x close

ปรับฮอร์โมนแม่ตั้งครรภ์ ให้สมดุล



ปรับฮอร์โมนแม่ท้อง
(รักลูก)

           "ฮฮร์โมน" คือสารเคมีที่ร่างกายสร้างไว้สำหรับควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ให้เป็นปกติค่ะ ซึ่งช่วงท้องจะมีการเปลี่ยนแปลง จึงต้องคอยจัดการให้เจ้าฮอร์โมนนี้ปกตินะคะ

ท้อง...ฮอร์โมนเปลี่ยน

           ขณะตั้งครรภ์ระดับฮอร์โมนในร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ ความเป็นแม่จึงเริ่มต้นขึ้นเมื่อมีการปฏิสนธิ มีการแบ่งเซลล์ และการฝังตัวของตัวอ่อนที่โพรงมดลูก หลังจากนั้นภายหลังการฝังตัวของตัวอ่อน จะมีเซลล์ส่วนหนึ่งชื่อเซลล์โทรโฟบลาสท์จะเจริญไปเป็นรก และรกจะทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนควบคุมการตั้งครรภ์ให้ดำเนินต่อไป ซึ่งรกเป็นโครงสร้างเชื่อระหว่างมดลูกของคุณแม่และลูก ติดอยู่กับผนังด้านในของมดลูก เสมือนเป็นอวัยวะหนึ่งของคุณแม่ โดยมีสายสะดือเป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างรกกับทารก

4 ฮอร์โมน...แห่งการเปลี่ยนแปลง

           การจะดำเนินการตั้งครรภ์ต่อไปได้ต้องอาศัยฮอร์โมนหลายชนิด ซึ่งรกจะทำหน้าที่เป็นต่อมไร้ท่อชั่วคราวในมดลูก ในการผลิตฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับกลไกการเจ็บครรภ์ค่ะ

1. ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน

           ผลิตจากรังไข่ช่วง 6-8 สัปดาห์แรก หลังจากนั้นรกจะผลิตฮอร์โมนนี้เพิ่มขึ้นตลอดการตั้งครรภ์ ซึ่งทำงานร่วมกับเอสโตรเจน ในการเตรียมเยื่อบุโพรงมดลูกให้เหมาะสมแก่การฝังตัวของตัวอ่อน และช่วยให้มีการสะสมไขมันมากขึ้นเพื่อใช้เป็นพลังงานและแหล่งอาหาร สำหรับการตั้งครรภ์และลูกน้อยด้วยค่ะ

2. ฮอร์โมนเอสโตรเจน

           มีบทบาทในการเสริมสร้างเนื้อเยื่อต่าง ๆ โดยช่วยกระตุ้นให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวขึ้น เหมาะสำหรับให้ไข่ที่ผสมแล้วมาฝังตัว ทำให้ผนังช่องคลอดหนาและยืดขยายได้ดีขึ้น

3. ฮอร์โมนฮิวแมนดอร์โอนิกโกนาโดโทรฟิน (HCG)

           ที่สร้างมาจากถุงน้ำคร่ำที่อยู่ติดกับมดลูกค่ะ ซึ่งมีปริมาณสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงแรก ซึ่งช่วยเพิ่มเลือดให้มาเลี้ยงที่ผนังมดลูกมากขึ้น สร้างความพร้อมในการฝังตัวของตัวอ่อน

4. ฮอร์โมนฮิวแมนพลาเซนต้าแลกโตรเจน (hPL)

          เป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้ร่างกายคุณแม่สามารถนำสารอาหารประเภทโปรตีน และกลูโคสผ่านไปยังทารกมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีส่วนกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนแปลงของเต้านม เพื่อเตรียมการผลิตน้ำนมมากยิ่งขึ้นด้วย

9 วิธี...ปรับฮอร์โมนให้สมดุล

           ด้วยอิทธิพลของฮอร์โมนต่าง ๆ ที่สูงขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ประกอบกับรูปร่างที่ขยายใหญ่ขึ้น ส่งผลให้คุณแม่ต้องพบการเปลี่ยนแปลงมากมายค่ะ

