อย่าปล่อยให้ลูกอ้วน เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่โรคภัยจะถามหา (goodfoodgoodlife)
คุณสังเกตไหมคะว่า สมัยนี้ไปไหนมาไหนมีเด็กอ้วนตัวกลมป้อมเกินพอดีให้เห็นมากมาย ซึ่งสอดคล้องกับรายงานของกองโภชนาการ กรมอนามัย ที่พบว่าในระยะเวลา 6 ปีมานี้ เด็กไทยอายุต่ำกว่า 6 ปี อ้วนเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 ถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไปในอีก 10 ปีข้างหน้า 1 ใน 5 คนของเด็กเหล่านี้จะเป็นโรคอ้วน แล้วสาเหตุที่เด็ก ๆ อ้วนท้วนก็เพราะว่า "รับประทานมากเกินไป" นั่นเอง ทั้งอาหารหลัก อาหารว่าง เครื่องดื่ม ขนมต่าง ๆ
เด็ก ๆ ยังนิยมรับประทานเนื้อสัตว์มากขึ้น อย่างหมูกระทะ ไก่-หมูทอด เบอร์เกอร์ ขนมกรุบกรอบ ฯลฯ ขณะเดียวกันก็ชอบขนมและเครื่องดื่มที่มีรสหวานมากขึ้น แล้วก็รับประทานผักผลไม้น้อยลง ยิ่งบวกกับนั่งอยู่หน้าจอโทรทัศน์ เล่นเกมส์คอมพิวเตอร์เป็นหลัก ออกกำลังกายเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง จึงกลายเป็นความอ้วนในที่สุด
มีงานวิจัยพบว่า หากปล่อยให้เด็กเล็ก ๆ อ้วนต่อไปเรื่อย ๆ เขาก็มีโอกาสกลายเป็นผู้ใหญ่อ้วนถึงร้อยละ 30 แต่ถ้าหากเด็กวัยรุ่นอ้วน เขาจะกลายเป็นผู้ใหญ่อ้วนได้มากถึงร้อยละ 80 แล้วคนที่เป็นโรคอ้วนก็จะหนีไม่พ้นโรคต่าง ๆ มากมาย เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และอื่น ๆ อีกอย่างน้อย 16 โรค รวมทั้งมะเร็งบางชนิดด้วยที่มีสาเหตุจากความอ้วน ซึ่งผลของโรคเหล่านี้ ก็อาจนำไปสู่ภาวะเส้นเลือดแดงแข็งจนตีบตันและแตก ทำให้เป็นอัมพาตหรืออัมพฤกษ์ในที่สุด และเป็นตั้งแต่ยังเยาว์วัย ที่เห็นได้ชัดคือ คุณหมอพบว่า มีเด็กวัยรุ่นเป็นเบาหวานและความดันโลหิตสูงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่โรคเหล่านี้เคยเข้าใจกันว่า เป็นโรคที่มักจะตรวจพบในผู้ใหญ่เท่านั้น
แล้วจะทำอย่างไรให้ลูกรักปลอดภัยจากความอ้วน ก็ควรเริ่มตั้งแต่ลูกเกิดเลย โดยเน้นให้นมแม่เป็นหลัก แล้วตามด้วยอาหารเสริมตามวัย เมื่อเด็กเริ่มรับประทานได้ ต้องฝึกให้ลูกรับประทานผักผลไม้ตั้งแต่อายุ 6-7 เดือน ให้ลูกรับประทานอาหารมื้อหลักที่มีผักทุกมื้อ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มรสหวาน เมื่อเด็กโตขึ้นถ้าเด็กอยากรับประทานขนมถุง ขนมกรุบกรอบ ควรแนะนำให้ไม่เกิน 2 ถุงต่อวัน แต่ไม่ควรให้รับประทานบ่อยเกินไป และเลือกที่มีรสหวาน-เค็มแต่น้อย ทางที่ดีควรสอนให้ลูกเลือกรับประทานผลไม้แทนจะดีที่สุด ต้องฝึกให้เด็กหยุดรับประทานเมื่ออิ่ม อย่าตามใจปาก และควรเสริมกิจกรรมให้เด็ก ๆ ได้เคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอด้วย เช่น ให้เข้าคอร์สเล่นกีฬา เป็นต้น
ดูแลให้ดีเรื่องน้ำหนักตัวและสุขภาพของลูกรัก ก็น่าจะอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานได้ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก