การตั้งครรภ์ ถือเป็นข่าวดีสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่เป็นอย่างมาก เพราะหมายความว่ากำลังจะมีชีวิตน้อย ๆ เข้ามาเติมเต็มครอบครัวให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น แต่ในการตั้งครรภ์บางครั้ง คุณแม่ก็มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ลูกแฝดได้ด้วยวิธีธรรมชาติ ซึ่งเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมของคนในครอบครัว เช่น มีคนในครอบครัวเป็นฝาแฝด ลักษณะทางพันธุกรรมนี้ก็มีโอกาสถ่ายทอดไปสู่คุณแม่ที่กำลังตั้งท้องได้ ทำให้คุณแม่หลายคนเกิดการลุ้นและสงสัยว่าทารกที่อยู่ในครรภ์จะมีโอกาสเป็นฝาแฝดหรือไม่ ซึ่งอาการตั้งครรภ์แฝดนั้น จะมีอาการที่แตกต่างจากการตั้งครรภ์เดี่ยวแบบทั่วไป เนื่องจากร่างกายของคุณแม่ต้องปรับสภาพให้พร้อมกับการรองรับชีวิตน้อย ๆ ในครรภ์ที่มากกว่าหนึ่งคนนั่นเอง
คุณแม่ลองสังเกตตัวเองดูสิคะว่ามีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นช่วงที่ทารกกำลังเจริญเติบโต ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์แฝดจะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และจะมากกว่าคุณแม่ตั้งครรภ์เดี่ยวประมาณ 4-5 กิโลกรัม แต่ทั้งนี้ก็อาจมีผลร่วมมาจากการรับประทานอาหารที่มากขึ้นด้วยก็ได้ค่ะ
2. มีขนาดครรภ์โตกว่าปกติ
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์เดี่ยว ส่วนมากจะเห็นหน้าท้องออกอย่างชัดเจนตั้งแต่เดือนที่ 5 เป็นต้นไป แต่สำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์แฝดแล้ว ครรภ์จะมีขนาดที่โตเร็วกว่าอายุครรภ์จริง เช่น อายุครรภ์จริงแค่ 3 เดือน แต่ครรภ์จะใหญ่จนสามารถเห็นหน้าท้องได้ชัดเจน เหมือนกับอายุครรภ์ 4-5 เดือน
ในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่หลายท่านอาจเกิดอาการแพ้ท้อง เพราะเป็นช่วงที่ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยเฉพาะในการตั้งครรภ์แฝดที่ระดับฮอร์โมนจะมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นอีกเท่าตัว จึงทำให้คุณแม่อาจมีอาการแพ้ท้องมากกว่าปกติ บางคนอาจแพ้ท้องอย่างรุนแรง บางคนมีอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย รวมไปถึงมีความรู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยล้ามากกว่าปกติ เนื่องมาจากทารกแฝดในครรภ์ต้องการพลังงานและอาหารจำนวนมากนั่นเองค่ะ
เป็นเรื่องปกติที่ทารกในครรภ์ต้องมีการขยับเคลื่อนไหวร่างกาย แต่ในกรณีการตั้งครรภ์แฝดนั้น คุณแม่อาจสังเกตได้ว่าทารกในครรภ์ดิ้นเร็วและบ่อยครั้งกว่าคุณแม่คนอื่น ๆ ทั้งนี้เพราะในครรภ์มีทารกอยู่สองคน หรืออาจมากกว่า เมื่อลูก ๆ ขยับตัว จึงทำให้คุณแม่รู้สึกได้ว่าลูกดิ้นแรงมากกว่าปกตินั่นเองค่ะ
อาการหัวใจเต้นเร็ว เป็นอาการที่พบได้ในคุณแม่ตั้งครรภ์ ซึ่งมักเกิดขึ้นช่วงสั้น ๆ ครั้งละไม่กี่วินาที และจะหายไปเอง ไม่เป็นอันตรายต่อแม่และลูกในครรภ์ แต่สำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์แฝด อาจมีอัตราการเต้นของหัวใจที่สูงขึ้นกว่าคุณแม่ตั้งครรภ์เดี่ยว เพราะว่าหัวใจต้องทำงานหนักเพื่อสูบฉีดเลือดที่ต้องการออกซิเจนเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมสำหรับใช้พัฒนาการเจริญเติบโตของทารกแฝดในครรภ์
6. ค่าต่าง ๆ ในระดับเลือดสูงกว่าคุณแม่ตั้งครรภ์เดี่ยว
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์แฝดจะตรวจพบว่าระดับฮอร์โมน HCG (Human Chorionic Gonadotropin) หรือฮอร์โมนการตั้งครรภ์มีค่าสูงกว่าคนอื่น ๆ โดยคุณแม่ครรภ์เดี่ยวจะอยู่ที่ 70 mlU แต่คุณแม่ครรภ์แฝดจะอยู่ที่ 200 mlU ซึ่งคุณหมอจะสันนิษฐานว่าคุณแม่อาจจะตั้งครรภ์แฝดได้ นอกจากนี้ในการตรวจหาสาร AFP (Alpha-Fetoprotein) ของคุณแม่ตั้งครรภ์แฝด ก็จะมีค่าสูงขึ้นกว่า 2 เท่าของการตั้งครรภ์ทั่วไป
หากคุณแม่พบว่าตัวเองมีอาการเหล่านี้ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่ากำลังตั้งครรภ์แฝดค่ะ แต่อย่างไรแล้วแต่ก็ควรให้แพทย์ตรวจด้วยเครื่องอัลตราซาวด์อีกครั้ง ซึ่งเป็นวิธีที่แม่นยำมากที่สุด ทำให้ไม่จำเป็นต้องคอยลุ้นคอยเดาอีกต่อไป และที่สำคัญหลังจากที่คุณแม่ทราบว่ากำลังมีลูกแฝดตัวน้อย ๆ อยู่ในท้องแล้วละก็ คุณแม่ยิ่งต้องดูแลตัวเองมากขึ้นเป็นพิเศษกว่าการตั้งท้องปกตินะคะ ควรศึกษาวิธีการดูแลตนเองระหว่างตั้งครรภ์แฝด หมั่นไปตรวจครรภ์สม่ำเสมอ พร้อมกับดูแลสุขภาพและจิตใจให้พร้อมก่อนคลอด เพื่อลดความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างตั้งครรภ์ค่ะ
ข้อมูลจาก : momjunction.com, twin-pregnancy-and-beyond.com, americanpregnancy.org
