
การเลี้ยงลูกสำหรับคุณแม่มือใหม่ อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เชื่อเถอะว่าคุณแม่รับมือได้เพียงทำความเข้าใจกับลูก วันนี้กระปุกดอทคอมก็มีเกร็ดความรู้ดี ๆ มาฝากคุณแม่มือใหม่กับการเลี้ยงลูกให้เป็นสุดยอดคุณแม่ รวมทั้งการดูแลสุขภาพกายใจจากนิตยสาร Mother & Care พร้อมแล้วไปปฏิบัติกันเลย ...
งานเลี้ยงลูก เรียกว่าเป็นงานที่มันไม่หยุด ยิ่งกับแม่มือใหม่ที่เริ่มภารกิจนี้ เราเชื่อว่า จะเกิดความสุข พร้อมกับความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อลูก ตัวคุณ และสามีไปพร้อม ๆ กันได้ น่าจะมาจากการตั้งรับให้เป็น แล้วแบบนี้จะรีรออะไร มาลงมือเป็นสุดยอดคุณแม่กันค่ะ

กายพร้อมใจก็พร้อมค่ะ ลองคิดดูสิ หากคุณต้องเจ็บ ๆ ป่วย ๆ เข้าออกกับการไปพบคุณหมอ เวลาดี ๆ ที่จะดูแลครอบครัว คงหายไปส่วนหนึ่ง ไม่สามารถทำภารกิจได้เต็มที่ อีกทั้งรายจ่ายก็ต้องหมดไปกับการดูแลรักษาสุขภาพ

นอกจากคุณจะต้องยึดเกณฑ์เลือกอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง สร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้ร่างกายได้ในระดับหนึ่งแล้ว อยากให้ส่งต่อเรื่องการดูแลสุขภาพของสมาชิกของครอบครัวด้วย เช่น




เป็นวิธีที่ทำควบคู่กับการกิน และเรื่องนี้ก็ควรจัดให้เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลตัวเองตั้งแต่ที่คุณตั้งครรภ์และหลังคลอดอย่างถาวร เช่น

วิธีของคุณแม่แต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน แต่ขอให้ยึดหลักที่ว่า วิธีไหนที่ใช้แรงหักโหมมากควรเลี่ยง ควรเป็นวิธีที่คุณทำแล้วสบายใจ ทำได้สม่ำเสมอจะดีกว่า

ร่างกายรับบทหนักมานาน การบริหารร่างกายช่วงนี้ จะช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ได้ยืดขยาย ฟื้นฟูกลับสู่สภาพปกติ โดยเริ่มจากการยืดกล้ามเนื้อเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือแค่การเดินแกว่างแขน-ขา ก็โอเคแล้ว และหากเป็นไปได้การออกกำลังกายแบบครอบครัวก็เป็นกิจกรรมที่ดีที่น่าทำนะคะ

กำลังบอกถึงวิธีบริหารจัดการเวลา การใช้ชีวิต และการทำหน้าที่ต่าง ๆ ของคุณในแบบสมดุล ไม่สุดโต่งเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็เท่านั้นเอง

คุณมีเวลาเต็มที่กับการจัดการเรื่องลูกไม่มีงานออฟฟิศนอกบ้านเข้ามาเกี่ยวอาจมีพี่เลี้ยงคอยช่วยงานในบ้าน ก็ควรจะหาเวลาพักให้กับตัวเองบ้าง จะได้ไม่เป็นการกดดันกับการทำหน้าที่คุณแม่ หรือทำเรื่องลูกจนเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า เครียด หรือเบื่อหน่ายเรื่องลูก เรื่องงานบ้าน กลายเป็นปัญหาบานปลายในครอบครัว

รู้ ๆ กันว่า หน้าที่คุณแม่เวิร์กกิ้งมัม คืองานที่ออฟฟิศ เรื่องลูก สามี และยังรวมถึงตัวคุณ ฉะนั้น สูตรการจัดสรรเวลาที่ดีก็คือ เรียงลำดับความสำคัญก่อนหลัง ให้ทั้ง 4 ช่วงของเวลาไม่ให้มากหรือน้อยเกินไป ทริกง่าย ๆ ก็คือใช้สติเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวตัวเราค่ะ

ข้อมูลทั้งจากตำราและความจริงพบว่า พฤติกรรมของพ่อแม่มีผลต่อการแสดงออกของลูก โดยเฉพาะเรื่องของอีคิว หรือที่เรียกว่าความฉลาดทางอารมณ์นั้น เป็นเรื่องที่ต้องปลูกฝัง บ่มเพาะตั้งแต่เล็ก เฉกเช่นเรื่องของระเบียบ วินัยของเด็ก ๆ เรามาดูกันว่า อะไรบ้างที่จะช่วยให้ลูกเป็นเด็กที่มีอีคิวดี

เป็นอาหารทางใจที่ดี เพราะเป็นการแสดงถึงการยอมรับ ความเห็นอกเห็นใจ และให้ความสำคัญกับตัวเด็กในเรื่องต่าง ๆ เช่น การเรียนการแสดงออก การเล่น ต่างจากการตำหนิ บังคับ วิจารณ์หรือลงโทษ ซึ่งเป็นเรื่องที่พ่อแม่ต้องระวังเป็นอย่างมาก
ให้โอกาส พัฒนาการและการเติบโตของลูก เปลี่ยนแปลงไปตามวัย คุณจึงต้องเป็นนักสังเกต ที่คอยแนะนำและส่งเสริมตามความเหมาะสม เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้การกระทำถูก-ผิด ความแตกต่างอย่างมีเหตุผล

สอนให้ลูกรู้เรียนรู้เรื่องอารมณ์ของตัวเอง คนรอบข้าง พร้อมกับวิธีจัดการอารมณ์ที่เหมาะสม เช่น เวลาโกรธ เสียใจ ไม่พอใจ โดยเฉพาะพ่อแม่เองจะต้องรู้เท่าทันอารมณ์ตัวเอง ไม่ส่งต่ออารมณ์บูด ๆ ให้ลูก
ข้อมูลเหล่านี้ น่าจะเป็นแนวทางให้คุณได้ลองคิดทบทวน แล้วก็เตรียมตัวเป็นสุดยอดคุณแม่คนต่อไปนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.11 No.122 กุมภาพันธ์ 2558