นมผง กับเรื่องน่ารู้ พร้อมวิธีชงนมผงที่ถูกต้อง

• สูตร 1 (Infant Formula) สำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 1 ขวบ
• สูตร 2 (Follow on formula) สำหรับเด็กตั้งแต่อายุ 6 เดือน - 3 ขวบ
• สูตร 3 (Powdered Whole Milk) สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 1 ขวบขึ้นไป และทุกคนในครอบครัว
• สูตร 4 สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 3-6 ขวบขึ้นไป และทุกคนในครอบครัว

• โปรตีน ช่วยในการเจริญเติบโต เสริมสร้างกล้ามเนื้อ และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
• ไขมัน ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย
• คาร์โบไฮเดรต ที่สำคัญของนมคือน้ำตาลแล็กโทส เป็นแหล่งพลังงานของร่างกาย
• เกลือแร่ มีหลายชนิดในนม โดยเฉพาะอย่างยิ่งแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งมีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง
• วิตามิน ใช้ในกระบวนการเมตาบอลิซึมที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้ ไม่ว่าจะเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน เช่น A, D, E, K และวิตามินที่ละลายในน้ำ คือ วิตามิน B ต่าง ๆ, กรดโฟลิก และโคลีน เป็นต้น
• กรดอะมิโนต่าง ๆ เช่น ทอรีน เป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญต่อพัฒนาการของระบบประสาทและสมอง
• DHA และ ARA เป็นกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว ซึ่งจำเป็นต่อพัฒนาการทางสมองและสติปัญญาของเด็ก
• Sphingomyelin เป็นสารอาหารกลุ่มไขมันที่ช่วยในการสร้างไมอีลินชีท ช่วยส่งเสริมการทำงานและพัฒนาการของสมอง

1. ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำสบู่และเช็ดให้แห้งทุกครั้งก่อนชงนมให้ลูก
2. อุปกรณ์การชงนมต้องล้าง ต้ม หรือนึ่งฆ่าเชื้อโรคก่อน จากนั้นตากให้แห้งสนิทและเก็บในที่แห้งสะอาด
3. อ่านคำแนะนำข้างกระป๋องนมทุกครั้งว่าต้องตวงนมกับน้ำในสัดส่วนเท่าไหร่
4. เตรียมน้ำต้มสุก พักไว้ให้เย็นในอุณหภูมิห้อง หากจะใช้น้ำร้อนควรผสมกับน้ำต้มสุก ในอัตรา 1:3 (น้ำร้อน 1 ส่วน น้ำต้มสุก 3 ส่วน) เมื่อผสมกับผงนมแล้วจะได้อุณหภูมินมประมาณอุณหภูมิห้อง ไม่ควรใช้น้ำร้อนชงนมให้ลูก เพราะความร้อนสูงจะไปทำลายสารอาหารที่นมผงมี
5. ตวงปริมาณน้ำให้ถูกต้องตามที่ต้องการ โดยใส่น้ำก่อนตักนมผงลงไปเสมอ เนื่องจากการใส่นมผงก่อนจะทำให้ปริมาณน้ำน้อยกว่าความเป็นจริง ทำให้ลูกได้รับนมในปริมาณที่เข้มข้นเกินไป อาจทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ และไม่ควรใช้น้ำต้มสุกที่เก็บไว้นานเกิน 30 นาทีมาชงนมให้ลูก เนื่องจากอาจปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย
6. เติมนมผงในอัตราส่วนตามที่ระบุข้างฉลาก โดยใช้ช้อนตวงที่ให้มาปาดกับถุงฟอยล์ ให้นมผงพอดีช้อน ห้ามใช้นิ้วปาดโดยเด็ดขาด เพราะนิ้วมืออาจทำให้นมผงได้รับสิ่งปนเปื้อนได้
7. ปิดฝาขวดนมให้สนิท แกว่งขวดนมไปทางซ้ายและขวา หรือแกว่งวนเป็นวงกลมเบา ๆ เพื่อให้นมละลาย ระวังการเขย่าขวดนมแรงเกินไปจะทำให้เกิดฟอง เพราะหากลูกดูดนมที่มีฟองอากาศจะทำให้ท้องอืดได้เช่นกัน หากนมมีฟองมากให้ตั้งทิ้งไว้สักครู่ก่อน
8. หยดน้ำนมลงบนหลังมือ เพื่อทดสอบอุณหภูมิว่าไม่ร้อนจนเกินไป แล้วจึงป้อนให้ลูก

• นมผงที่ชงและกินแล้ว

          นมที่ป้อนเด็กแล้ว ควรให้ลูกกินให้หมดภายใน 1 ชั่วโมง หากเกินจากนั้นควรทิ้งและชงนมใหม่

• นมผงที่ชงแล้วแต่ยังไม่ได้กินทันที

          นมชงอาจอยู่ได้ประมาณ 2 ชั่วโมง ในอุณหภูมิห้อง และอยู่ได้ประมาณ 24 ชั่วโมง เมื่อแช่ไว้ในตู้เย็น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสูตรของนมผงและยี่ห้อของนมผงแต่ละชนิดด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้แช่แข็งนมชง เพราะอาจทำให้คุณภาพของนมลดลงได้

          การเลือกนมผงและวิธีชงนมผง ใคร ๆ อาจจะมองว่าเป็นเรื่องง่าย แต่ความจริงต้องพิถีพิถันทุกขั้นตอน เพื่อให้ลูกน้อยไม่แพ้ ไม่ท้องผูก ไม่ถ่ายเหลว รวมถึงทำให้น้ำหนักเพิ่มและสุขภาพดีตามเกณฑ์ แต่อย่าลืมว่านมผงที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ว่ามาก็ยังสู้นมแม่ไม่ได้ ดังนั้นควรให้นมผงเป็นแค่นมเสริม และนมแม่เป็นมื้อหลัก จะดีต่อลูกมากที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจาก : healthline.com, kulalac.com, webmd.com, allgenhealth.com, ยูทูบดอทคอม โพสต์โดย Synphaet Hospitals, phitsanulok-hospital.com, happymom.in.th