เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก smashinglists.com , blogspot.
ในการปฏิสนธิภายในครรภ์ ในบางครั้งอาจเกิดความผิดพลาดขึ้นระหว่างกระบวนการปฏิสนธิ และการตั้งครรภ์ ซึ่งแน่นอนว่ามันย่อมส่งผลต่อทารกในครรภ์อย่างมากมาย โดยตลอดเวลาหลายร้อยปีที่ผ่านมา ได้เกิดกรณีแปลกประหลาดขึ้นทั่วโลก วันนี้ จึงขอรวบรวมความผิดปกติของทารกในครรภ์ ซึ่งทำให้ทารกที่คลอดออกมามีรูปร่างประหลาดมาฝากกันค่ะ
1. เด็กสองหน้า (Diprosopus) นี่คือหนูน้อยเอลี่ ที่เกิดมามีความผิดปกติพิสดาร คือ มีศีรษะเพียงหนึ่งแต่มีสองใบหน้าติดกัน เธอมีสองจมูก สองปาก และตาสองคู่ แต่มีหูเพียงคู่เดียว เป็นลักษณะของฝาแฝดที่มีร่างกายเชื่อมเป็นหนึ่งเดียว กรณีนี้ส่วนใหญ่จะเสียชีวิต แต่สำหรับเอลี่ยังคงมีสุขภาพดีและไม่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจเลย และยังสามารถทานอาหารได้ด้วยปากทั้งสองข้าง อีกทั้งยังมองเห็นได้ด้วยดวงตาทั้งสี่ ซึ่งเวลาหลับและตื่น ดวงตาทั้งสี่ก็จะหลับแต่ตื่นพร้อม ๆ กัน
2. เด็กตาเดียว ทารกรายหนึ่งในไนจีเรีย เกิดมาพร้อมกับภาวะผิดปกติที่เรียกว่า Cyclopia หรือ synophthalmia เกิดจากความผิดพลาดของสมองส่วนหน้าขณะเป็นตัวอ่อน ทารกจึงเกิดมามีตาเดียวและไม่มีจมูกหายใจ กรณีนี้มักจะเสียชีวิตทันที
3. เด็กสองหัว (Craniopagus parasiticus) เป็นฝาแฝดที่นอกจากจะมีศีรษะติดกันแล้ว ศีรษะอีกหนึ่งยังไร้ร่างกายอีกด้วย จึงกลายเด็กที่มีศีรษะส่วนเกิน และศีรษะที่เกินมานั้นก็มีหน้าตาไม่สมบูรณ์ แต่มีเส้นประสาทสามารถรับรู้ และตอบสนองการสัมผัสได้ เกิดขึ้นได้ยากมาก โดยที่ผ่านมานับตั้งแต่มีการบันทึก มีกรณีดังกล่าวเพียง 10 รายเท่านั้น และมักจะเสียชีวิต โดย 3 ใน 10 รายนั้นสามารถมีชีวิตได้ 2-3 ปีก่อนจะเสียชีวิตในที่สุด
4. เด็กแฝดที่มีส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายติดกัน และไม่สามารถแยกจากกันได้เนื่องจาก ใช้อวัยวะบางส่วนร่วมกัน เช่น เด็กแฝดอินจัน หรือเด็กที่มีศีรษะติดกัน และมีร่างกายสมบูรณ์ทั้งคู่ อย่างในกรณีคริสตา และ ทาเทียน่า เด็กแฝดที่เกิดมามีศีรษะติดกัน และมีสมองส่วนทาลามัสเชื่อมต่อกันจนทำให้รับรู้ความเจ็บปวดของอีกคนได้ มองเห็นผ่านสายตาของอีกคนได้ และรับรู้ความคิดของกันและกันได้
5. เด็กหัวใจออกมาอยู่ด้านนอก (Ectopia Cordis) เป็นภาวะความผิดปกติที่หัวใจออกมาอยู่ด้านนอกร่างกาย บริเวณทรวงอก ซึ่งปกติแล้วจะถูกกระดูกห่อหุ้มไว้ไม่ให้กระทบกระเทือนได้ง่าย แต่สำหรับกรณีนี้ กระดูกหน้าอกหรือกระบังลมจะมีรอยโหว่และหัวใจออกมาอยู่ด้านนอก ขณะที่ยังคงเต้นไหวได้ตามปกติ แต่ไม่นานเด็กจะเสียชีวิต
