
ใยอาหาร สำคัญกับเจ้าหนูอย่างไร (Mother & Care)
การกินอาหารของวัยเตาะแตะ กินได้หลากหลายเกือบเหมือนผู้ใหญ่แล้ว เพียงแต่ต้องดูที่ทักษะการเคี้ยวของลูก เด็กบางคนเคี้ยวเก่ง ชอบเคี้ยวก็กินอาหารหยาบได้เร็ว เด็กคนไหนไม่ค่อยชอบเคี้ยว หรือพ่อแม่มักจะบดอาหารละเอียดให้อยู่เสมอ ก็เคี้ยวได้ช้าลง แต่อย่างไรก็ตามอาหารที่สำคัญสำหรับเด็กวัยนี้ไม่ใช่นมแล้ว แต่เป็นอาหารทั้ง 5 หมู่ ที่เรารู้จักกันดี
ฉบับนี้จะพาไปทำความรู้จักกับเส้นใยอาหาร ซึ่งก็คือ ส่วนของพืช ผัก ผลไม้ ที่สำคัญไม่แพ้สารอาหารอื่น ๆ
ทำความรู้จัก ใยอาหาร
ใยอาหาร เป็นคาร์โบไฮเดรตโมเลกุลใหญ่ มีทั้งชนิดละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ พบมากในผัก ผลไม้ และธัญพืช ใยอาหารจะไม่ถูกดูดซึมในระบบทางเดินอาหาร แต่จะเดินทางไปจนถึงลำไส้ ทำหน้าที่กวาดสิ่งที่ร่างกายไม่ต้องการ เพื่อไม่ให้มีสิ่งตกค้างในลำไส้ ออกมาทางอุจจาระนั่นเอง
ทำไมเจ้าหนูต้องกิน
ผู้ใหญ่บ้านเรา มักให้ความสำคัญกับอาหารจำพวกโปรตีนเป็นพิเศษ เพราะเป็นส่วนที่ทำให้ร่างกายเจริญเติบโต แต่ร่างกายจะเติบโตอย่างแข็งแรงได้ดีนั้น ต้องได้รับอาหารที่หลากหลาย ในปริมาณที่เหมาะสม ร่วมกับการออกกำลังกาย รวมถึงใยอาหารด้วย เด็กวัยนี้หลายคน มีปัญหาเรื่องการขับถ่าย เนื่องจากกินผักผลไม้น้อยเกินไป หรือดื่มน้ำสะอาดไม่เพียงพอ ทำให้เกิดปัญหาท้องผูกตามมา ซึ่งอาจติดนิสัยไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ก็เป็นได้ และกลายเป็นปัญหาสุขภาพเรื้อรังในที่สุด
ฉะนั้นการกินอาหารที่มีใยอาหารในปริมาณที่เพียงพอ จะช่วยให้การทำงานของลำไส้ดีขึ้น ลดปัญหาอาการท้องผูก ให้กับเจ้าหนูวัยซนได้ด้วย
กินเท่าไหร่ใน 1 วัน
โดยปกติผู้ใหญ่ควรได้รับประมาณ 25-30 กรัมต่อหนึ่งวัน สำหรับเด็กอายุ 1-8 ขวบ ควรได้รับใยอาหาร 14-18 กรัม ต่อหนึ่งวัน ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าต้องไปชั่งปริมาณผักผลไม้ให้ยุ่งยาก เพียงแต่ในแต่ละมื้อต้องมีอาหารจานผัก และของว่างก็เป็นผลไม้สด หรือถั่วต่าง ๆ
การกินธัญพืช ก็มีข้อเสียเหมือนกัน คือ ถ้ากินมากเกินไป จะทำให้เกิดลมในท้อง ท้องอืด เพราะมีการสร้างแก๊สมากขึ้น (อย่างที่ชอบพูดกันว่า กินถั่วแล้วผายลมมากนั่นเองค่ะ) ฉะนั้นการกินอาหารให้สมดุล จึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ต้องจัดการให้ลูกน้อยวัยนี้












ขอขอบคุณข้อมูลจาก
