9 อาหารต้องห้าม สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์



คนท้องห้ามกินอะไร

         คนท้องห้ามกินอะไร วันนี้กระปุกดอทคอมมีเคล็ดลับน่ารู้จาก emaginfo.com เกี่ยวกับอาหารต้องห้ามที่คุณแม่ไม่ควรกิน เพราะอาหารบางประเภทอาจมีความเสี่ยงต่อลูกน้อยในครรภ์ได้ค่ะ โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรกคุณแม่ต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ ส่วนอาหารประเภทใดบ้างที่ควรเลี่ยงเราไปดูข้อมูลกันเลยค่ะ ^^

          ระหว่างตั้งครรภ์ ร่างกายของคุณแม่อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง โดยอาการแพ้ท้องจะมีมากในช่วง 3 เดือนแรก เนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง ช่วงตื่นนอน จะมีอาการมึนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน บางคนอาจมีอาการมากถึงขั้นรับประทานอาหารไม่ได้ หรือคุณแม่ตั้งครรภ์บางรายอาจจะนึกเปรี้ยวปากอยากกินนู่นกินนี่ ซึ่งไม่ผิดหรอกค่ะที่จะกิน แต่ขอให้ระวังของต้องห้ามไว้บ้าง แม้จะไม่เป็นอันตรายกับคุณแม่ แต่ก็อาจจะส่งผลเสียทำร้ายทารกในครรภ์ได้
          อาหารที่ดีสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์นั้น ต้องมีการปนเปื้อนน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ยุคนี้อาจจะต้องทำใจเพราะของที่ปนเปื้อนเยอะเหลือเกิน สำหรับคนทั่วไปแม้จะมีสารปนเปื้อนตกค้างในร่างกายบ้างก็คงไม่เป็นไร เพราะภูมิคุ้มกันในร่างกายยังทำงานได้ดี แต่สำหรับทารกในครรภ์ไม่สามารถคัดสิ่งที่เป็นสารพิษกับร่างกายได้ ได้แต่รับอย่างเดียว ความหวังจึงอยู่ที่คุณแม่อย่างเดียว

อาหารต้องห้าม 9 อย่าง สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์


1. ของหมักดอง

          ยามแพ้ท้อง คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคน มักจะอยากกินของที่เปรี้ยวจี๊ด อย่างมะยมดอง มะม่วงดอง ฯลฯ ให้หายเปรี้ยวปาก แต่ของดองเหล่านี้มีส่วนประกอบของเกลือและน้ำตาล หรือขัณฑสกรอยู่เป็นจำนวนมาก อาจส่งผลให้คุณแม่มีอาการบวมเพราะความเค็มที่มากขึ้น หลายครั้งที่ของหมักดองเหล่านี้ผ่านกรรมวิธีที่ไม่สะอาด เป็นเหตุให้ท้องเสีย เกิดอาการเพลียได้ อาจเป็นอันตรายต่อเด็กในครรภ์

2. คาเฟอีน

          กาแฟ ชา โอเลี้ยง น้ำอัดลม ล้วนมีส่วนผสมของคาเฟอีน ซึ่งมีสถิติจากการวิจัยออกมาว่าแม่ท้องที่ดื่มกาแฟวันละ 2-4 ถ้วย จะมีโอกาสแท้งลูกเป็น 2 เท่า ของผู้หญิงทั่วไป นอกจากนี้ถ้าดื่มกาแฟมากเกินไป จะทำให้มีอาการใจสั่น นอนไม่หลับ ดังนั้นเพื่อความสมบูรณ์แข็งแรงของทารก กาแฟจึงเป็นสิ่งที่คุณแม่ควรงดหรือดื่มให้น้อยลงเท่าที่ทำได้

          ส่วนการดื่มน้ำชาแก่ ๆ จะทำให้ท้องผูก คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรดื่มชาเพราะเวลาที่ตั้งครรภ์ระบบขับถ่ายอาจจะไม่ค่อย ปกติ มีโอกาสที่จะท้องผูกได้ง่าย และเมื่อการขับถ่ายผิดปกติจะทำให้อึดอัด และทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวารตามมาได้

          นอกจากนี้ยังมีชาบางประเภทที่ยามท้องต้องห้าม เช่น ชาดอกคำฝอย เพราะมีฤทธิ์ทำให้มดลูกบีบตัว ซึ่งเป็นอันตรายต่อแม่ท้อง เพราะฉะนั้น ชาแต่ละประเภทก็ควรศึกษาถึงประโยชน์และโทษก่อนดื่มด้วย สำหรับคุณแม่ที่อยากดื่มน้ำหวานลองเปลี่ยนเป็นน้ำผลไม้ปั่นจะปลอดภัยกว่า เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเยอะเลย

3. อาหารเผ็ดร้อน

          สำหรับอาหารรสจัดเป็นของที่ชื่นชอบสำหรับคุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์ ทั้งเปรี้ยวจัด เผ็ดจัด การทานอาหารรสจัดนั้นไม่ได้ห้ามอย่างเด็ดขาด แต่แม่ท้องควรจะระมัดระวังอันตรายหรือผลต่าง ๆ ที่จะตามมาจากอาหารรสจัด เช่น ปวดท้อง และอาหารเป็นพิษ ซึ่งจะส่งผลต่อระบบการทำงานอื่น ๆ ของร่างกาย นอกจากนี้ยังมีความเชื่อของคนโบราณว่า ของเผ็ดร้อน สำหรับคนท้องแล้วจะลงไปรดหัวเด็กในท้องให้แสบร้อนไปด้วย