6. เด็กกบ (Anencephaly) เป็นภาวะพิการแต่กำเนิดชนิดรุนแรง ทารกจะไม่มีกะโหลกศีรษะ เยื่อหุ้มสมอง และสมองใหญ่ที่ควบคุมการทำงานของสมองส่วนต่าง ๆ แต่ยังมีก้านสมองที่ควบคุมระบบหายใจ และมีอวัยวะบนใบหน้าครบถ้วน แต่จะผิดธรรมชาติเนื่องจากไม่มีกะโหลกศีรษะ เช่นในภาพที่ทารกมีลักษณะใบหน้าอยู่บริเวณคอ และไร้ซึ่งกะโหลกห่อหุ้ม ทำให้ตาโปนคล้ายกับกบ อีกทั้งอวัยวะในร่างกายยังผิดปกติปกติไปทุกส่วนอีกด้วย กรณีนี้ทารกจะเสียชีวิตหลังคลอดไม่กี่ชั่วโมง และจะไม่มีการตอบสนอง ไม่มีมีการรับรู้ใด ๆ และไม่รู้สึกตัวเลย คล้ายกับเป็นร่างกายที่หายใจได้เท่านั้น
7. เด็กลายเสือ (Harlequin-type ichthyosis) ทารกรายหนึ่งในปากีสถาน คลอดออกมาด้วยสภาวะร่างกายที่แปลกประหลาดผิดมนุษย์มนา คือมีผิวแห้งบอบบางมาก ผิวหนังลายเป็นริ้ว ๆ และอวัยวะแทบทุกส่วนผิดปกติทั้งสิ้น กรณีนี้เกิดจากความผิดปกติของยีนด้อย เช่นเดียวกับเด็กดักแด้ แพทย์ต้องนำเข้า ICU ทันทีที่เกิดมา ซึ่งหากรอดชีวิตก็ไม่สามารถรักษาให้หายได้ ต้องคอยดูแลตามอาการไปจนกว่าจะเสียชีวิต ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน เพราะผิวจะแห้งแตกและบาง จนติดเชื้อแบคทีเรียได้ง่ายมาก
8. เด็กหลายขา (Polymelia) คือภาวะที่ทารกเกิดมาพร้อมกับขาที่มากกว่า 2 ขา ส่วนใหญ่จะมี 5 ขาขึ้นไป ส่วนสาเหตุนั้นมีหลายอย่าง แต่ส่วนใหญ่น่าจะมาจาก การที่ฝาแฝดเกิดเชื่อมโยงร่างกายกันขณะเป็นตัวอ่อน ก่อนจะพัฒนาเป็นตัวอ่อนเพียงหนึ่ง จึงทำให้มีขามากกว่าคนปกติ ซึ่งขาที่เกินมานั้นอาจมีขนาดเดียวกัน หรือมีขนาดต่างกันก็เป็นได้
9. ทารกตัวเล็กที่สุดในโลก กรณีนี้เกิดขึ้นกับ เอมีเลีย เทเลอร์ ที่คลอดก่อนกำหนดถึง 3 เดือนกว่า โดยทารกมีอายุเพียง 5 เดือนเศษเท่านั้น แต่ก็ยังคงมีชีวิตรอด โดยแพทย์จะให้การดูแลเป็นอย่างดี ขณะที่เอมีเลียเองก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด และจะรอจนกว่าลูกของเธอจะมีสุขภาพดีและเติบโตตามปกติ
10. เด็กสององคชาต (Diphallia) เป็นภาวะความผิดปกติที่เด็กเพศชายจะมีสององคชาตและทั้งสองก็มีขนาดใกล้เคียงกัน แต่ส่วนใหญ่จะองคชาตจะใช้งานได้เพียงหนึ่ง ส่วนอีกหนึ่งนั้นคล้ายกับเป็นส่วนเกินที่ใช้การไม่ได้ ดังนั้น ทารกส่วนใหญ่จะขับปัสสาวะผ่านองคชาตอันใดอันหนึ่งเท่านั้น แต่ก็ยังมีทารกสององคชาตที่ขับปัสสาวะด้วยองคชาตทั้งสองได้เช่นกัน เพียงแต่มีน้อยมาก และเด็กสองอวัยวะเพศนี้ พบได้เพียง 1 ใน 5.5 ล้านคนเท่านั้น ซึ่งในระยะเวลา 400 ปีที่ผ่านมา มีการบันทึกว่ามีทารกที่เกิดมาพร้อมกับภาวะดังกล่าวเพียง 1,000 รายเท่านั้น และความผิดปกตินี้ก็ไม่ได้ทำให้เสียชีวิตแต่อย่างใด เด็กสามารถเติบโตได้ตามปกติ และเมื่อโตขึ้นก็สามารถมีเพศสัมพันธ์และมีลูกได้เช่นเดียวกับผู้ชายปกติ โดยจะไม่มีการถ่ายทอดทางพันธุกรรมไปสู่ลูกชาย