7 ข้อไม่ควรทำ...ในการลดน้ำหนักของแม่หลังคลอด



          การดูแลตัวเองหลังคลอด คุณแม่หลาย ๆ ท่านมักมีความกังวลในเรื่องการลดน้ำหนักหลังคลอดให้กลับมาฟิตแอนด์เฟิร์ม แต่หากกังวลและโหมลดน้ำหนักมากเกินไปก็ไม่ดีต่อสุขภาพของแม่หลังคลอดแน่ ๆ ค่ะ วันนี้กระปุกดอทคอมมีเกร็ดความรู้ กับ 7 ข้อ ที่แม่หลังคลอดไม่ควรหักโหมในการลดน้ำหนักมาฝากกัน ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นเราไปดูข้อมูลดี ๆ จากนิตยสาร MODERNMOM กันเลยค่ะ ^^

          ช่วงเวลาแห่งการตั้งครรภ์ จนคลอดเป็นคุณแม่เต็มตัวนั้น เป็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงเราขึ้นถึงจุดสูงสุดในชีวิตหลายด้านค่ะ ทั้งจุดสูงสุดของความรักที่มีให้ลูก จุดสูงสุดทางความรับผิดชอบแห่งการเป็นแม่ จุดสูงสุดของภาระทางร่างกายในการปรับตัวหลายด้านตลอด 9 เดือนแห่งการตั้งครรภ์ และจุดสูงสุดทางน้ำหนักตัว ซึ่งคุณแม่หลายคนประสบปัญหา ไม่สามารถไต่ลงมาจากจุดสูงสุดนั้นได้ !! บ่อยครั้งที่หมอได้มีโอกาสให้คำปรึกษาคุณแม่ที่ต้องการลดน้ำหนัก และพบว่ามีจุดผิดพลาดที่ทำให้การลดนั้นไม่ประสบความสำเร็จ หรือลดได้สำเร็จแต่ไม่ยั่งยืน และเสียสุขภาพ เรามาดูกันค่ะว่า Pitfall ที่พบได้บ่อยนั้นมีอะไรบ้าง

          1. อดอาหาร การลดน้ำหนักโดยการตะบี้ตะบันอดอาหารนั้นไม่ใช่การลดน้ำหนักที่ถูกวิธี การจำกัดแคลอรีอาจทำให้น้ำหนักลงได้ แต่เมื่อกลับมารับประทานผิด ๆ เหมือนเดิม น้ำหนักก็จะขึ้นมาอีก และหลายครั้งที่กลับมาขึ้นมากกว่าที่เคยเป็นด้วย การอดอาหารยังเป็นข้อห้ามในคุณแม่ที่กำลังให้นมบุตร เพราะหากคุณแม่ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ จะส่งผลถึงคุณภาพและปริมาณของน้ำนมที่ส่งต่อไปสู่ลูกได้

          2. ทดลองสูตรลดน้ำหนักแปลก ๆ ตามแฟชั่น สูตรลดน้ำหนักแบบแปลก ๆ ตามอินเทอร์เน็ตนั้นมีเป็นหมื่นพัน แต่ทุกวิธีมักอยู่บนพื้นฐานเดียวกันคือการจำกัดแคลอรี ซึ่งไม่ใช่ทางออกที่ถาวรสำหรับการลดน้ำหนัก เชื่อหมอเถอะค่ะว่า การลดน้ำหนักที่แท้จริงนั้น ไม่มีสูตรลับหรือทางลัด มีเพียงการเรียนรู้ที่จะเลือกกินอย่างคนผอม และใช้ชีวิตอย่างคนผอม ซึ่งเป็นวิถีที่ต้องปฏิบัติไปตลอดทั้งชีวิต ไม่ใช่สูตรลับที่ทำกันเพียงชั่วครั้งชั่วคราว

