โรคหลอดเลือดสมองในเด็กแรกเกิด เสี่ยงเสียชีวิต

โรคหลอดเลือดสมองในเด็กแรกเกิด

          โรคหลอดเลือดสมองในเด็กแรกเกิด เกิดกับเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง วันนี้กระปุกดอทคอมมีเกร็ดน่ารู้อาการของโรคหลอดเลือดสมองในเด็ก มาฝากคุณพ่อคุณแม่ในการเฝ้าระวังและหมั่นสังเกตความผิดปกติของลูกน้อย เพราะหากเรารู้อาการเร็วเท่าไรก็จะรักษาลูกน้อยได้ทันเวลาค่ะ อ่านข้อมูลดี ๆ จากนิตยสาร รักลูก กันเลยค่ะ ^^

          โรคหลอดเลือดสมองในเด็ก นับเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ใน 10 ของเด็กในประเทศที่พัฒนาแล้วค่ะ ซึ่งมีรายงานว่าในประเทศสหรัฐอเมริกาเกิดอุบัติการณ์นี้ประมาณ 6 คน ต่อ 1 แสนและประมาณ 58 % ของผู้ป่วยที่เป็นมักเสียชีวิต ที่สำคัญผู้ป่วยเด็กที่รอดชีวิตมักมีความพิการ หรือความผิดปกติทางด้านสติปัญญาตามมาด้วย

สาเหตุ

          พบมากในช่วงขวบปีแรกของชีวิต ซึ่งพบประมาณ 1 คนต่อทารกแรกเกิด 3,500 คน เกิดกับเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง ที่สำคัญเด็กที่เป็นโรคเส้นเลือดสมองมีโอกาสเกิดซ้ำได้ ขึ้นอยู่กับสาเหตุดังนี้

         1. ความผิดปกติแต่กำเนิด

         2. การติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลาง

         3. โรคเลือด เช่น ฮีโมฟิเลีย ธาลัสซีเมีย เป็นต้น

         4. โรคหัวใจผิดปกติแต่กำเนิด

         5. โรคเส้นเลือดในร่างกายผิดปกติแต่กำเนิด

         6. โรคเมตาโบลิคผิดปกติแต่กำเนิด

อาการ

        ความสำคัญของภาวะโรคหลอดเลือดสมอง คือหากเลือดไม่ไปเลี้ยงเนื้อเยื่อสมองนานเกิน 3 นาที จะเกิดบาดเจ็บและเนื้อเยื่อสมองถูกทำลายได้ คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตอาการเบื้องต้นเหล่านี้ เพื่อพาลูกไปพบคุณหมอค่ะ

         1. ปวดศีรษะเฉียบพลันและทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ

         2. มองเห็นผิดปกติ เช่น เห็นภาพซ้อน หรือมองไม่เห็นทันที

         3. ปากเบี้ยวหรืออ่อนแรงบริเวณใบหน้า แขน ขา โดยเฉพาะซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย

         4. พูดหรือกลืนลำบาก

         5. เวียนศีรษะ บ้านหมุน ยืนทรงตัวไม่ได้ตามปกติ

         6. หมดสติ ชัก

          การวินิจฉัยโรคนี้ในเด็ก โดยเฉลี่ยประมาณ 20% วินิจฉัยได้ค่อนข้างยาก เพราะต้องอาศัยการชักประวัติจากทางครอบครัว และความร่วมมือในการตรวจร่างกายของเด็ก โรคนี้ในเด็กมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวของสมองดีกว่าในผู้ใหญ่ เนื่องจากสมองของเด็กยังมีการพัฒนาต่อเนื่อง รวมถึงซ่อมแซมตัวเองได้ดีกว่าด้วย

ระดับความรุนแรง สามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ

          1. Ischemic stroke หรือภาวะสมองขาดเลือด ความรุนแรงของภาวะนี้ คือทำให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองส่วนต้นทางมีการตีบแคบลง หรือถูกอุดกั้นทำให้เลือดไม่สามารถผ่านไปเลี้ยงสมองส่วนปลายได้ ตำแหน่งที่เป็นสาเหตุมักเป็นความผิดปกติจากหัวใจและหลอดเลือดบริเวณคอ

          2. Hemorrhagic Stroke หรือเส้นเลือดสมองแตก มักเกิดจากการบาดเจ็บกับเส้นเลือดสมองโดยตรง เช่น จากอุบัติเหตุ หรือเส้นเลือดบริเวณนั้นผิดปกติ ทำให้มีเลือดมาไหลเวียนอยู่มาก และเปราะบางเสี่ยงแตกได้ง่ายกว่าคนปกติ รวมถึงผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเป็นกลุ่มโรคเลือด เช่น ฮีโมฟีเลีย เป็นต้น

การรักษาและป้องกัน

          คุณหมอจะพิจารณาการให้ยาหรือผ่าตัด ขึ้นอยู่กับสาเหตุความรุนแรงของอาการขณะนั้น และระยะเวลาที่ผู้ป่วยมีอาการที่สำคัญ ภาวะนี้ต้องอาศัยการรักษากับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลาย ๆ ด้านด้วย

         1. ใช้ยา คุณหมอจะให้ยาละลายลิ่มเลือด ยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือยาต้านเกล็ดเลือดในโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน เป็นต้น

         2. ผ่าตัด คุณหมอจะตัดสินใจผ่าตัดในผู้ป่วยที่มีอาการซึมหมดสติ และมีก้อนเลือดขนาดใหญ่ในสมอง

         3. กายภาพบำบัด เนื่องจากโรคนี้ผู้ป่วยมีโอกาสหายและกลับมาใกล้เคืองกับปกติได้ ดังนั้นกายภาพบำบัดจะช่วยฟื้นฟูสภาพทางร่างกาย และจิตใจผู้ป่วยด้วย

          แม้ปัจจุบันยังไม่มีการป้องกันการเกิดโรคนี้ แต่การหมั่นสังเกตความผิดปกติของลูก จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่พาเจ้าตัวน้อยมารับการรักษาอย่างรวดเร็วและทันท่วงที โดยเฉพาะยิ่งรักษาได้เร็วเท่าใด ความพิการและอัตราการเสียชีวิตก็จะลดลงมากเท่านั้น



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ปีที่ 33 ฉบับที่ 390 กรกฎาคม 2558

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
โรคหลอดเลือดสมองในเด็กแรกเกิด เสี่ยงเสียชีวิต อัปเดตล่าสุด 22 กันยายน 2558 เวลา 11:56:11 10,705 อ่าน
TOP
x close