แผลผ่าคลอด : ตามยาวหรือตามขวางดี? (MODERNMOM)
พูดถึงเรื่องผ่าตัดเป็นใครก็คงต้องกลัว นึกถึงภาพที่หมอกำลังล้วงควักตัดเย็บอะไรอยู่ในท้องของเรา แค่คิดก็รู้สึกเสียวไส้แล้ว แต่ในที่สุดบางทีเมื่อถึงคราวแล้วมันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ คุณแม่หลายคนก็มีเหตุที่จะต้องคลอดโดยการผ่าตัดคลอด แล้วถ้าหากจำเป็นต้องผ่าตัดคลอดเราสามารถมีทางเลือกอะไรได้บ้างล่ะ
การผ่าตัดคลอดหรือที่หมอเขาเรียกกันว่า ซีซาเรี่ยน เช็กชั่น (Cesarean Section) ดูๆ แล้วก็น่าจะผ่าเหมือนๆ กันหมด ใครๆ ต่างก็เข้าใจว่าผ่าตัดคลอดที่ไหนๆ ก็ผ่าแบบเดียวกัน ตอนจบออกมาจากห้องผ่าตัดลูกที่เคยอยู่ข้างในตอนนี้ก็ผ่าออกมาอยู่ข้างนอกเป็นที่เรียบร้อย มีแผลผ่าตัดปิดพลาสเตอร์เรียบร้อยที่หน้าท้อง ตอนผ่าจะผ่าแบบไหน วิธีไหน ใครจะไปอยากรู้ล่ะ ยังไงก็มองไม่เห็นอยู่แล้ว เพราะตอนผ่าก็จะมีผ้ากั้น หรือบางทีมีผ้ามาผูกปิดตาอีกต่างหากแต่ที่จริงแล้วการผ่าตัดคลอดมีวิธีหลากหลายมาก ข้างนอกก็มีบ้างที่ผ่าแนวตั้ง บ้างก็ผ่าแนวขวาง ส่วนข้างในที่มดลูกก็มีทั้งแผลแนวตั้งกับแผลแนวขวาง แล้วแต่ยุคสมัย ความชำนาญของหมอแต่ละคน หรือความเหมาะสมทางการแพทย์ในคนไข้แต่ละคน จนถึงทุกวันนี้วิธีการผ่าตัดด้านในก็ดูจะเหมือนๆ กัน จะมีบ้างที่หมอบางท่านอาจจะเย็บมดลูกชั้นเดียว แต่บางท่านเย็บสองชั้น ส่วนแผลหน้าท้องข้างนอกก็มีแค่สองแบบคือผ่าตามยาวกับผ่าตามแนวขวาง
การผ่าตัดคลอดเป็นการผ่าตัดที่โบราณเก่าแก่ที่สุด มากกว่าการผ่าตัดใดๆ ในโลกนี้ แทบไม่น่าเชื่อเลยว่ามีการผ่าตัดคลอดกันมาตั้งแต่ 800 ปีก่อนคริสตกาล ที่ได้ชื่อว่า ซีซาเรี่ยน ก็เพราะว่ามีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญโรมัน ชื่อ Lex Cesarea อีตาคนนี้แกก็ออกกฎหมายมาว่า หากสตรีตั้งครรภ์เสียชีวิตจะต้องผ่าท้องเอาเด็กออกมาฝังแยกกับแม่เสมอ จะด้วยเหตุผลใดก็ไม่มีใครทราบ ตั้งแต่นั้นมาก็เลยเรียกการผ่าตัดนี้ว่า Cesarean
จากนั้นเอง ก็เลยเอามาลองผ่ากับคนท้องที่มีชีวิต แต่สุดท้ายผ่าแล้วตายมากกว่าครึ่งจากการเสียเลือดกับการติดเชื้อโรคดีที่เราเกิดมาสมัยนี้ที่การแพทย์เจริญก้าวหน้า มีการพัฒนาวิธีการผ่าตัดจนแทบไม่มีใครเสียชีวิตจากการผ่าตัดคลอดเลยแล้วตั้งแต่เมื่อสองพันแปดร้อยปีที่ผ่านมาจนถึงไม่กี่สิบปีนี้เอง การผ่าตัดคลอดจะผ่าหน้าท้องตามยาว!!! เมื่อก่อนผ่าตามยาวก็ไม่มีใครว่าไม่มีใครบ่นสักคนว่าแผลไม่สวย เพราะใครๆ เขาก็ผ่าตามยาวกันทั้งนั้น แต่อยู่มาวันหนึ่งก็มีหมอแถวๆ แคว้นบาวาเรีย ทางใต้ของเยอรมัน