1.อาการแพ้ท้อง

           คุณแม่อาจจะมีแค่อาการพะอืดพะอม หรือคลื่นไส้อาเจียน คุณแม่บางคนอาจจะมีอาการรุนแรงมากจนกินอะไรไม่ได้เลย และเกิดภาวะขาดน้ำ เช่น ตาลึกโบ๋ ปากแห้ง หรือปัสสาวะน้อยและสีเข้ม ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดจากปริมาณฮอร์โมน HCG ที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ว่าอาการจะดีขึ้นหลังอายุครรภ์ประมาณ 4 เดือนไปแล้วค่ะ

          เคล็ดลับปรับสมดุล : คุณแม่ลองแบ่งอาหารเป็นมื้อย่อย แต่หลายมื้อ ปริมาณมื้อละน้อยๆ หลีกเลี่ยงอาหารมัน ๆ นะคะ เน้นอาหารที่ย่อยง่าย เช่น น้ำผลไม้สด ขนมปังกรอบ แต่หากแพ้รุนแรงก็ใช้วิธีจิบน้ำหวานหรือทานไอศกรีม จะช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องรุนแรงได้ดี นอกจากนี้ลองหากิจกรรมเพลิน ๆ ทำจะได้ไม่จดจ่อกับอาการคลื่นไส้ แต่หากยังไม่ดีขึ้น ควรรีบปรึกษาคุณหมอ ไม่ควรซื้อยามากินเองนะคะ

2.ท้องอืด อาหารไม่ย่อย

           ขณะที่คุณแม่ตั้งครรภ์การทำงานของหูรูดหลอดอาหารที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้อาหารที่กินเข้าไปย่อยช้าลงมาก การทำงานของลำไส้ไม่ค่อยบีบตัว จึงเกิดปัญหาท้องอืด อาหารไม่ย่อย และท้องผูกได้ง่าย

          เคล็ดลับปรับสมดุล : คุณแม่ควรกินอาหารที่ย่อยง่าย เน้นผักผลไม้ และหลีกเลี่ยงอาหารี่มีการสร้างก๊าซ เช่น ถั่วน้ำอัดลม หรืออาหารรสจัดมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมื้อเย็น เพราะจะทำให้เกิดอาการจุกเสียดตอนกลางคืนจนนอนไม่หลับได้

3.การรับรสเปลี่ยนไป

           ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงในขณะที่ตั้งครรภ์นั้น ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของต่อมน้ำลาย ทำให้การรับรสชองคุณแม่เปลี่ยนไปได้ และอาจรู้สึกอยากอาหารแปลก ๆ ไปจากเดิม จึงควรระวังเลือกอาหารที่มีประโยชน์ และปรุงสุกสะอาดเสมอ

          เคล็ดลับปรับสมดุล : คุณแม่ที่เริ่มตั้งครรภ์อ่อนๆ ต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนในการค้นหาตัวเองว่าครรภ์นี้จะกินอะไรได้ดี และกินอะไรแล้วกระตุ้นให้อาเจียน พออายุครรภ์มากขึ้น ก็จะปรับตัวได้ดีขึ้น

4.ปวดศีรษะ

           คุณแม่ที่มีประวัติเป็นไมเกรน ด้วยอิทธิพลของฮอร์โมนขณะตั้งครรภ์ ทำให้มีการกำเริบของอาการไมเกรนได้บ่อยมากขึ้น

          เคล็ดลับปรับสมดุล : ทำบรรยากาศในห้องให้สดชื่น เช่น ปลูกดอกไม้ที่กลิ่นหอม ๆ หรือใช้สเปรย์กลิ่นลาเวนเตอร์ ฉีดให้กระจายทั่วห้องจะทำให้รู้สึกดีและรู้สึกสงบ ที่สำคัญได้ผลดีและยังช่วยลดอาการปวดศีรษะจากความเครียด

