาหาจุกนมให้เขา เมื่อลูกหลับไปแล้วไม่ต้องกังวลครับ คุณแม่ก็นอนของคุณแม่ไป ฝึกเขาตอนก่อนเข้านอนก็พอครับ สำคัญต้องอดทนครับ ฝึกไปเรื่อย ๆ ใช้เวลาหลายวันพอควร ส่วนเวลากลางวันคุณแม่อาจใช้วิธีเหมือนกับการติดจากสาเหตุอื่นครับ เช่น หากลูกต้องการจุกนมเพราะเหงา หรือกังวลกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว คุณแม่ลองหากิจกรรมที่ลูกสนใจทำร่วมกับลูกดูนะครับ วิธีนี้จะเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจจากการดูดนมของเขาไปสู่กิจกรรมรอบตัวที่ทำร่วมกับคุณแม่ได้ดีมากครับ การนอนในเวลากลางวันคุณแม่อาจใช้วิธีหลังจากนี้หรือวิธีเหมือนตอนกลางคืนก็ได้

          การจะเลิกได้เร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับว่าเขาต้องการจุกนมเพื่อวัตถุประสงค์อะไร ส่วนใหญ่ถ้าต้องการเพื่อเป็นตัวแทนของคุณแม่เหมือนตุ๊กตาเน่า ๆ ผ้าห่มเน่า ๆ โดยทั่วไปไม่เกิน 4 ขวบก็หายแล้วครับ ส่วนติดเพราะต้องกล่อมตัวเองให้นอน มักเลิกตอนกลางวันได้ก่อนกลางคืนครับ การดูดกลางวันมักหายไปก่อนเพราะพอไปโรงเรียน เด็กจะอายเพื่อนจนเลิกได้เอง แต่กลางคืนอาจติดไปอีกนานหากไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างเหมาะสมครับ ถ้าคุณแม่ตั้งใจอยากจะเปลี่ยนต้องใช้ความอดทนทำสม่ำเสมอเป็นอาวุธครับ ผมเอาใจช่วยครับ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.21 No.241 พฤศจิกายน 2558

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ข้อดีข้อเสีย..เมื่อลูกติดจุกนมหลอก อัปเดตล่าสุด 17 ธันวาคม 2558 เวลา 14:45:42 4,996 อ่าน
TOP
x close