แกผ่าท้องคลอดแนวตั้งอยู่ทุกวันจนเซ็ง อีกทั้งเวลาไปทะเลว่ายน้ำอาบแดด ฝรั่งเขาใส่ชุดว่ายน้ำทูพืชกัน มีข้างบนชิ้น ข้างล่างอีกชิ้น จะผ้าชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ก็แล้วแต่ขนาดแต่ละคน แกก็นั่งดูแล้วก็คงเซ็งตัวเองที่ผู้หญิงสวยๆ ใส่ชุดว่ายน้ำดูเซ็กซี่ แต่กลับมีรอยแผลผ่าตัดแนวตามยาวเกะกะลูกตากันเป็นแถว ที่สำคัญก็เป็นฝีมือแกทั้งนั้น สุดท้ายไปนั่งคิดนอนคิดอยู่สามสี่วัน แกก็เลยคิดวิธีการผ่าตัดแนวขวางขึ้นมา รอยแผลจะอยู่ได้แนวบิกีนี่ ถ้าไม่ถอดกางเกงในก็คงไม่มีใครมองเห็นตั้งแต่นั้นแผลผ่าตัดตามแนวขวางก็เริ่มเป็นที่นิยม เลยเรียกแผลแบบนี้ว่า Pfannenstiel (แฟนเน่นสตีล) ตามชื่อของหมอคนนี้เสียเลย...คนอะไรชื่ออ่านยากซะมัด
แผลแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป หมอแต่ละคนก็ชำนาญแผลแต่ละแบบแตกต่างกันไป โรงพยาบาลแต่ละแห่งก็มีนโยบายสำหรับการผ่าตัดแตกต่างกันไป เอาเป็นว่ามารู้จักแผลแต่ละแบบกันดีกว่า
แผลผ่าตามยาว
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าผ่าในแนวยาว รอยแผลจะเริ่มตั้งแต่ใต้สะดือลงมาจนถึงหัวหน่าว ผ่านชั้นไขมันชั้นกล้ามเนื้อ เยื่อบุช่องท้องในแนวตามยาวทั้งหมด ข้อดีของการผ่าแบบนี้ก็คือ ผ่าง่าย ผ่าเร็ว ใช้เวลาน้อย เสียเลือดน้อยเปิดแผลได้กว้างทำอะไรข้างในได้สะดวก ถ้าผ่าแล้วแผลเล็กไปก็สามารถขยายแผลอ้อมสะดือขึ้นไปได้อีก อะไรก็ดูง่ายไปหมด ข้อเสียที่เห็นชัดๆ ก็คือมันเห็นชัดเกินไปดูแล้วไม่สวยงาม ยิ่งถ้าเป็นแผลเป็นดันนูนขึ้นมาอีก ดูแล้วจะเหมือนมีไส้เดือนยักษ์เลื้อยขึ้นมาจากกางเกงในเลย เห็นแล้วสยองหมดอารมณ์ไปเลย ถ้าไม่นับเรื่องความสวยความงามแล้วล่ะก็การผ่าตัดในแนวยาวก็ย่อมต้องดีกว่าการผ่าแนวขวางอยู่แล้ว
แผลผ่าในแนวขวาง
แนวแผลภายนอกจะอยู่เหนือแนวขนหัวหน่าวตามรอยขอบกางเกงใน ถ้าผ่าตัดคลอดปกติแผลจะยาวประมาณ 10-12 ซม. ลึกลงไปชั้นไขมันก็จะผ่าตามแนวขวาง พอถึงขั้นกล้ามเนื้อกลับเปลี่ยนมาผ่าในแนวตั้งเยื่อบุช่องท้องก็ผ่าตามแนวตั้ง พอถึงตัวมดลูกก็ผ่าตามแนวขวางอีกที การผ่าตัดคลอดตามขวางก็เลยดูแข็งแรงกว่าแผลตามยาว เพราะแนวของแผลในแต่ละชั้นจะแตกต่างกัน เหมือนปิดฝากล่องกระดาษที่สลับไปสลับมา ขณะที่แผลตามยาวแผลทุกชั้นจะอยู่ในแนวเดียวกัน ถ้าแผลแยกก็จะแยกหมด แต่การผ่าในแนวขวางก็จะเสียเวลามากกว่า เสียเลือดมากกว่าต้องใช้ความชำนาญมากกว่า เปิดแผลไม่ได้กว้างนัก ทำอะไรข้างในก็ลำบาก แถมขยายแผลกว้างสุดๆ ได้ไม่เกิน 14 ซม. สรุปแล้วแผลแนวขวางก็ดีกว่าในแง่ของความสวยงามกับความแข็งแรง นอกนั้นก็ไม่มีอะไรดีไปกว่าแผลตามแนวตั้งเลย
