สัญญาณอันตราย...ตั้งครรภ์แล้วมองเห็นผิดปกติ !

การดูแลสุขภาพขณะตั้งครรภ์

         การดูแลสุขภาพขณะตั้งครรภ์ในช่วงไตรมาสสุดท้ายคุณแม่ต้องระมัดระวังและดูแลตัวเองเป็นพิเศษ พักผ่อนให้เพียงพอและไม่เครียด เพราะความเครียดอาจมีผลกระทบกับจอประสาทตาของแม่ตั้งครรภ์ได้ค่ะ วันนี้กระปุกดอทคอมก็มีเรื่องน่ารู้และข้อควรระวังจากนิตยสารรักลูก และเฝ้าระวังอาการตาพร่ามัวในแม่ตั้งครรภ์ มาบอกกันค่ะ ...

         ปัญหาการมองเห็นไม่ใช่เรื่องเล็กที่มองข้ามได้ ยิ่งหากเป็นอาการที่เกิดในช่วงตั้งครรภ์ด้วย เพราะอาจกระทบการใช้ชีวิตประจำวันจนเกิดการบาดเจ็บขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็นพร่ามัว บิดเบี้ยว สีผิดปกติ ล้วนเป็นสัญญาณอันตรายที่แม่ท้องต้องระวังและรีบดูแลรักษาค่ะ

         ไม่มีสาเหตุชัดเจน แม้พบมากในผู้ชายอายุ 25-55 ปีที่มีสุขภาพแข็งแรงดี 80-90% ก็ตาม แต่แม่ท้องก็พบได้โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ จากการเก็บข้อมูลพบว่าผู้หญิงที่ตั้งครรภ์นั้นจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นมากกว่าผู้หญิงที่ไม่ได้ตั้งครรภ์หลายเท่า แต่สามารถหายเองได้หลังจากการคลอดลูกค่ะ

อาการต้องสังเกต

         มองเห็นภาพพร่ามัว ไม่ชัด โดยมักเป็นที่ตาข้างใดข้างหนึ่ง จึงทำให้การสังเกตว่าตาผิดปกติเป็นไปได้ยาก วิธีทดสอบคือการปิดตาอีกข้าง แล้วใช้ตาข้างที่ไม่ได้ปิดมองดูวัตถุทั่วไปว่ามีการรับรู้ผิดปกติไปจากเติมหรือไม่ อย่างไรแล้วลองสลับทำอีกข้าง

         มองเห็นภาพบิดเบี้ยว เล็กลงหรือใหญ่ขึ้น สัดส่วนของภาพที่เห็นไม่เหมือนจริง ผิดปกติ

         มองเห็นสีของภาพเปลี่ยนไป ซึ่งอาจเกิดอันตรายได้ หากแม่ท้องขับรถแล้วเห็นสัญญาณไฟจราจรผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง

การรักษา

         ปกติโรคนี้จะหายได้เองใน 3-4 เดือน และไม่เป็นซ้ำ ถ้าใน 3-4 เดือนยังไม่หาย คุณหมอจะวินิจฉัยว่ากระทบการมองเห็นของแม่ท้องมากน้อยแค่ไหน หากจะต้องฉีดสีเพื่อวินิจฉัยโรคจอประสาทตาจะทำด้วยความระมัดระวังและในกรณีจำเป็นเท่านั้น เพราะแม้จะยังไม่มีรายงานว่าการฉีดสีทำให้ลูกน้อยในครรภ์เกิดความผิดปกติ แต่ก็ยังไม่มีการรับรองความปลอดภัยเช่นกัน

         โดยส่วนใหญ่หากอาการไม่แย่ลง หรือไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยในการใช้ชีวิตประจำวัน คุณหมอจะรอให้คลอดลูกเสียก่อน จึงรักษาขั้นต่อไปได้ เช่น การใช้เลเซอร์ยิงเพื่ออุดรูรั่วที่จอประสาทตา

ป้องกันโดยการลดเครียด

         แม้สาเหตุของโรคไม่ชัดเจน แต่เชื่อว่าส่วนหนึ่งสัมพันธ์กับความเครียด ดังนั้นการคลายเครียด ผ่อนคลาย และพักผ่อนให้เพียงพอ จึงเป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด

ข้อควรระวัง

         หากแม่ท้องมีอาการตาแดง เจ็บตา ตาอักเสบ หรือมองเห็นผิดปกติ ควรไปพบแพทย์ ห้ามซื้อยามาหยอดเองเด็ดขาด เนื่องจากยาหยอดตาบางชนิดใช้กับแม่ท้องไม่ได้ เพราะส่งผลต่อลูกในท้องโดยตรง

         หากรู้สึกมีอาการผิดปกติที่ตา คุณแม่ต้องระวังและรีบปรึกษาแพทย์นะคะ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ปีที่ 33 ฉบับที่ 393 ตุลาคม 2558

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สัญญาณอันตราย...ตั้งครรภ์แล้วมองเห็นผิดปกติ ! อัปเดตล่าสุด 23 พฤศจิกายน 2558 เวลา 17:38:16 14,138 อ่าน
TOP
x close