เกลือแร่ผ่านน้ำนมไหม แม่ให้นมกินเกลือแร่ได้ไหม คุณแม่ท้องเสียคนไหนที่กำลังสงสัยและหาคำตอบของคำถามนี้ วันนี้กระปุกดอทคอมมีคำตอบมาฝากกันค่ะ
![เกลือแร่ผ่านน้ำนมไหม]( "เกลือแร่ผ่านน้ำนมไหม")
สำหรับคุณแม่ที่กำลังอยู่ในช่วงให้นมลูกน้อย เชื่อว่าหลายคนคงเกิดอาการหรือเคยเจอกับปัญหาท้องเสียกันมาบ้าง ซึ่งพอเป็นอาการนี้แล้วทำให้คุณแม่หลาย ๆ คนเป็นกังวลใจว่าคุณแม่ท้องเสียแล้ว ลูกน้อยกินนมจะท้องเสียตามหรือเปล่า ? รวมไปถึงคุณแม่ให้นมจะกินเกลือแร่ได้ไหม ? เกลือแร่หรือยาที่กินเข้าไปจะถูกขับผ่านน้ำนมไปสู่ลูกน้อยหรือเปล่า ? ดังนั้นเพื่อช่วยให้คุณแม่หลาย ๆ คนได้หายข้องใจ วันนี้กระปุกดอทคอมมีคำตอบมาบอกกันแล้วค่ะ
- แม่ท้องเสีย ลูกจะท้องเสียไหม ?
คุณแม่หลาย ๆ คนอาจเป็นกังวลใจว่า เมื่อท้องเสียหากให้ลูกกินนมแล้วลูกจะมีอาการท้องเสียตามหรือเปล่า จะต้องงดนมแม่หรือไม่นั้น เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะในขณะที่คุณแม่ท้องเสียสามารถให้นมลูกได้ตามปกติ และลูกน้อยจะไม่มีอาการท้องเสียตาม เนื่องจากเชื้อที่ทำให้คุณแม่ท้องเสียนั้นจะอยู่ที่ลำไส้ ไม่สามารถผ่านอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายมายังต่อมน้ำนมได้ ดังนั้นในนมแม่จึงไม่มีเชื้อที่จะทำให้ลูกน้อยท้องเสีย สามารถให้ลูกกินนมได้ตามปกติค่ะ แต่ทั้งนี้คุณแม่ควรจะต้องล้างมือให้สะอาดหลังเข้าห้องน้ำก่อนอุ้มลูกหรือให้นมลูกทุกครั้งด้วยนะคะ เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสที่อาจติดจากมือแม่ไปสู่ลูกน้อยนั่นเองค่ะ
![เกลือแร่ผ่านน้ำนมมั้ย]( "เกลือแร่ผ่านน้ำนมมั้ย")
- แม่ท้องเสียกินเกลือแร่ หรือยาแก้ท้องเสียอื่น ๆ ได้หรือเปล่า ?
คำตอบคือได้ค่ะ สำหรับคุณแม่ที่มีอาการท้องเสีย แนะนำให้จิบน้ำเกลือแร่บ่อย ๆ เพื่อทดแทนน้ำในร่างกายที่สูญเสียไป หรือหากจำเป็นต้องกินยาก็สามารถกินได้อย่างปลอดภัยในปริมาณที่ฉลากหรือใบกำกับยาระบุไว้ อย่างเช่น ยาแก้ท้องเสียจำพวก ยาถ่านคาร์บอน ยาธาตุน้ำขาว โมติเลี่ยม แอร์เอ็กซ์ อีโน ยาบรรเทาปวดเกร็ง เป็นต้น นอกจากนี้ยาฆ่าเชื้ออย่าง Ciprofloxacin หรือ Norfloxacin ยาเหล่านี้คุณแม่ก็สามารถกินได้ค่ะ เนื่องจากยาจะผ่านน้ำนมในปริมาณที่ต่ำมาก ประมาณ 1-2% เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงว่าตัวยาจะผ่านน้ำนมทำให้เป็นอันตรายกับลูกน้อยค่ะ แต่ทั้งนี้ทางที่ดีคุณแม่ควรให้นมลูกหรือปั๊มนมไว้ก่อนกินยาจะดีที่สุด นอกจากจะไม่ต้องกังวลว่ายาที่กินเข้าไปจะผ่านไปสู่ลูกแล้ว ยังได้ทิ้งระยะเวลาให้ระดับยาในน้ำนมลดลงอีกด้วย เพื่อที่การให้นมลูกในมื้อต่อไปคุณแม่จะได้ไม่ต้องคอยกังวลอีกด้วยค่ะ
![เกลือแร่ผ่านน้ำนมมั้ย]( "เกลือแร่ผ่านน้ำนมมั้ย")