          3. ซื้อยาลดน้ำหนัก สมุนไพร หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมารับประทาน หลายครั้งที่องค์การอาหารและยาตรวจสอบพบว่าสมุนไพรหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมีการลักลอบผสมยาลดน้ำหนักลงไป ไม่ว่าจะเป็นยาขับปัสสาวะ ยาไทรอยด์ หรือแม้แต่อนุพันธ์ของยาบ้า ซึ่งการกินยาเหล่านี้อาจส่งผลให้น้ำหนักลงเร็ว แต่เมื่อหยุดกินน้ำหนักก็จะขึ้นใหม่อย่างรวดเร็ว และที่สำคัญคือ ยาเหล่านี้มีผลข้างเคียงที่อันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

          4. ไม่ออกกำลังกาย เน้นอดอาหารโดยไม่ออกกำลังกายร่วม จะส่งผลให้น้ำหนักลดจากมวลกล้ามเนื้อที่หายไป เมื่อกล้ามเนื้อน้อยลงการเผาผลาญพื้นฐานก็จะลดลง ส่งผลให้น้ำหนักกลับมาโยโย่ได้ง่าย

          5. ออกกำลังมากเกินไป ในทางตรงข้าม หากคุณแม่ออกกำลังหักโหมมากเกินไป เช่น ออกกำลังแบบคาร์ดิโอต่อเนื่องเกินกว่า 60 นาทีต่อวัน หรือรวมแล้วเกินกว่า 300 นาทีต่อสัปดาห์ อาจส่งผลให้อ่อนเพลีย ฮอร์โมนไม่สมดุล และน้ำหนักลงเร็วเกินไปจนโทรมได้

          6. กดดันตัวเองมากเกินไป พบว่าการกดดันตัวเองว่า "ต้องลด" ตลอดเวลา จะส่งผลให้ฮอร์โมนเครียดสูงขึ้น และรู้สึกหิวเก่งขึ้น หมอจึงพยายามบอกอยู่บ่อยครั้งว่า "เลิกลดแล้วจะผอม" นั่นคือ เลิกคิดว่าจะลดน้ำหนัก แต่ให้คิดว่า จะเปลี่ยนมาใช้ชีวิตแบบคุณแม่ที่ผอมสวยแล้วน้ำหนักจะค่อย ๆ ลดลงเองเมื่อไม่มีแรงกดดัน

          7. เสียเงินร่วมแสนซื้อคอร์สรีดไขมัน การใช้เครื่องมือ เช่น คลื่นวิทยุ เลเซอร์ หรือความเย็นเพื่อกำจัดเซลล์ไขมันนั้น เหมาะกับไขมันเฉพาะส่วนที่หลงเหลืออยู่ ในขณะที่ส่วนอื่นผอมหมดแล้ว ไม่ใช่ทางเลือกของการเริ่มต้นลดน้ำหนัก และไม่ใช่ทางลัดของความผอมแบบสุขภาพดี

          จริง ๆ แล้วการลดน้ำหนักนั้นไม่จำเป็นต้องใช้เงินทอง ยาวิเศษ หรือสูตรลับใด ๆ แต่สิ่งที่ต้องใช้คือ ความอดทนและวินัย ฝึกทำให้ได้สม่ำเสมอในทุกวัน ไขมันแต่ละกรัมที่ลดลง อาจต้องใช้เหงื่อและความพยายามอย่างมากมาย แต่สุดท้าย ผลดีต่อสุขภาพที่ได้รับ และเวลาแห่งคุณภาพที่คุณแม่จะอยู่กับลูกได้ยืนยาวขึ้นนั้น มันคุ้มค่าเกินกว่าความเหน็ดเหนื่อยทั้งหมดที่เสียไป


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.20 No.240 ตุลาคม 2558

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
7 ข้อไม่ควรทำ...ในการลดน้ำหนักของแม่หลังคลอด อัปเดตล่าสุด 9 พฤศจิกายน 2558 เวลา 16:49:33 8,257 อ่าน
TOP
x close