กิจกรรมปิดเทอมสำหรับเด็ก ๆ ถือเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญ ดังนั้นแนะนำให้หากิจกรรมที่สามารถทำร่วมกันได้ทั้งครอบครัว ให้เขาได้ใช้เวลาว่างอย่างเกิดประโยชน์ สนุกสนาน พร้อมเสริมทักษะการเรียนรู้ไปในตัว
ช่วงนี้เด็ก ๆ ปิดเทอมกันแล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็คงกำลังมองหากิจกรรมสร้างสรรค์ให้เขาได้ทำรอเวลาเปิดเทอม แต่ครั้งนี้อาจจะนานและมีข้อจำกัดมากกว่าปกติ เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้ทุกคนต้องกักตัวอยู่บ้าน รวมถึงกิจกรรมในช่วงปิดเทอมของเด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็น การกวดวิชา ไปเที่ยวกับครอบครัว รวมไปถึงการออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ นอกบ้านก็ต้องถูกงดไปชั่วคราว ทำเอาผู้ปกครองหลายคนเริ่มกุมขมับกลัวลูก ๆ จะใช้เวลาหมดไปกับการเล่นคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งนอกจากจะทำให้พัฒนาการช้าแล้ว ยังทำลายจอประสาทตาของเด็ก ๆ อีกด้วย
ดังนั้นควรหากิจกรรมที่สร้างสรรค์ และผู้ปกครองสามารถทำร่วมกับพวกเขาได้ อย่าง 6 กิจกรรมสำหรับเด็กช่วงปิดเทอมที่เรานำมาฝากในวันนี้ ไม่เพียงช่วยให้ลูกน้อยสนุกสนาน แต่ยังเสริมสร้างทักษะในด้านต่าง ๆ ของพวกเขาด้วย ไปดูพร้อมกันเลยดีกว่าว่ามีกิจกรรมไหนน่าสนใจบ้าง
1. นักสำรวจตัวจิ๋ว
ในช่วงที่ไม่สามารถออกไปสนามเด็กเล่น หรือสวนสาธารณะได้แบบนี้ แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ลองเนรมิตสวนที่บ้าน ให้เป็นป่าในจินตนาการของเด็ก ๆ แล้วก็คิดกิจกรรมสนุก ๆ ให้เขาได้ลองเดินสำรวจป่าดู อาจจะซ่อนของเล่นที่เขาอยากได้เอาไว้สักแห่ง แล้วก็ทำลายแทงสมบัติให้พวกเขาได้ออกเดินทางตามจุดต่าง ๆ ไปจนเจอเข้ากับสมบัติในที่สุด กิจกรรมนี้นอกจากจะสร้างความสนุกและตื่นเต้นให้กับเด็ก ๆ แล้ว ยังแอบสอดแทรกโอกาสให้เขาได้รู้จักสิ่งแวดล้อมรอบตัวเขาอีกด้วยนะ
2. นักประดิษฐ์แสนซน
กิจกรรมเสริมทักษะการประดิษฐ์และฝึกสมาธิให้เด็ก ๆ ก็มีไม่น้อย ทั้งคลาสเรียนพับกระดาษสไตล์ญี่ปุ่นหรือโอริกามิ การเพนต์สีตัวการ์ตูนสำหรับเด็กเล็ก เด็กโตหน่อยอาจจะพาไปเรียนปักครอสสติช หรือไปเรียนปั้นเครื่องปั้นดินเผาก็ได้ กิจกรรมทั้งหมดนี้นอกจากจะช่วยให้เด็ก ๆ เพลิดเพลินและสนุกแล้ว ยังฝึกให้เขามีสมาธิที่ดี สามารถจดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้าได้ดีขึ้นอีกด้วย
3. จิตรกรน้อย
4. นักอ่าน/นักเขียน
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านใดที่กลัวลูกน้อยจะลืมวิธีเขียนและอ่านในช่วงปิดเทอมยาว ๆ แบบนี้ แนะนำให้หาหนังสือนิทานที่มีภาพประกอบน่ารัก ๆ สีสันสวยงามสักเล่มมาอ่านให้พวกเขาฟัง หรือจะสลับกันอ่านโดยให้ลูกน้อยเป็นตัวละครอีกตัวในเรื่องก็ถือเป็นความคิดที่ดีเลยทีเดียว มาถึงในเรื่องการเขียนซึ่งถือเป็นเรื่องยากที่จะทำให้พวกเขานั่งอยู่กับเราได้นาน ๆ ดังนั้นควรปรับวิธีการสอนเสียใหม่โดยเปลี่ยนการนั่งเขียนแสนน่าเบื่อ ให้เป็นเกมเขียนตามคำบอกแล้ววัดผลจากคะแนน รับรองว่าวิธีนี้จะช่วยให้เขาไม่เบื่อที่จะต้องนั่งเขียนหนังสืออีกต่อไป
