เลือดออกช่วงตั้งครรภ์ ไม่ดีแน่ !

เลือดออกช่วงตั้งครรภ์

          การตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยต้องไม่มีเลือดออกนะคะ ถ้ามีแสดงถึงสัญญาณผิดปกติที่ต้องระวังแล้วค่ะ

เลือดออก...บอกอะไร

          เลือดออกขณะตั้งครรภ์เกิดจากหลายสาเหตุแบ่งเป็น 2 แบบ

1. เลือดออกแบบปกติ ไม่มีอันตรายกับทารกในครรภ์

         เกิดจากการที่ตัวอ่อนฝังตัว เป็นช่วงที่รกฝังตัวลงไปในเยื่อบุโพรงมดลูกหรือผนังมดลูกและไปโดนเส้นเลือดฝอยต่าง ๆ ในผนังมดลูก ทำให้เส้นเลือดเกิดการฉีกขาดและมีเลือดไหลออกมา โดยเลือดที่ออกมาจะเป็นสีแดงคล้ำ ๆ หรือสีน้ำตาลปนแดง ไหลออกมาโดยไม่มีอาการปวดท้อง ออกมากะปริดกะปรอย ประมาณ 1-2 วันก็จะหายไปเอง

         มีแผลที่ปากมดลูก อาจเกิดจากปากช่องคลอดอับชื้น เกิดอักเสบเป็นแผล หรือมีติ่งเนื้อเล็ก ๆ ที่ปากมดลูก เรียกว่า โพลิบ (Polyp) มีสีแดง เมื่อปากช่องคลอดขยับไปมา เช่น การตรวจด้วยเครื่องมือแพทย์ผ่านช่องคลอด มีเพศสัมพันธ์ ก็อาจเกิดการฉีกขาดและมีเลือดไหลออกมาได้ แต่ไม่มีอันตรายกับทารกในครรภ์เพราะเป็นเลือดที่อยู่นอกมดลูก

          ติดเชื้อที่ช่องคลอด และเกิดการอักเสบ จะมีอาการคัน มีตกขาว และมีกลิ่นผิดปกติ ถ้ามีอาการติดเชื้อมากและเกิดแผลที่ช่องคลอดอาจทำให้มีเลือดออกได้

2. เลือดออกแบบผิดปกติ อาจมีอันตราย ทั้งทารกในครรภ์และตัวคุณแม่เอง

          ตัวอ่อนฝังตัวผิดตำแหน่ง คือการตั้งครรภ์นอกมดลูก โดยธรรมชาติของร่างกายจะรับรู้ว่ามีการตั้งครรภ์จากระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มสูงขึ้น แต่จะไม่รู้ว่าตัวอ่อนไปฝังอยู่บริเวณไหน ฝังผิดตำแหน่งหรือไม่ ดังนั้นเมื่อระดับฮอร์โมนสูงขึ้น แต่จะไม่รู้ว่าตัวอ่อนไปฝังอยู่บริเวณไหน ฝังผิดตำแหน่งหรือไม่ ดังนั้นเมื่อระดับฮอร์โมนสูงขึ้นร่างกายจะเตรียมตัวด้วยการสร้างเยื่อบุโพรงมดลูกรอตัวอ่อนมาฝังตัว ถ้าตัวอ่อนไปฝังนอกมดลูกจะทำให้เยื่อบุลอกตัวและไหลออกมาเป็นเลือดมีสีแดงคล้ำไปจนถึงแดงสด ไหลกะปริดกะปรอย ไหลไม่สัมพันธ์กับการเคลื่อนไหว อาจปวดท้องหรือไม่ปวดก็ได้ นอนพักก็ยังไม่หาย

          เมื่อมาพบแพทย์ สิ่งที่ตรวจพบคือมดลูกไม่ได้ขยายตามอายุครรภ์ อัลตราซาวด์จะพบถุงตั้งครรภ์อยู่บริเวณอื่น เช่น ปีกมดลูก ท่อนำไข่ ซึ่งเป็นการตั้งครรภ์นอกมดลูก ต้องยุติการตั้งครรภ์

         ทารกมีความผิดปกติ อีกหนึ่งอาการที่น่าเป็นห่วง คือ ทารกมีความผิดปกติและไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ เมื่อทารกเสียชีวิตในครรภ์ อาการที่ตามมาก็จะเริ่มด้วยมีเลือดออก และปวดท้องน้อย เนื่องจากมดลูกมีการบีบตัวเพื่อที่จะขับทารกออกมาและทำให้เกิดการแท้งในที่สุด

         ภาวะแท้งคุกคาม เป็นการตั้งครรภ์ในมดลูกปกติ ตัวอ่อนฝังอยู่ในมดลูกแต่มีความผิดปกติ ไม่เจริญเติบโต หรือมีภาวะไข่ฝ่อ (Blighted Ovum) มีแต่รก ไม่มีตัว ดังนั้นธรรมชาติของร่างกายจะขจัดทิ้ง ทำให้มีเลือดไหลกะปริดกะปรอย ไหลออกมาเรื่อย ๆ และไหลจนรกหลุดลอกออกมา เรียกว่าแท้ง ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดในช่วงอายุครรภ์น้อยกว่า 28 สัปดาห์

         รกเกาะต่ำ คือตัวอ่อนฝังตัวในตำแหน่งที่ไม่ดี ฝังอยู่ต่ำเกินไปใกล้บริเวณปากมดลูกมีโอกาสทำให้ปากมดลูกยืดขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ปากมดลูกฉีกขาดเลือดจึงไหลออกมาได้ส่วนใหญ่เกิดช่วงหลัง 28 สัปดาห์ หรือไตรมาสสุดท้าย อาจส่งผลให้คลอดก่อนกำหนด มีภาวะตกเลือดหลังคลอดได้

          มีเนื้องอกในมดลูก แล้วตัวอ่อนไปฝังทับหรือฝังใกล้เนื้องอกนั้น ทำให้มีเลือดไหลออกมา และอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของตัวอ่อนได้ด้วย

         ได้รับการกระทบกระเทือน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงครรภ์ไตรมาสแรก เนื่องจากผนังมดลูกยังบอบบาง เมื่อมีการกระทบกระเทือนอาจทำให้เส้นเลือดฝอยที่ผนังมดลูกฉีกขาดได้ง่ายเกิดเลือดไหล ดังนั้นคุณแม่ควรหยุดเคลื่อนไหว นอนพักผ่อน จะช่วยให้อาการดีขึ้น เลือดจะหยุดไหลไปเอง ถ้ากระทบกระเทือนรุนแรง มีเลือดไหลออกเยอะ อาจเกิดอันตรายกับทารกในครรภ์ได้

          สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ หากมีเลือดไหลออกมา ไม่ว่าเลือดจะเยอะหรือน้อย ต้องรีบมาพบแพทย์ทันที อย่าปล่อยไว้เด็ดขาด เพื่อแพทย์จะได้วินิจฉัย ตรวจและรักษาได้เหมาะสมค่ะ




ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ปีที่ 33 ฉบับที่ 385 กุมภาพันธ์ 2558

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เลือดออกช่วงตั้งครรภ์ ไม่ดีแน่ ! อัปเดตล่าสุด 19 มิถุนายน 2558 เวลา 14:50:50 30,415 อ่าน
TOP
x close