เจ็บท้องเตือนเป็นอย่างไร ชวนคุณแม่มาเช็กอาการอย่างละเอียด พร้อมหาข้อแตกต่างระหว่างอาการเจ็บท้องคลอดและเจ็บท้องเตือน รวมถึงวิธีดูแลเมื่อมีอาการเจ็บท้องเตือนไปด้วยกัน
คุณแม่ตั้งครรภ์นอกจากจะต้องดูแลตัวเองมากเป็นพิเศษทั้งเรื่องอาหารการกิน การพักผ่อนให้เพียงพอ และอีกมากมาย ยังต้องคอยสังเกตอาการที่เกิดขึ้นในแต่ละวันด้วย โดยเฉพาะอาการเจ็บท้องที่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าลูกน้อยพร้อมออกมาลืมตาดูโลกแล้ว ซึ่งอาการเจ็บท้องก่อนคลอดมี 2 ประเภท คือ เจ็บท้องเตือน และเจ็บท้องคลอดหรือเจ็บท้องจริง ทำให้คุณแม่มือใหม่หลายคนสับสนว่าอาการแบบไหนคือเจ็บท้องเตือน หรือเจ็บท้องจริงกันแน่ ?
วันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้นำความรู้เกี่ยวกับอาการเจ็บท้องเตือนมาฝาก เพื่อให้คุณแม่ไม่สับสน และหมดกังวลกับอาการเจ็บท้องที่อาจจะต้องประสบพบเจอในอนาคต
เจ็บท้องเตือน คืออะไร ?
เจ็บท้องเตือน หรือเจ็บท้องหลอก (Braxton Hicks contractions) เป็นอาการเจ็บท้องที่เกิดจากมดลูกบีบตัวครั้งละประมาณ 30 วินาที จนถึง 2 นาที เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลอด หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การฝึกหดตัว มักจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของการตั้งครรภ์ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของคุณแม่ตั้งครรภ์
อาการเจ็บท้องเตือนเป็นอย่างไร ?
- อาการเจ็บท้องเกิดขึ้นไม่ถี่และสม่ำเสมอ หรือเป็น ๆ หาย ๆ
- รู้สึกแน่น และอึดอัดท้องมากกว่าเจ็บปวด
- อาการเจ็บท้องเตือนจะไม่ทวีความเจ็บปวดเพิ่มมากขึ้น
- มักจะเกิดขึ้นในตอนกลางคืน โดยเฉพาะเวลานอนหรือพลิกตัว
- ไม่มีมูกปนเลือดหรือเลือดออกมาจากช่องคลอด
- ความถี่ของอาการเจ็บท้องเตือนจะไม่สม่ำเสมอ หรือเป็น ๆ หาย ๆ แต่อาการเจ็บท้องจริงเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
- อาการเจ็บท้องเตือนไม่ทวีความเจ็บปวดเพิ่มมากขึ้น และจะค่อย ๆ ลดลงเมื่อคุณแม่เคลื่อนไหวหรือขยับตัว แต่อาการเจ็บท้องจริงจะทวีความเจ็บปวดเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และยากที่จะบรรเทาความเจ็บปวด
- อาการเจ็บท้องเตือนจะรู้สึกหน่วง ๆ และแน่นบริเวณท้อง แต่อาการปวดท้องจริงจะเริ่มปวดตั้งแต่บริเวณหลังลามมาถึงท้องส่วนล่าง บางรายอาจมีอาการปวดบริเวณข้างลำตัวและขาด้านหลังร่วมด้วย
- อาการเจ็บท้องเตือนไม่มีมูกปนเลือด หรือเลือดออกมาจากช่องคลอด แต่อาการเจ็บท้องจริงจะมีน้ำใส ๆ หรือมูกปนเลือดออกมาจากช่องคลอด เรียกว่าอาการน้ำเดิน ซึ่งเป็นสัญญาณใกล้คลอด
วิธีบรรเทาอาการเมื่อเจ็บท้องเตือน
1. เมื่อมีอาการเจ็บท้องให้คุณแม่ขยับปรับเปลี่ยนอิริยาบถจากที่นั่งหรือนอนอยู่ ก็อาจจะค่อย ๆ ลุกขึ้นเดินช้า ๆ อาการเจ็บจะเริ่มเบาลง
2. การอาบน้ำอุ่น หรือแช่น้ำอุ่น ประมาณ 30 นาที จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บได้เป็นอย่างดี
3. บางครั้งอาการเจ็บท้องอาจเกิดจากการขาดน้ำ แนะนำให้คุณแม่ดื่มน้ำเปล่าสักแก้วเพื่อให้อาการปวดบรรเทาลง
4. ดื่มน้ำอุ่น นมร้อน หรือชาร้อน แทนการดื่มน้ำเย็น
5. เมื่อมีอาการเจ็บท้องเตือนให้คุณแม่สูดลมหายใจเข้า-ออกลึก ๆ เป็นจังหวะช้า ๆ เพื่อผ่อนคลาย
6. หากอาการเจ็บท้องไม่บรรเทาลง หรือทวีความเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ทันที
คุณแม่ลองสังเกตอาการของตัวเองดูนะคะ ว่าตรงกับอาการเจ็บท้องเตือนหรือไม่ ? ถ้าใช่ก็สามารถนำวิธีบรรเทาอาการที่เราแนะนำไปลองทำตามกันได้เลย แต่ถ้ามีอาการเหมือนเจ็บท้องจริงควรรีบไปพบแพทย์จะดีกว่า เพราะอาจจะเป็นสัญญาณว่าเจ้าตัวเล็กพร้อมออกมาลืมตาดูโลกแล้วนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก : americanpregnancy.org, ncbi.nlm.nih.gov
วันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้นำความรู้เกี่ยวกับอาการเจ็บท้องเตือนมาฝาก เพื่อให้คุณแม่ไม่สับสน และหมดกังวลกับอาการเจ็บท้องที่อาจจะต้องประสบพบเจอในอนาคต
เจ็บท้องเตือน คืออะไร ?