4. ผงชูรส

          ผงชูรสเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่ ยังเป็นข้อสงสัยที่หลายคนให้ความสนใจใคร่หาคำตอบกันอยู่ ว่ากันตามกระบวนการผลิต นอกจากใช้มันสำปะหลังและกากน้ำตาลเป็นวัตถุดิบแล้ว ยังต้องผ่านกระบวนการทางเคมีหลายอย่าง ซึ่งในส่วนนี้ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ ดังนั้น สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์จึงควรงดบริโภคผงชูรสอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเป็นตัวทำลายหรือมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของสมองทารกได้

5. อาหารกระป๋อง

          เป็นอาหารสะดวกซื้อสำหรับคุณแม่ยุคใหม่ แต่อย่าลืมว่าอาหารกระป๋อง ไส้กรอก หมูแฮม แหนม ลูกชิ้น ฯลฯ ล้วนมีผงชูรส บอแรกซ์ โซเดียมไนเตรต โซเดียมฟอสเฟต โซเดียมซัคคาริน และโซเดียมตัวอื่น ๆ เช่น ผงฟู หากราคาถูกเนื้อที่ใช้มักเป็นเกรดต่ำ และอาหารเหล่านี้มีคุณค่าด้อยกว่าอาหารสดด้วย แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ขอให้ซื้อแบบที่มีคุณภาพ กระป๋องไม่บวมไม่บุบ และไม่ใส่สีก็แล้วกัน

6. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

          ต่อให้เป็นนักดื่มตัวยงแค่ไหน หากตั้งครรภ์แล้ว คุณแม่ก็ควรจะเว้นพัก เพราะแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป ทำให้ทารกมีโอกาสที่จะคลอดออกมาแล้วน้ำหนักน้อย เติบโตช้า ศีรษะเล็ก และมีความบกพร่องทางสติปัญญา หรือที่เรียกว่า Fetal Alcohol Syndrome

          เนื่องจากแอลกอฮอล์ทำให้น้ำตาลกลูโคสและกรดอะมิโนผ่านทางรกได้น้อยลง รวมทั้งทำให้เส้นเลือดในสายสะดือตีบด้วย ทารกจึงได้รับสาอาหารต่าง ๆ และออกซิเจนไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้น คุณแม่ตั้งครรภ์จึงสมควรเลิกดื่มแอลกอฮอล์เป็นอย่างยิ่ง

7. อาหารไขมันสูง

          อาหารไขมันสูงเป็นตัวร้ายอีกตัวที่ควรหลีกเลี่ยง เช่น อาหารทอดหรือผัดที่ใส่น้ำมันมาก ๆ เพราะมันย่อยยาก อีกทั้งกินมากมีแต่จะทำให้ท้องอืดเฟ้อ แน่นท้อง อึดอัด และเพิ่มน้ำหนักตัว โดยแปรไปเป็นไขมันจับอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย คุณแม่อาจจะมีไขมันเผละหลังคลอดก็ได้นะคะ

8. ผักเครือเถา

          การทานผักเยอะ ๆ โดยเฉพาะผักที่มีกากใยจะช่วยในเรื่องการการขับถ่าย ช่วยให้คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีปัญหาท้องผูกดีขึ้นได้ แต่ในผักยอดอ่อนจะมีสาร purin สูง สารนี้เมื่อทำการย่อยจะกลายเป็นกรดยูริก ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคเก๊าท์

          นอกจากนี้ ผักประเภทเครือเถานี้ เช่น ตำลึง ยอดมะระ ยอดฟักทอง ยอดฟักแม้ว ตามความเชื่อเขาบอกกันมาว่าผักพวกมีเถานั้น ถ้าตั้งท้องแล้วกินเข้าไป เมื่อถึงเวลาคลอดลูกจะยึดกับท้อง เหมือนเถาของผักที่พันตามกิ่งไม้ ทำให้คลอดลูกยาก แต่ก็ยังพอมีทางออกว่าถ้าจะกินจริง ๆ จะต้องเด็ดเถาของผักพวกนี้ออกก่อน

9. อาหารเพิ่มน้ำหนักแต่ไม่เพิ่มคุณค่า

        - สารให้รสหวาน เช่น น้ำตาลทรายขาว น้ำตาลทรายแดง ขัณฑสกร หรือน้ำตาลเทียมชนิดต่าง ๆ

        - ขนมหวาน เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ขนมชั้น มันเชื่อม ฯลฯ

        - เครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมแบะน้ำผลไม้กระป๋อง รวมไปถึงผลไม้กระป๋องเชื่อมต่าง ๆ ด้วย

         ขนมเค้ก ขนมปังที่มีแป้งเป็นส่วนประกอบหลัก

        -  ครีมเทียม

        -  ไอศกรีมรสหวานจัด

        - เครื่องปรุงที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบสูง เช่น น้ำสลัด น้ำจิ้มที่มีรสหวานจัด เป็นต้น

          เพื่อสุขภาพของลูกน้อยในครรภ์ที่จะลืมตาออกมาดูโลกได้อย่างแข็งแรงสมบูรณ์แล้ว คุณควรดูแลเรื่องโภชนาการ เลี่ยงอาหารทั้ง 9 อย่างที่ว่าไปแล้ว อย่าตามใจปาก ไม่เช่นนั้นผลที่ตามมาอาจจะต้องเสียใจแทนที่จะเป็นเรื่องน่ายินดีนะคะ


ลิขสิทธิ์บทความของ emaginfo.com
ติดตามบทความ สุขภาพ หรืออ่าน แมกกาซีน
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
9 อาหารต้องห้าม สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ อัปเดตล่าสุด 9 พฤษภาคม 2559 เวลา 16:42:13 278,308 อ่าน
TOP
x close