วิจัยชี้ พ่อแม่ติดมือถือมากไป เสี่ยงเกิดปัญหาในครอบครัว

ความสัมพันธ์ในครอบครัว

          ผลการวิจัยจากประเทศอังกฤษพบว่ามีพ่อแม่จำนวนไม่น้อยที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับโทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟนมากเสียจนไม่มีเวลาให้กับลูก จนเกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์ในครอบครัว

          ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟนถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญ เพราะช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร การทำงาน การพักผ่อนหย่อนใจ และอื่น ๆ อีกมากมาย บางครั้งคุณพ่อคุณแม่อาจมีความจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์เพื่อติดต่อธุระหรือใช้งานด้านอื่น ๆ เมื่ออยู่ที่บ้าน แต่หากคุณพ่อคุณแม่ใช้เวลาอยู่กับโทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟนมากเกินความจำเป็นจนปล่อยให้ลูกต้องอยู่โดดเดี่ยวเพียงลำพังนั้น ก็อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อลูกและความสัมพันธ์ในครอบครัวได้ค่ะ
          งานวิจัยในประเทศอังกฤษได้ทำการสำรวจและสอบถามเด็กระดับชั้นมัธยมศึกษาที่มีอายุตั้งแต่ 11-18 ปี เกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟนของผู้ปกครอง พบว่าพ่อแม่ของพวกเขามีการใช้อุปกรณ์ดังกล่าวมากเกินไปจนทำให้ไม่มีเวลาให้ลูก ส่งผลให้ครอบครัวของพวกเขาไม่อบอุ่นเท่าที่ควร เกิดความห่างเหิน ไม่สนิทสนมกลมเกลียว แม้ว่าพวกเขาจะเคยขอร้องให้พ่อแม่ของตัวเองเลิกเล่นสมาร์ทโฟนแล้วก็ตาม

ความสัมพันธ์ในครอบครัว

          จากผลสำรวจพบว่าในจำนวน 14 % ของเด็กนักเรียนบอกว่าพ่อแม่ของพวกเขาชอบเล่นโทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟนระหว่างรับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งพวกเขาคิดว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ทุกคนควรวางมือถือลงแล้วหันมาพูดคุยกับคนในครอบครัวมากกว่า

          ในขณะที่อีก 22 % กล่าวว่าการที่พ่อแม่ของพวกเขาติดโทรศัพท์มือถือ ทำให้ครอบครัวของเขามีความสุขและความสนุกสนานน้อยลง ทั้งยังเกิดช่องว่างระหว่างคนในครอบครัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย

          อย่างไรก็ตาม มีพ่อแม่เพียง 10 % เท่านั้นที่คิดได้ว่าการใช้โทรศัพท์มือถือของพวกเขานั้นจะส่งผลกระทบต่อลูก ซึ่งตรงกันข้ามกับพ่อแม่ที่เหลือ ที่ใช้เวลาส่วนมากไปกับโทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟน โดยพบว่าพวกเขาใช้เวลา 3-5 ชั่วโมงต่อวันในการใช้โทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟน และมีจำนวน 5% ที่ใช้เวลามากถึง 15 ชั่วโมงต่อวัน

          จากงานวิจัยล่าสุดในการสำรวจจำนวนเด็กที่ใช้โทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟนรวมถึงคอมพิวเตอร์นั้น พบว่าเด็กมัธยมจำนวน 72 % ใช้เวลาในการเล่นอินเทอร์เน็ต 3-10 ชั่วโมงต่อวัน ในขณะที่ 11% ใช้เวลามากถึง 15 ชั่วโมงในช่วงวันหยุดสุปสัปดาห์ และอีก 3% ใช้เวลาเล่นอินเทอร์เน็ตมากถึง 20 ชั่วโมง ซึ่งเด็ก ๆ ส่วนมากก็จะกังวลว่าการเล่นอินเทอร์เน็ตนั้นจะทำให้เขามีเวลาพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่กลับมีผู้ปกครองเพียง 10% เท่านั้นที่สนใจและเป็นกังวลว่าการใช้อินเทอร์เน็ตของลูกจะส่งผลต่อการพักผ่อนของเขา

          เด็ก ๆ รู้ดีว่าการใช้เวลาในอินเทอร์เน็ตมากเกินไปนั้นส่งผลเสียต่อตัวเขาอย่างไรบ้าง แต่พวกเขาก็ยังต้องการให้ผู้ปกครองสนใจและเป็นผู้ชี้แนะมากกว่า

ความสัมพันธ์ในครอบครัว

          เอ็มม่า โรเบิร์ตสัน หนึ่งในทีมนักวิจัยบอกว่า มีพ่อแม่จำนวนหนึ่งเท่านั้นที่รู้ว่าลูกของเขาใช้เวลาบนโลกออนไลน์นานเท่าไร หรือรู้ว่าเขากำลังเปิดดูอะไรอยู่ ในขณะที่พ่อแม่ส่วนมากแทบไม่สนใจเลยว่าลูกของพวกเขาจะทำอะไรบนโลกออนไลน์บ้าง

          ซึ่งเธอหวังว่างานวิจัยนี้ จะช่วยกระตุ้นและปลุกจิตสำนึกของพ่อแม่ให้หันมาเฝ้าระวังและช่วยกันสอดส่องความปลอดภัยจากการใช้เทคโนโลยีของลูกมากขึ้น เพราะในโลกออนไลน์มีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดีปะปนกันอยู่มาก ผู้ปกครองจึงควรให้ความสนใจพร้อมให้คำแนะนำที่ดีแก่ลูก ๆ ในการใช้สื่อออนไลน์อย่างถูกต้องและเหมาะสม

          การเป็นคุณพ่อคุณแม่ในยุคสมัยนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในยุคสมัยแห่งดิจิตอลที่มีสิ่งเร้าใจอยู่รอบตัวมากมาย และเราก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันโทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟนได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเราไปเสียแล้ว

          คุณพ่อคุณแม่จึงจำเป็นต้องควบคุมการใช้อุปกรณ์เหล่านั้นอย่างเหมาะสม เพราะหากมัวแต่สนใจสิ่งที่อยู่ในหน้าจอมากกว่าคนรอบข้างละก็ อาจทำให้คุณละเลยและบกพร่องในการเลี้ยงดูลูกไปก็ได้ค่ะ ว่าแล้วคุณพ่อคุณแม่ก็ลองสำรวจตัวเองดูสิคะว่า ตอนอยู่กับลูกคุณเผลอตัวอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือมากกว่าที่จะอยู่กับลูกของคุณหรือเปล่า...

ข้อมูลจาก : bbc.com, theparentbible.com




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วิจัยชี้ พ่อแม่ติดมือถือมากไป เสี่ยงเกิดปัญหาในครอบครัว อัปเดตล่าสุด 30 มิถุนายน 2560 เวลา 18:26:41 13,167 อ่าน
TOP
x close