เจ็บท้องเตือน หรือเจ็บท้องหลอก (Braxton Hicks contractions) เป็นอาการเจ็บท้องที่เกิดจากมดลูกบีบตัวครั้งละประมาณ 30 วินาที จนถึง 2 นาที เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลอด หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การฝึกหดตัว มักจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของการตั้งครรภ์ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของคุณแม่ตั้งครรภ์
อาการเจ็บท้องเตือนเป็นอย่างไร ?
- อาการเจ็บท้องเกิดขึ้นไม่ถี่และสม่ำเสมอ หรือเป็น ๆ หาย ๆ
- รู้สึกแน่น และอึดอัดท้องมากกว่าเจ็บปวด
- อาการเจ็บท้องเตือนจะไม่ทวีความเจ็บปวดเพิ่มมากขึ้น
- มักจะเกิดขึ้นในตอนกลางคืน โดยเฉพาะเวลานอนหรือพลิกตัว
- ไม่มีมูกปนเลือดหรือเลือดออกมาจากช่องคลอด
ความแตกต่างระหว่าง เจ็บท้องเตือน กับเจ็บท้องจริง
- ความถี่ของอาการเจ็บท้องเตือนจะไม่สม่ำเสมอ หรือเป็น ๆ หาย ๆ แต่อาการเจ็บท้องจริงเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
- อาการเจ็บท้องเตือนไม่ทวีความเจ็บปวดเพิ่มมากขึ้น และจะค่อย ๆ ลดลงเมื่อคุณแม่เคลื่อนไหวหรือขยับตัว แต่อาการเจ็บท้องจริงจะทวีความเจ็บปวดเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และยากที่จะบรรเทาความเจ็บปวด
- อาการเจ็บท้องเตือนจะรู้สึกหน่วง ๆ และแน่นบริเวณท้อง แต่อาการปวดท้องจริงจะเริ่มปวดตั้งแต่บริเวณหลังลามมาถึงท้องส่วนล่าง บางรายอาจมีอาการปวดบริเวณข้างลำตัวและขาด้านหลังร่วมด้วย
- อาการเจ็บท้องเตือนไม่มีมูกปนเลือด หรือเลือดออกมาจากช่องคลอด แต่อาการเจ็บท้องจริงจะมีน้ำใส ๆ หรือมูกปนเลือดออกมาจากช่องคลอด เรียกว่าอาการน้ำเดิน ซึ่งเป็นสัญญาณใกล้คลอด
วิธีบรรเทาอาการเมื่อเจ็บท้องเตือน
1. เมื่อมีอาการเจ็บท้องให้คุณแม่ขยับปรับเปลี่ยนอิริยาบถจากที่นั่งหรือนอนอยู่ ก็อาจจะค่อย ๆ ลุกขึ้นเดินช้า ๆ อาการเจ็บจะเริ่มเบาลง
2. การอาบน้ำอุ่น หรือแช่น้ำอุ่น ประมาณ 30 นาที จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บได้เป็นอย่างดี
3. บางครั้งอาการเจ็บท้องอาจเกิดจากการขาดน้ำ แนะนำให้คุณแม่ดื่มน้ำเปล่าสักแก้วเพื่อให้อาการปวดบรรเทาลง
4. ดื่มน้ำอุ่น นมร้อน หรือชาร้อน แทนการดื่มน้ำเย็น
5. เมื่อมีอาการเจ็บท้องเตือนให้คุณแม่สูดลมหายใจเข้า-ออกลึก ๆ เป็นจังหวะช้า ๆ เพื่อผ่อนคลาย
6. หากอาการเจ็บท้องไม่บรรเทาลง หรือทวีความเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ทันที
ขอบคุณข้อมูลจาก : americanpregnancy.org, ncbi.nlm.nih.gov