5. จูเนียร์มาสเตอร์เชฟมือสมัครเล่น
มีเด็ก ๆ หลายคนชอบตามคุณแม่เข้าครัว แล้วเฝ้าสังเกตและสนใจอยากจะลองทำอาหารแบบคุณแม่ดูสักครั้ง โดยเริ่มจากให้เขาเป็นลูกมือเตรียมของก่อนก็ได้ พอคล่องสักหน่อยก็ลองให้เขาทำเมนูง่าย ๆ ที่เขาชอบกินดูบ้าง โดยทุกขั้นตอนกระบวนการคุณแม่จำเป็นต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดด้วย จะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันขึ้น
6. นักวิทยาศาสตร์จิ๋ว
เชื่อว่าเด็ก ๆ หลายคนคงจะเบื่อกับตำราในห้องเรียนที่เต็มไปด้วยทฤษฎี ดังนั้นเพื่อให้เขาได้ลงมือปฏิบัติจริงแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่หาการทดลองง่าย ๆ ที่ไม่เป็นอันตราย เช่น การเปลี่ยนสีของหัวผักกาด ไข่ลอยน้ำ หรือสอนให้พวกเขาเห็นถึงประโยชน์ของการล้างมือ เริ่มจากให้เด็ก ๆ จุ่มนิ้วลงไปในน้ำที่โรยพริกไทยไว้ ซึ่งเปรียบพริกไทยเป็นเชื้อโรคต่าง ๆ จะสังเกตได้ว่าพริกไทยติดขึ้นมาที่นิ้ว ทดสอบอีกครั้งโดยครั้งนี้สอนให้เขาล้างมือด้วยสบู่อย่างถูกวิธี จากนั้นลองจุ่มนิ้วที่มีสบู่ลงไปอีกครั้ง คราวนี้พริกไทยกลับกระจายตัวห่างออกไปและไม่ติดนิ้วขึ้นมาอีกเลย การทดลองนี้จะทำให้พวกเขาเห็นและตระหนักถึงประโยชน์ของการล้างมือได้เป็นอย่างดี
ถึงแม้จะปิดเทอมยาว ๆ แต่อย่างน้อยก็มี 6 กิจกรรมน่าสนุกนี้เอาไว้ทำกันแล้ว หรือหากผู้ปกครองท่านไหนมีกิจกรรมดี ๆ อยากจะมาร่วมแชร์กับเราก็ได้นะคะ เผื่อครอบครัวอื่น ๆ จะได้หยิบยืมไปใช้กันบ้างยังไงล่ะ
ดังนั้นควรหากิจกรรมที่สร้างสรรค์ และผู้ปกครองสามารถทำร่วมกับพวกเขาได้ อย่าง 6 กิจกรรมสำหรับเด็กช่วงปิดเทอมที่เรานำมาฝากในวันนี้ ไม่เพียงช่วยให้ลูกน้อยสนุกสนาน แต่ยังเสริมสร้างทักษะในด้านต่าง ๆ ของพวกเขาด้วย ไปดูพร้อมกันเลยดีกว่าว่ามีกิจกรรมไหนน่าสนใจบ้าง
1. นักสำรวจตัวจิ๋ว
ในช่วงที่ไม่สามารถออกไปสนามเด็กเล่น หรือสวนสาธารณะได้แบบนี้ แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ลองเนรมิตสวนที่บ้าน ให้เป็นป่าในจินตนาการของเด็ก ๆ แล้วก็คิดกิจกรรมสนุก ๆ ให้เขาได้ลองเดินสำรวจป่าดู อาจจะซ่อนของเล่นที่เขาอยากได้เอาไว้สักแห่ง แล้วก็ทำลายแทงสมบัติให้พวกเขาได้ออกเดินทางตามจุดต่าง ๆ ไปจนเจอเข้ากับสมบัติในที่สุด กิจกรรมนี้นอกจากจะสร้างความสนุกและตื่นเต้นให้กับเด็ก ๆ แล้ว ยังแอบสอดแทรกโอกาสให้เขาได้รู้จักสิ่งแวดล้อมรอบตัวเขาอีกด้วยนะ
กิจกรรมเสริมทักษะการประดิษฐ์และฝึกสมาธิให้เด็ก ๆ ก็มีไม่น้อย ทั้งคลาสเรียนพับกระดาษสไตล์ญี่ปุ่นหรือโอริกามิ การเพนต์สีตัวการ์ตูนสำหรับเด็กเล็ก เด็กโตหน่อยอาจจะพาไปเรียนปักครอสสติช หรือไปเรียนปั้นเครื่องปั้นดินเผาก็ได้ กิจกรรมทั้งหมดนี้นอกจากจะช่วยให้เด็ก ๆ เพลิดเพลินและสนุกแล้ว ยังฝึกให้เขามีสมาธิที่ดี สามารถจดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้าได้ดีขึ้นอีกด้วย
3. จิตรกรน้อย
เป็นอีกกิจกรรมที่น่าสนใจ อีกทั้งยังหาอุปกรณ์ได้ไม่ยาก เพียงแค่มีกระดาษ ดินสอ และสี ก็สามารถโชว์ฝีมือการวาดรูป ระบายสีได้แล้ว หากคุณพ่อคุณแม่อยากมีส่วนร่วมแนะนำให้หากิจกรรมที่สามารถทำร่วมกันได้ เช่น สอนพวกเขาวาดรูป ปั้นดินน้ำมัน หรือเล่นเกมโดยให้เด็ก ๆ วาดรูปแล้วเราเป็นคนทายว่ารูปที่เขาวาดเป็นรูปอะไรก็ถือเป็นทางเลือกที่ดี ทั้งนี้นอกจากจะทำให้ลูกน้อยเพลิดเพลินแล้ว ยังเสริมสร้างจินตนาการให้กับพวกเขาอีกด้วย
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านใดที่กลัวลูกน้อยจะลืมวิธีเขียนและอ่านในช่วงปิดเทอมยาว ๆ แบบนี้ แนะนำให้หาหนังสือนิทานที่มีภาพประกอบน่ารัก ๆ สีสันสวยงามสักเล่มมาอ่านให้พวกเขาฟัง หรือจะสลับกันอ่านโดยให้ลูกน้อยเป็นตัวละครอีกตัวในเรื่องก็ถือเป็นความคิดที่ดีเลยทีเดียว มาถึงในเรื่องการเขียนซึ่งถือเป็นเรื่องยากที่จะทำให้พวกเขานั่งอยู่กับเราได้นาน ๆ ดังนั้นควรปรับวิธีการสอนเสียใหม่โดยเปลี่ยนการนั่งเขียนแสนน่าเบื่อ ให้เป็นเกมเขียนตามคำบอกแล้ววัดผลจากคะแนน รับรองว่าวิธีนี้จะช่วยให้เขาไม่เบื่อที่จะต้องนั่งเขียนหนังสืออีกต่อไป
5. จูเนียร์มาสเตอร์เชฟมือสมัครเล่น
มีเด็ก ๆ หลายคนชอบตามคุณแม่เข้าครัว แล้วเฝ้าสังเกตและสนใจอยากจะลองทำอาหารแบบคุณแม่ดูสักครั้ง โดยเริ่มจากให้เขาเป็นลูกมือเตรียมของก่อนก็ได้ พอคล่องสักหน่อยก็ลองให้เขาทำเมนูง่าย ๆ ที่เขาชอบกินดูบ้าง โดยทุกขั้นตอนกระบวนการคุณแม่จำเป็นต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดด้วย จะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันขึ้น
6. นักวิทยาศาสตร์จิ๋ว
เชื่อว่าเด็ก ๆ หลายคนคงจะเบื่อกับตำราในห้องเรียนที่เต็มไปด้วยทฤษฎี ดังนั้นเพื่อให้เขาได้ลงมือปฏิบัติจริงแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่หาการทดลองง่าย ๆ ที่ไม่เป็นอันตราย เช่น การเปลี่ยนสีของหัวผักกาด ไข่ลอยน้ำ หรือสอนให้พวกเขาเห็นถึงประโยชน์ของการล้างมือ เริ่มจากให้เด็ก ๆ จุ่มนิ้วลงไปในน้ำที่โรยพริกไทยไว้ ซึ่งเปรียบพริกไทยเป็นเชื้อโรคต่าง ๆ จะสังเกตได้ว่าพริกไทยติดขึ้นมาที่นิ้ว ทดสอบอีกครั้งโดยครั้งนี้สอนให้เขาล้างมือด้วยสบู่อย่างถูกวิธี จากนั้นลองจุ่มนิ้วที่มีสบู่ลงไปอีกครั้ง คราวนี้พริกไทยกลับกระจายตัวห่างออกไปและไม่ติดนิ้วขึ้นมาอีกเลย การทดลองนี้จะทำให้พวกเขาเห็นและตระหนักถึงประโยชน์ของการล้างมือได้เป็นอย่างดี
ถึงแม้จะปิดเทอมยาว ๆ แต่อย่างน้อยก็มี 6 กิจกรรมน่าสนุกนี้เอาไว้ทำกันแล้ว หรือหากผู้ปกครองท่านไหนมีกิจกรรมดี ๆ อยากจะมาร่วมแชร์กับเราก็ได้นะคะ เผื่อครอบครัวอื่น ๆ จะได้หยิบยืมไปใช้กันบ้างยังไงล่ะ