การ “ท้องทิพย์” หรือโรคคิดไปเองว่าท้อง ถือเป็นเหตุการณ์ที่พบได้ในข่าวบ่อย แต่หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจ พร้อมขมวดคิ้วสงสัยว่าโรคนี้มีจริงหรือ ? ลองมารู้จักภาวะท้องหลอก ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร อาการเป็นแบบไหน พร้อมวิธีการรักษาในปัจจุบันกัน
ท้องทิพย์คืออะไร มีจริงไหม
ท้องทิพย์ หรือ ท้องหลอก ในทางการแพทย์เรียกว่าภาวะท้องเทียม (Pseudocyesis) คืออาการผิดปกติทางจิตอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ผู้หญิงคิดว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์อยู่ โดยจะรู้สึกว่ามีอาการเหมือนคนท้องทุกอย่าง แต่เมื่อพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายดูแล้ว กลับไม่พบสิ่งที่แสดงว่าตั้งครรภ์ ซึ่งต่างจากกรณีภาวะท้องลมที่แพทย์ตรวจพบอาการบ่งชี้ว่ามีการตั้งครรภ์จริง แต่ไข่ฝ่อไปหรือตัวอ่อนไม่มีการเจริญเติบโต
อย่างไรก็ตาม ท้องเทียมเป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้น้อยมากเพียงแค่ 0.0045-0.0272% ของการตั้งครรภ์เท่านั้น และในปัจจุบันมีแนวโน้มพบได้น้อยลงเรื่อย ๆ โดยไม่ได้เป็นเฉพาะในผู้หญิงเท่านั้น เพราะมีรายงานการพบภาวะท้องเทียมในผู้ชายด้วย ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยโรคจิตเภทที่มีอาการหลงผิด
ท้องทิพย์ หรือ ท้องหลอก เกิดจากอะไร
แม้จะยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่จากการศึกษาในผู้ป่วยจำนวนมากพบว่าโรคท้องทิพย์นี้เกิดจากสภาพทางจิตใจเป็นหลัก โดยผู้หญิงที่เป็นมักจะต้องการมีบุตรอย่างมากแต่ไม่มีสักที อาจผ่านการรักษาหมดเงินหมดทองไปมากมายแต่ก็ยังไม่ท้อง จนทำให้เครียด โดยทางการแพทย์เชื่อว่าความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะมีลูก ทำให้ร่างกายตอบสนองบางอย่าง บวกกับสมองเชื่อหรือรับรู้แบบผิด ๆ ไปว่าตั้งท้อง จึงกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนหลายชนิดออกมา เช่น ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และโปรแลกติน (Prolactin) ซึ่งมีผลทำให้ร่างกายเกิดอาการเหมือนกับการตั้งครรภ์จริง ๆ
ส่วนปัจจัยอื่น ๆ ได้แก่ การเสียใจจากการแท้ง การต้องการที่จะแต่งงาน การกลัวการตั้งครรภ์อย่างมาก การผิดหวังจากการที่ต้องตัดมดลูก หรือในบางกรณีก็พบในผู้ป่วยที่เป็นโรคจิตเภท (schizophrenia) เป็นต้น
อาการท้องหลอกเป็นอย่างไร
โรคท้องทิพย์ หรือ ภาวะท้องเทียม เกิดขึ้นได้ในผู้หญิงที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ แต่มีอาการแสดงต่าง ๆ ได้แก่
- ประจำเดือนขาด
การที่ประจำเดือนขาดสามารถเกิดขึ้นได้จริง ซึ่งน่าจะมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่มากระตุ้นรังไข่ ทำให้ผนังมดลูกหนาตัวและไม่มีประจำเดือน โดยทั่วไปแล้วจะขาดไปประมาณ 3-4 เดือน แต่ก็เคยมีรายงานว่าขาดประจำเดือนไปถึง 9 เดือนเลยก็มี
- หน้าท้องโตขึ้น
สำหรับท้องที่ใหญ่ขึ้นเป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด อาจเกิดจากคนกลุ่มนี้อยากท้องอยู่แล้ว จึงกินอาหารบำรุงทำให้เกิดการสะสมของชั้นไขมันหน้าท้อง
- รู้สึกว่ามีลูกดิ้นในท้อง
ผู้หญิงรู้สึกว่าลูกดิ้นหรือคนรอบข้างจับต้องได้นั้นเกิดจากการบีบตัวของลำไส้ หรือการหดเกร็งของกล้ามเนื้อหน้าท้อง ทำให้มีการขยับคล้ายกับลูกดิ้นได้ในบางราย
- เต้านมขยายใหญ่ขึ้น
เต้านมขยายเกิดมาจากต่อมใต้สมองหลั่งฮอร์โมนของสตรีมีครรภ์ออกมา เพื่อกระตุ้นให้เต้านมขยายเตรียมพร้อมผลิตน้ำนมให้ลูก
- มีอาการแพ้ท้อง
อาการแพ้ท้องต่าง ๆ สามารถเกิดได้จากอารมณ์ จิตใจ ความเครียด และการที่มีลมอยู่ในระบบทางเดินอาหารก็กระตุ้นให้มีอาการคลื่นไส้อาเจียนได้
- ท้องแข็ง ปัสสาวะบ่อย
เกิดจากความวิตกกังวลและคิดหมกหมุ่นจนทำให้รู้สึกต้องปัสสาวะบ่อย ๆ หรือมีอาการท้องแข็งได้
อาการเหล่านี้เป็นเรื่องเฉพาะตัวของผู้หญิงแต่ละคน รวมถึงประวัติทางการแพทย์ด้วย บางคนมีอาการท้องหลอกอยู่เพียงไม่กี่วัน เป็นสัปดาห์ หรือหลายเดือน โดยทั่วไปแล้วจะท้องหลอก 9 เดือนและอาจนานถึงปีเลยก็มี
จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นภาวะท้องทิพย์ หรือ ท้องเทียม
การรักษาโรคท้องทิพย์
โดยทั่วไปเมื่อผู้ป่วยได้รับการยืนยันอย่างชัดเจนจากการตรวจเพิ่มเติมแล้วว่าไม่ได้ท้องจริง อาการที่คล้ายการตั้งครรภ์ต่าง ๆ ก็มักจะค่อย ๆ หายไปเอง แต่การพบจิตแพทย์ก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะปัญหาด้านจิตใจเป็นต้นเหตุของอาการท้องทิพย์ โดยแนวทางการรักษาจะมุ่งเน้นการเยียวยาทางใจมากกว่าใช้ยา เช่น การให้คำแนะนำ การให้กำลังใจ การช่วยผ่อนคลายและลดความวิตกกังวล
ถึงท้องทิพย์จะเป็นแค่อาการที่คิดไปเอง แต่อย่าลืมว่าผู้ป่วยกลุ่มนี้เมื่อรู้ความจริงก็อาจจะเกิดความผิดหวังรุนแรงที่ทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ ดังนั้นครอบครัวจึงควรดูแลสภาพจิตใจให้มาก ๆ อีกทั้งสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้มีโอกาสเกิดการตั้งครรภ์ที่ดี จะได้ไม่ต้องพบเจอกับภาวะท้องหลอกอีก
ขอบคุณข้อมูลจาก : si.mahidol.ac.th, praram9.com, เฟซบุ๊ก OBG Social, เฟซบุ๊ก Absolute-Health.org