ในต่างประเทศก็พบว่าประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งหลาย เช่น ประเทศทางแถบยุโรปก็มักจะผ่าในแนวขวางเป็นส่วนใหญ่ฝรั่งพวกนี้เขาชอบใส่ชุดว่ายน้ำสวยๆ อาบแดดกันอยู่แล้ว ชอบโชว์สัดส่วนเรือนร่าง เพราะเขาถือว่าเป็นสิ่งสวยงาม ถ้าต้องผ่าตัดก็ขอให้ดูดีที่สุดเอาไว้ก่อน ส่วนประเทศที่พัฒนาน้อยๆ หน่อย ประชาชนไม่มีทางเลือกอะไรมากมายก็จะยังผ่าตัดในแนวตั้งเป็นส่วนใหญ่ สงสัยว่าวันหลังคงต้องเอาลักษณะของแผลผ่าตัดคลอดมาเป็นดัชนีชี้วัดความเจริญของประเทศไทยด้วยก็คงจะดี
ถึงเวลาที่จะต้องโดนผ่าตัดจริงๆ ถ้าถามตัวคุณแม่เองว่าอยากให้หมอผ่ายังไง ผู้หญิงเรายังไงก็ต้องเอาที่มันสวยงามไว้ก่อนแหละครับ ทุกคนก็จะอยากให้ผ่าตัดตามแนวขวาง ส่วนใหญ่แล้วในโรงพยาบาลเอกชนก็มักจะผ่าในแนวขวาง ส่วนในโรงพยาบาลของรัฐฯ ก็แล้วแต่นโยบายของแต่ละที่ เพราะการผ่าแบบขวางนั้นจะเสียเวลามากกว่า เสียเลือดมากกว่ามีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนมากกว่า บางที่จึงอาจให้ผ่าในแนวตั้งอย่างเดียว แต่เข้าใจว่าหากบอกคุณหมอไว้ก่อน ถ้าไม่ลำบากหรือมีข้อห้ามอะไร คุณหมอก็อาจจะผ่าแนวขวางให้คุณแม่สวยโชว์สะดือได้สมใจครับ แล้วเท่าที่สังเกตคุณหมอหนุ่มๆ หรือรุ่นกลางๆ ก็มักจะผ่าในแนวขวางมากกว่าคุณหมอที่มีอายุมากๆ เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น หากคุณแม่ไม่แน่ใจก็ลองสอบถามคุณหมอก่อนผ่าก็ดีเหมือนกัน เดี๋ยวแผลออกมาไม่ได้ดั่งใจแล้วก็จะไม่สามารถลบรอยแผลแนวตั้งอออกแล้วผ่าแนวขวางใหม่ได้ คุยกันให้เรียบร้อยจะได้ไม่ต้องมานั่งบ่นทีหลัง!!
นอกจากนั้นในบางสถานการณ์ เช่น ภาวะทารกในครรภ์กำลังขาดออกซิเจน ภาวะรกเกาะต่ำที่กำลังมีเลือดออกมากๆ ภาวะสายสะดือย้อย หรืออะไรก็ตามที่เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ สถานการณ์อย่างนี้คุณหมอก็มักจะผ่าตัดคลอดในแนวตั้ง เพราะสามารถช่วยเหลือทารกในครรภ์ได้อย่างรวดเร็ว บางทีใช้เวลาแค่ 3-5 นาทีเด็กก็คลอดออกมาเรียบร้อยแล้ว เรื่องอย่างนี้ขอให้ทุกชีวิตปลอดภัยไว้ก่อนเป็นดีที่สุด เรื่องความสวยงามถือเป็นเรื่องรอง
สุดท้ายก็อยากบอกว่าโดยมากแล้วคุณแม่มักจะนึกถึงความสวยงาม ส่วนหมอก็มักคิดถึงความง่ายกับความปลอดภัย ถ้าจะให้ดีไม่มีปัญหาทีหลัง ถามคุณหมอตอนใกล้คลอดหรือเมื่อรู้ตัวว่าต้องผ่าคลอดไปเลยว่า หมอจะผ่าแบบไหน แล้วเราชอบแบบไหน ถ้าไม่ยากเย็นอะไรหมอก็คงไม่ขัดใจอยู่แล้วครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก