จับลูกมาว่ายน้ำกันดีกว่า

ชวนหนูๆ มาว่ายน้ำป๋อมแป๋ม..กันดีกว่า (M&C แม่และเด็ก)

          ไปอ่านข่าวการค้นคว้าวิจัย อย่างหนึ่งก็ต๊กกะใจ เจอสถิติที่ไม่น่าระทึกใจเท่าไหร่ค่ะ เพราะเขาว่า เดี๋ยวนี้ประเทศไทยอดีตเมืองท่าอันรุ่งเรือง รายงานระบุว่า เด็กไทยส่วนใหญ่ว่ายน้ำกันไม่เป็นแล้ว

          เหลือเชื่อใช่ไหมคะ..รวมตัวฟ้าใสด้วยค่ะ (อิอิ ว่ายไม่เป็นเหมือนกัน แหม..หันไปทางไหน ก็เจอแต่คลองน้ำเน่า จะนุ่งกระโจมอก ตีโป่งแบบสมัยก่อนเห็นท่าจะไม่ไหว จะไปว่ายตามสระก็อดสะท้านใจหุ่นตัวเองไม่ได้ค่ะ) คือจากสถิติที่เขาไล่เก็บกันมา สำรวจพบว่า เด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งมีกว่า 13 ล้านคนในปัจจุบันหรือมากกว่านั้น เพราะเก็บสถิติตั้งแต่ปี 2549 นู่นแหนะค่ะ พบข้อมูลว่า มีเด็กว่ายน้ำเป็นเพียงร้อยละ 16 หรือจำนวน 2 ล้านกว่าคนเท่านั้น ส่วนอีก 11 ล้านคน ยังว่ายน้ำไม่เป็นเลย และยังมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ช่วงหน้าร้อนที่เด็ก ๆ ปิดเทอมนี่ล่ะค่ะ เป็นช่วงที่มีอัตราเด็กจมน้ำตายมากที่สุด

          รู้แล้วอย่างนี้ จะไม่ลองหันมาสนับสนุน เจ้าตัวเล็กที่บ้านของเราหัดว่ายน้ำดูบ้างล่ะ ซึ่งเดี๋ยวนี้เห็นเด็กฝรั่งมังค่าบางคนลงว่ายน้ำป๋อมแป๋ม ตั้งแต่ตัวยังแดง ๆ เลยค่ะ แต่บ้านเราคงตามเขาไม่ไหว เพราะติดปัญหาเรื่องคุณภาพของสระน้ำอยู่บ้าง แต่พอเด็กโตขึ้นมาหน่อย โรงเรียนหลาย ๆ ที่ต่างก็มีสระว่ายน้ำระดับอนุบาลกันหมดแล้ว มีการเรียนการสอนเป็นเรื่องเป็นราว ให้ผู้ปกครองเลือกสรรว่า ต้องการให้บุตรธิดาเรียนหรือไม่? ก็ตามแต่ใจเลยค่ะ หรือแม้แต่ตามคลับ สโมสรว่ายน้ำต่าง ๆ ก็มีนักว่ายน้ำระดับมือโปรให้คำแนะนำเยอะไปหมด

เด็กกี่ขวบถึงจะว่ายน้ำได้ ???

          คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านคงสงสัยว่า ถ้าอยากให้เจ้าตัวเล็กเรียนว่ายน้ำควรเริ่มเมื่อไหร่ถึงจะเหมาะสม ซึ่งก็มีโดยส่วนใหญ่ของกุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลาย ๆ ประเทศต่างให้คำแนะนำว่า อย่างน้อยควรรอให้ลูกน้อยมีอายุอย่างน้อย 3 ปีขึ้นไปก่อนค่ะ ก่อนที่จะให้เรียนว่ายน้ำ เพราะเด็กที่โตเกินกว่า 3 ขวบ เริ่มที่จะช่วยเหลือตัวเองได้เยอะแล้ว และสามารถฟังคำสั่งที่ครูผู้ฝึกสอนได้ แต่ถ้าว่ายน้ำตามสระทั่ว ๆ ไป และมีคุณพ่อคุณแม่คอยดูแลกำกับอยู่ด้วยตลอด สามารถทำได้ตั้งแต่ 3 - 4 เดือนขึ้นไปได้เลยค่ะ