5.ผิวหนังบริเวณหน้าท้องและเต้านมมีสีเข้มขึ้น

           คุณแม่บางคนอาจมีผื่นแดง ๆ ขึ้นได้ง่ายด้วยค่ะ จากผลของฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผิวหนังไวต่อแสงแดดมากขึ้น คุณแม่จึงมีโอกาสเป็นฝ้าได้ง่าย

          เคล็ดลับปรับสมดุล : คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงแดดจัดในช่วงบ่าย ทาครีมกันแดด หรือพกร่มเมื่อต้องออกไปธุระข้างนอกเสมอนะคะ

6.เมื่อยล้าและเหนื่อยง่าย

           เกิดจากระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้น ทำให้คุณแม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าง่าย และต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นด้วย

          เคล็ดลับปรับสมดุล :
การดื่มน้ำขิงร้อนๆ และแช่เท้าด้วยน้ำอุ่นหลังจากเลิกงาน ช่วยผ่อนคลายได้ดีทีเดียว

7. เต้านมขยายใหญ่

           เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ทำให้คุณแม่รู้สึกเจ็บเต้านมเมื่อเริ่มตั้งครรภ์ นอกจากนี้เต้านมจะมีการเพิ่มขนาดต่อม และบริเวณฐานหัวนมจะเป็นสีดำมากขึ้น

          เคล็ดลับปรับสมดุล : คุณแม่ควรจะเลือกชุดชั้นในที่ขนาดเหมาะสมกับขนาดเต้านมที่เปลี่ยนไป ไม่ควรเลือกขนาดที่รัดแน่นจนเกินไป

8.ปวดแขน ขา

           ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงอาจทำให้เส้นเอ็นและข้อต่อต่าง ๆ หย่อนลง คุณแม่อาจปวดบริเวณรอยต่อ กระดูกเชิงกรานตรงหัวเหน่าซึ่งศีรษะของลูกไปกดทับด้วย

          เคล็ดลับปรับสมดุล : เวลาปวดให้ใช้ยานวดคลายกล้ามเนื้อชนิดร้อนหรือเย็นนวดบาง ๆ หรือประคบด้วยความเย็น ดื่มน้ำขิงหรือใบแปะก๊วยวันละแก้ว ก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปประมาณเดือนที่ 3 หลังคลอด

9.อารมณ์เปลี่ยนแปลง

           อารมณ์เปลี่ยนแปลงเป็นปัญหาที่พบในคุณแม่แทบทุกคน บางคนรู้สึกหงุดหงิดบ้างก็ซึมเศร้า รู้สึกจิตใจห่อเหี่ยวไม่อยากแต่งหน้าไปทำงานด้วยซ้ำ

          เคล็ดลับปรับสมดุล : คุณแม่จะต้องเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นก่อนว่า เป็นเรื่องของธรรมชาติไม่ต้องเครียดหรือกังวลค่ะ ผ่อนคลายด้วยการฟังเพลงเพราะ ๆ อ่านนิตยสารและพูดคุยกับคุณแม่ท่านอื่น จะทำให้ผ่อนคลายขึ้น และไม่รู้สึกว่าต้องเผชิญปัญหาอย่างโดดเดี่ยว

           เพื่อให้พัฒนาการต่าง ๆ ของลูกน้อย แต่ละช่วงครรภ์เป็นไปอย่างสมบูรณ์และเหมาะสม คุณแม่จะต้องดูแลสุขภาพท้องด้วยการดูแลสุขภาพกายใจให้สมดุล และมีความสุขอยู่เสมอนะคะ


เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย

  คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ปีที่ 29 ฉบับที่ 338 มีนาคม 2554

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ปรับฮอร์โมนแม่ตั้งครรภ์ ให้สมดุล โพสต์เมื่อ 4 พฤษภาคม 2554 เวลา 14:02:04 11,346 อ่าน
TOP