ทราบกันแล้วใช่ไหมคะว่าในช่วงที่คุณแม่ให้นมลูกน้อย หากเกิดอาการท้องเสียไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลใจ และสามารถกินเกลือแร่หรือยาได้ตามปกติ ทีนี้ก็หายกังวลใจกันได้แล้วนะคะ ^^
ขอบคุณข้อมูลจาก : ดร.แจ็ค นิวแมน จากเฟซบุ๊ก นมแม่แฮปปี้, เฟซบุ๊ก คุณหมอสุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ, breastfeedingthai.com
สำหรับคุณแม่ที่กำลังอยู่ในช่วงให้นมลูกน้อย เชื่อว่าหลายคนคงเกิดอาการหรือเคยเจอกับปัญหาท้องเสียกันมาบ้าง ซึ่งพอเป็นอาการนี้แล้วทำให้คุณแม่หลาย ๆ คนเป็นกังวลใจว่าคุณแม่ท้องเสียแล้ว ลูกน้อยกินนมจะท้องเสียตามหรือเปล่า ? รวมไปถึงคุณแม่ให้นมจะกินเกลือแร่ได้ไหม ? เกลือแร่หรือยาที่กินเข้าไปจะถูกขับผ่านน้ำนมไปสู่ลูกน้อยหรือเปล่า ? ดังนั้นเพื่อช่วยให้คุณแม่หลาย ๆ คนได้หายข้องใจ วันนี้กระปุกดอทคอมมีคำตอบมาบอกกันแล้วค่ะ
- แม่ท้องเสีย ลูกจะท้องเสียไหม ?
คุณแม่หลาย ๆ คนอาจเป็นกังวลใจว่า เมื่อท้องเสียหากให้ลูกกินนมแล้วลูกจะมีอาการท้องเสียตามหรือเปล่า จะต้องงดนมแม่หรือไม่นั้น เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะในขณะที่คุณแม่ท้องเสียสามารถให้นมลูกได้ตามปกติ และลูกน้อยจะไม่มีอาการท้องเสียตาม เนื่องจากเชื้อที่ทำให้คุณแม่ท้องเสียนั้นจะอยู่ที่ลำไส้ ไม่สามารถผ่านอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายมายังต่อมน้ำนมได้ ดังนั้นในนมแม่จึงไม่มีเชื้อที่จะทำให้ลูกน้อยท้องเสีย สามารถให้ลูกกินนมได้ตามปกติค่ะ แต่ทั้งนี้คุณแม่ควรจะต้องล้างมือให้สะอาดหลังเข้าห้องน้ำก่อนอุ้มลูกหรือให้นมลูกทุกครั้งด้วยนะคะ เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสที่อาจติดจากมือแม่ไปสู่ลูกน้อยนั่นเองค่ะ
คำตอบคือได้ค่ะ สำหรับคุณแม่ที่มีอาการท้องเสีย แนะนำให้จิบน้ำเกลือแร่บ่อย ๆ เพื่อทดแทนน้ำในร่างกายที่สูญเสียไป หรือหากจำเป็นต้องกินยาก็สามารถกินได้อย่างปลอดภัยในปริมาณที่ฉลากหรือใบกำกับยาระบุไว้ อย่างเช่น ยาแก้ท้องเสียจำพวก ยาถ่านคาร์บอน ยาธาตุน้ำขาว โมติเลี่ยม แอร์เอ็กซ์ อีโน ยาบรรเทาปวดเกร็ง เป็นต้น นอกจากนี้ยาฆ่าเชื้ออย่าง Ciprofloxacin หรือ Norfloxacin ยาเหล่านี้คุณแม่ก็สามารถกินได้ค่ะ เนื่องจากยาจะผ่านน้ำนมในปริมาณที่ต่ำมาก ประมาณ 1-2% เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงว่าตัวยาจะผ่านน้ำนมทำให้เป็นอันตรายกับลูกน้อยค่ะ แต่ทั้งนี้ทางที่ดีคุณแม่ควรให้นมลูกหรือปั๊มนมไว้ก่อนกินยาจะดีที่สุด นอกจากจะไม่ต้องกังวลว่ายาที่กินเข้าไปจะผ่านไปสู่ลูกแล้ว ยังได้ทิ้งระยะเวลาให้ระดับยาในน้ำนมลดลงอีกด้วย เพื่อที่การให้นมลูกในมื้อต่อไปคุณแม่จะได้ไม่ต้องคอยกังวลอีกด้วยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : ดร.แจ็ค นิวแมน จากเฟซบุ๊ก นมแม่แฮปปี้, เฟซบุ๊ก คุณหมอสุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ, breastfeedingthai.com
