นิทานอีสป เรื่องหมาป่ากับลูกแกะ นิทานก่อนนอนสอนใจพร้อมข้อคิดดี ๆ สำหรับคุณพ่อคุณแม่อ่านกล่อมให้ลูกน้อยหลับฝันดี
เมื่อจู่ ๆ เจ้าตัวเล็กเกิดงอแงไม่ยอมหลับ ไม่ยอมนอนตอนกลางคืน แล้วคุณพ่อคุณแม่ไม่รู้ว่าต้องรับมือยังไงดี เราขอแนะนำการอ่านนิทานอีสป ที่นอกจากจะเป็นกิจกรรมที่ทำให้ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้ เพิ่มทักษะการฟัง การอ่าน การคิดวิเคราะห์ให้ลูกน้อยอีกด้วย และที่สำคัญก็ไม่ต้องออกไปหาซื้อกันให้วุ่นวายเลย เพราะวันนี้กระปุกดอทคอมมีนิทานเรื่อง หมาป่ากับลูกแกะ พร้อมภาพประกอบน่ารัก ๆ และขอคิดคติสอนใจดี ๆ มาฝากกันถึงที่เลย รับรองอ่านจบปุ๊บเด็ก ๆ ต้องเคลิ้มหลับปั๊บแน่นอน :)
กาลครั้งหนึ่ง ณ ป่าอันกว้างใหญ่ มีลูกแกะขนปุยตัวน้อยเดินเล่นอย่างเพลิดเพลิน จนมาเจอเข้ากับลำธารแห่งหนึ่ง มันจึงแวะดื่มน้ำด้วยความกระหายพร้อมพูดออกมาว่า "วันนี้อากาศดีจังเลย ข้าคิดว่าจะวิ่งเล่นต่ออีกสักหน่อย กลับบ้านช้าแค่นิดเดียว คุณแม่แกะคงไม่ว่าอะไรหรอกเนอะ"
คิดได้ดังนั้น เจ้าลูกแกะก็หัวเราะอย่างร่าเริง แล้วก้มกินน้ำต่อไปจะได้มีแรงเล่นเต็มที่ แต่บังเอิญมีหมาป่าตัวหนึ่งเดินมายังลำธารแห่งเดียวกันพอดี และโชคร้ายที่นั่นคือหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์ นิสัยไม่ดี แถมยังหิวโซอีกซะด้วย เมื่อมันมองเห็นลูกแกะก็คิดจับมาเป็นอาหาร พร้อมคิดอุบายหลอกล่อทันที
"นี่ เจ้าแกะน้อย รู้รึเปล่าว่าเจ้ากำลังทำอะไรผิดอยู่ ?" หมาป่าพูดขู่ขึ้นมาเสียงดังลั่น จนลูกแกะตัวสั่นเพราะหวาดกลัว
"ข้าทำอะไรผิดงั้นหรือท่านหมาป่า ? ข้าแค่กินน้ำอยู่ตรงนี้เท่านั้น" ลูกแกะเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ
"กินน้ำนั่นแหละคือความผิดของเจ้า เพราะเจ้าทำให้น้ำมันขุ่นข้นไปหมด ข้าดื่มเข้าไปไม่ได้ เจ้าต้องถูกข้าลงโทษ" หมาป่าตอบกลับอย่างหัวเสีย
"แต่ว่าท่านหมาป่า.. ข้ากินน้ำอยู่ปลายลำธาร ส่วนตัวท่านนั้นอยู่ต้นลำธาร กระแสน้ำก็พัดมาทางนี้ ข้าจะทำให้น้ำขุ่นข้นได้อย่างไรเล่า" ลูกแกะยังคงเถียงสุดตัวจนหมาป่าเริ่มโมโหยิ่งขึ้น และออกอุบายอื่นอีก
"เจ้าจะไม่รับผิดเรื่องนี้ก็ได้ แต่ข้ารู้นะว่าเมื่อปีกลาย เจ้าได้พูดว่าร้ายข้าลับหลัง ทำให้ข้าเสียชื่อเสียง และสัตว์ตัวอื่นก็พาลจะเกลียดข้ากันไปหมด เจ้าต้องถูกลงโทษ !" หมาป่าสร้างเรื่องโกหกคำโตเป็นครั้งที่สอง ทำเอาเจ้าลูกแกะงุนงงเข้าไปอีก
"แต่ว่าท่านหมาป่า.. ตอนนั้นข้ายังไม่เกิดมาบนโลกเลยด้วยซ้ำ ข้าจะไปพูดว่าร้ายท่านได้ยังไงกันเล่า" ลูกแกะตอบตามความสัตย์จริง
"งั้นก็ต้องเป็นพี่น้องของเจ้าสักคนหนึ่งนั่นแหละ มาให้ข้ากินเป็นการลงโทษซะดี ๆ" หมาป่าเริ่มทนไม่ไหว ทำไมเจ้าลูกแกะตัวนี้ถึงได้ดื้อดึง เถียงคำไม่ตกฟากแบบนี้
"แต่ว่าท่านหมาป่า.. ข้าสาบานว่าข้าเป็นลูกคนเดียว ไม่มีพี่น้อง" ลูกแกะตอบเสียงอ่อน
"โอ๊ย ! ไม่งั้นก็เป็นพ่อแม่ของเจ้านั่นแหละที่พูดไม่ดีถึงข้า ยังไงข้าก็ต้องกินเจ้าเป็นการลงโทษ" หมาป่าตอบอย่างเกรี้ยวกราด แล้วค่อย ๆ เดินเข้าไปหาลูกแกะตัวน้อย
"แต่ว่าท่านหมาป่า.." คราวนี้ หมาป่าไม่รอให้พูดจนจบประโยคอีกแล้ว ทันทีที่ลูกแกะเอ่ยปาก เจ้าหมาป่าอันธพาลก็กระโจนจับเหยื่อที่น่าสงสารกินเป็นอาหารทันที โดยที่ลูกแกะนั้น ไม่มีโอกาสได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง และไม่มีโอกาสกลับไปสู่อ้อมกอดของคุณแม่แกะอีกเลย..