          แต่มีความเห็นแย้งจากบางสำนัก อย่างทางสมาคมกุมารแพทย์ได้ออกมาระบุว่า เด็กที่มีวัยไม่เกิน 4 ขวบ หากไปเรียนว่ายน้ำ จะมีความเสี่ยงสูงที่จะเสียชีวิตจากการจมน้ำ ส่วนวัยที่เสี่ยงสูงสุดหากจับให้ว่ายน้ำ ก็คือ วัย 1 - 2 ขวบ เพราะเด็กที่ยังไม่เกิน 4 ขวบ ยังไม่พร้อมทั้งพัฒนาการ และทักษะ หนำซ้ำยังติดเชื้อได้ง่ายกว่าเด็กโต เพราะหลีกเลี่ยงได้ยาก จากการกลืนน้ำในสระว่ายน้ำ การดำน้ำ ศีรษะที่ผลุบลงไปในน้ำ

          ถ้าคุณพ่อคุณแม่จะเน้นชัวร์และปลอดภัยจริง ๆ สิ่งที่ต้องคำนึงไว้เป็นอันดับแรกคือ วัยที่เหมาะสมสุด ๆ ของการเรียนว่ายน้ำ น่าจะเป็นสัก 5 - 6 ขวบ เพราะร่างกายเริ่มมีสัดส่วนที่ดี อีกทั้งความกล้าก็อาจเพิ่มมากขึ้น การสื่อสารระหว่างครูสอนกับเด็กเข้าใจง่ายกว่าเด็กเล็กมาก แต่ที่จริงแล้ว อยากให้ปรึกษากุมารแพทย์ประจำตัวลูกน้อยดูก่อนก็ดีค่ะ เพราะเด็กแต่ละคนเกิดมามีความแข็งแรงไม่เท่ากัน

เรื่องน่ารู้ เมื่อหนูลงสระว่ายน้ำ

          คงมีคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คน อยากให้ลูกน้อยว่ายน้ำเป็นตั้งแต่เล็ก ๆ เพราะเชื่อว่าการให้ลูกว่ายน้ำเป็นเร็ว ก็จะช่วยให้เขามีความเคยชินกับน้ำ ไม่กลัวน้ำ และเพื่อในอนาคตจะได้หัดว่ายน้ำได้อย่างสบาย และปลอดภัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุตกน้ำตกท่าค่ะ แม้ยังไม่ใช่ระยะวัยที่สมควร ดังที่กล่าวมาแล้วเบื้องต้น ก็ไม่ผิดอะไรค่ะ แต่ก็มีหลากหลายเรื่องขอฝากไว้ให้เป็นการบ้าน

          สำหรับเด็กเล็กวัยไม่เกิน 3 ขวบนี้ ควรเป็นช่วงแนะนำให้เขารู้จัก มีความเคยชินกับการอยู่ในน้ำมากกว่า ยังไม่ต้องขนาดไปจริงจังเรียนรู้อะไรมากมาย ควรปล่อยให้เขาสนุกตามภาษาเด็ก ๆ แต่ก็มีสิ่งที่ควรคำนึงมาก ๆ เหมือนกัน อย่างแรกคือ ความตื้นและลึกของสระว่ายน้ำเหมาะสมหรือไม่? คุณพ่อคุณแม่อาจลองไปยืนตรงสระน้ำตื้นหรือสระอนุบาลว่า สูงระดับไหนของตัวเอง ตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย

          และให้ลองดำผลุบดำว่ายในสระดูสักประมาณ 40 นาทีค่ะ เพื่อเทสต์คุณภาพของน้ำในสระ แต่ก็อย่าเผลอลองชิมสักเต็มปอดล่ะค่ะ คือสระน้ำที่ลงไปแล้วไม่มีอาการเสียวฟันหรือรสชาติเปรี้ยว ถือว่าใช้ได้เลยค่ะ และให้ลองสังเกตเพิ่มเติมดูว่า ถ้ามีเด็กวัยซนมาเล่นน้ำกันเยอะ ๆ อาจไม่เหมาะพาเด็กเล็กไปแนะนำให้รู้จักกับน้ำสักเท่าไหร่

