ทารกบิดตัวบ่อย หรืออาการที่ลูกบิดตัวบ่อย หลับไม่สนิท เกิดจากอะไร ถือว่าปกติไหม แล้วจะมีวิธีแก้อาการลูกบิดตัวได้ยังไงบ้าง คุณแม่ที่กำลังกังวลอยู่ มาดูคำแนะนำกันเลย
ทารกวัยแรกเกิดเป็นช่วงเวลาที่พ่อแม่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะพัฒนาการทารกยังเติบโตได้ไม่เต็มที่ อีกทั้งเขายังไม่สามารถสื่อสารให้เรารู้ได้ว่าเขาเป็นอะไรหรือต้องการอะไร การเลี้ยงลูกของคุณพ่อคุณแม่มือใหม่จึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก และอีกอาการหนึ่งที่ทำให้พ่อแม่เกิดความกังวลก็คือ ทารกบิดตัวบ่อย ซึ่งจะทำให้เขานอนหลับไม่สนิท อาการนี้เกิดจากอะไร ถือว่าปกติไหม แล้วจะมีวิธีเลี้ยงลูกหรือวิธีแก้อาการลูกบิดตัวได้อย่างไรบ้าง มาหาคำตอบกัน
ทารกบิดตัวบ่อย เกิดจากอะไร
อาการทารกบิดตัวบ่อย โดยทั่วไปแล้วเป็นอาการปกติที่พบได้ในทารกแรกเกิดทุกคน โดยพวกเขาอาจจะบิดตัวขณะที่หลับเมื่อรู้สึกเมื่อยหรือไม่สบายตัว เช่นเดียวกับที่ผู้ใหญ่บิดขี้เกียจ หรืออาจจะใช้การบิดตัวหรือยืดตัวเพื่อช่วยในการผายลมหรืออุจจาระ ซึ่งทารกจะเริ่มบิดตัวขณะนอนหลับในช่วงอายุประมาณ 2-3 เดือน ไปจนถึง 1 ขวบ โดยเขาจะบิดตัวหรือยืดตัวเยอะ ๆ โดยเฉพาะหลังจากการนอนหลับเป็นเวลานาน การบิดตัวนี่แหละจะช่วยให้กล้ามเนื้อและข้อต่อทั้งหมดทำงานได้สมบูรณ์มากขึ้น และในขณะที่เขาบิดตัวอาจส่งเสียงครางหรือคำรามเบา ๆ ในลำคอ ซึ่งถือเป็นอาการปกติ ไม่มีอะไรต้องกังวล
ทารกบิดตัวบ่อย แบบไหนถึงต้องระวัง
แม้ว่าการบิดตัวของทารกจะเป็นอาการปกติที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวล แต่หากพวกเขาบิดตัวพร้อมกับอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย นั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าลูกน้อยกำลังป่วย โดยคุณพ่อคุณแม่ควรสังเกต ดังนี้
- บิดตัวพร้อมกับส่งเสียงฮึดฮัด - เป็นสัญญาณบอกว่าท้องของเขาเต็มไปด้วยแก๊สหรืออุจจาระ และเขากำลังอยากปล่อยมันออก
- บิดตัวพร้อมกับการแอ่นหลัง - เป็นอาการของอาหารไม่ย่อย ทำให้เขาแอ่นหลังเพื่อให้รู้สึกสบายตัวขึ้น คุณพ่อคุณแม่ควรจับเขาอุ้ม ไม่อย่างนั้นอาจทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อนได้
- หยุดบิดตัวแล้วร้องไห้ออกมาแทน - แปลว่าการบิดตัวของเขาไม่ได้ช่วยบรรเทาความไม่สบายตัวอีกต่อไป คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตว่าสาเหตุพื้นฐานคืออะไร หรือหากหาสาเหตุไม่เจอควรพาไปหาคุณหมอ
- บิดตัวพร้อมทำเสียงฮึดฮัดและแอ่นหลังไปพร้อมกัน - อาการนี้บ่งบอกว่าเด็ก ๆ อาจจะรู้สึกจุกเสียดหรือมีอาการกรดไหลย้อน คุณพ่อคุณแม่ควรพาไปหาหมอเพื่อรักษา
จะเห็นได้ว่าอาการที่ทารกบิดตัวบ่อยไม่ใช่เรื่องน่ากังวลนัก แต่ทางที่ดีก็ควรทำให้เขาเรอหรือขับถ่ายก่อนนอน จะได้สบายตัวและหลับยาว อีกทั้งต้องคอยสังเกตความผิดปกติของลูกน้อยอยู่เรื่อย ๆ เพื่อสุขภาพที่ดีของเขานะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : babygaga.com, thehealthyjournal.com, gchealth.com.au