          โดยในขณะที่พาเด็กลงไปในสระน้ำฝั่งตื้น หรือสระอนุบาล ควรให้ความระมัดระวังพิเศษค่ะ เพราะน้ำเป็นสภาพแวดล้อมใหม่สำหรับเขา เมื่อขาเหยียบและยืนไม่ได้ เขาอาจมีอาการกลัว ทางที่ดี คุณพ่อคุณแม่ก็จะต้องสร้างบรรยากาศที่ทั้งอบอุ่นและสนุกสนาน ควรเบี่ยงเบนความสนใจให้อยู่กับสิ่งอื่น โดยการนำของเล่นชิ้นโปรดที่ลอยน้ำ เช่น ลูกบอลเล็ก ๆ , เรือเป่าลมยาง มาช่วยเพิ่มความสนุกและการเรียนรู้ให้แก่เขา อาจมีการให้กำลังใจ ด้วยการสบสายตาลูก กอด หอมแก้ม จับมือ ยิ้มให้ลูกมาก ๆ ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นทำให้หนูน้อยของเราสบายใจ และเป็นกำลังใจให้นักว่ายน้ำตัวน้อยหน้าใหม่ได้อย่างดีที่สุด

          ระยะแรกที่พาลงน้ำ ควรให้เขาอยู่ในน้ำไม่นานมากนักค่ะ ไม่ควรเกิน 10 นาที เมื่อลูกเริ่มคุ้นเคยแล้วจึงค่อยเพิ่มเวลาให้มากขึ้น สำหรับเจ้าตัวเล็กที่อายุน้อยกว่า 1 ปี ไม่ควรให้อยู่ในน้ำนานเกินครั้งละครึ่งชั่วโมง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของน้ำและสภาพอากาศด้วย สำหรับอุณหภูมิที่พอเหมาะและสบายสำหรับเด็กนั้นจะอยู่ระหว่าง 31 - 34 องศาเซลเซียส เมื่อเขามีความเคยชินกับน้ำมากขึ้น ทดลองให้เขานอนหงายบนผิวน้ำ โดยที่คุณพ่อคุณแม่นำมือทั้งสองข้างมารองใต้ตัวเขา ท่านี้คงใช้เวลาสักระยะจนกว่าเจ้าตัวเล็กจะมีความเคยชิน ซึ่งเด็กบางคนอาจลอยตัวได้เลยก็มี แต่ทางที่ดีการฝึกให้ลูกลอยตัวในน้ำและดำน้ำ ควรมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำตลอดเวลาก็จะปลอดภัยกว่าค่ะ

ข้อควรระวังที่ควรใส่ใจ

          เมื่อคุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจได้แล้วว่า จะให้ลูกน้อยสมัครเรียนว่ายน้ำที่ไหนก็ตาม ข้อสำคัญควรสอบถามว่า มีขั้นตอนในการสอนว่ายน้ำอย่างไรบ้าง และมีกฎเกณฑ์เรื่องความปลอดภัยอย่างไรบ้าง และต้องคอยสอดส่องดูแล ตลอดเวลาที่ลูกน้อยอยู่ในน้ำ และบริเวณสระ ควรอยู่กับลูกตลอดเวลา ตัวต่อตัว (one-on-one, parent-child pairing) และควรสอบถามว่า มีครูฝึกหรือคนดูแลเรื่องความปลอดภัย ที่ได้ผ่านขั้นตอนการอบรมปฏิบัติการช่วยชีวิต เช่น การปฐมพยาบาล การช่วยหายใจผายปอด ฯลฯ อยู่ดูแลตลอดเวลาของการใช้สระน้ำหรือไม่ค่ะ





ขอขอบคุณข้อมูลจาก