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :
การพูดคุยต่อรองกับคนพาล คนขี้โกง และคนเจ้าเล่ห์ นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรเสียเวลาด้วยอย่างยิ่ง เนื่องจากคนประเภทนี้จะไม่มีความเมตตา ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น และจ้องแต่จะกดขี่ข่มเหงทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ถ้าเด็ก ๆ รู้ตัวว่ามีคนรอบข้างนิสัยแบบนี้ ก็ควรหลีกเลี่ยง ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยนะคะ เพราะถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ทำความผิดอะไร เขาก็จะหาข้ออ้างมาทำลายเราได้อยู่ดี ที่สำคัญเด็ก ๆ ไม่ควรไปไหนมาไหนคนเดียวโดยไม่ได้รับอนุญาตเด็ดขาดนะคะ ไม่เช่นนั้นอาจเจออันตรายเหมือนเจ้าลูกแกะในนิทานเรื่องนี้ก็เป็นได้
คิดได้ดังนั้น เจ้าลูกแกะก็หัวเราะอย่างร่าเริง แล้วก้มกินน้ำต่อไปจะได้มีแรงเล่นเต็มที่ แต่บังเอิญมีหมาป่าตัวหนึ่งเดินมายังลำธารแห่งเดียวกันพอดี และโชคร้ายที่นั่นคือหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์ นิสัยไม่ดี แถมยังหิวโซอีกซะด้วย เมื่อมันมองเห็นลูกแกะก็คิดจับมาเป็นอาหาร พร้อมคิดอุบายหลอกล่อทันที
"นี่ เจ้าแกะน้อย รู้รึเปล่าว่าเจ้ากำลังทำอะไรผิดอยู่ ?" หมาป่าพูดขู่ขึ้นมาเสียงดังลั่น จนลูกแกะตัวสั่นเพราะหวาดกลัว
"ข้าทำอะไรผิดงั้นหรือท่านหมาป่า ? ข้าแค่กินน้ำอยู่ตรงนี้เท่านั้น" ลูกแกะเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ
"กินน้ำนั่นแหละคือความผิดของเจ้า เพราะเจ้าทำให้น้ำมันขุ่นข้นไปหมด ข้าดื่มเข้าไปไม่ได้ เจ้าต้องถูกข้าลงโทษ" หมาป่าตอบกลับอย่างหัวเสีย
"แต่ว่าท่านหมาป่า.. ข้ากินน้ำอยู่ปลายลำธาร ส่วนตัวท่านนั้นอยู่ต้นลำธาร กระแสน้ำก็พัดมาทางนี้ ข้าจะทำให้น้ำขุ่นข้นได้อย่างไรเล่า" ลูกแกะยังคงเถียงสุดตัวจนหมาป่าเริ่มโมโหยิ่งขึ้น และออกอุบายอื่นอีก
"แต่ว่าท่านหมาป่า.. ตอนนั้นข้ายังไม่เกิดมาบนโลกเลยด้วยซ้ำ ข้าจะไปพูดว่าร้ายท่านได้ยังไงกันเล่า" ลูกแกะตอบตามความสัตย์จริง
"งั้นก็ต้องเป็นพี่น้องของเจ้าสักคนหนึ่งนั่นแหละ มาให้ข้ากินเป็นการลงโทษซะดี ๆ" หมาป่าเริ่มทนไม่ไหว ทำไมเจ้าลูกแกะตัวนี้ถึงได้ดื้อดึง เถียงคำไม่ตกฟากแบบนี้
"แต่ว่าท่านหมาป่า.. ข้าสาบานว่าข้าเป็นลูกคนเดียว ไม่มีพี่น้อง" ลูกแกะตอบเสียงอ่อน
"โอ๊ย ! ไม่งั้นก็เป็นพ่อแม่ของเจ้านั่นแหละที่พูดไม่ดีถึงข้า ยังไงข้าก็ต้องกินเจ้าเป็นการลงโทษ" หมาป่าตอบอย่างเกรี้ยวกราด แล้วค่อย ๆ เดินเข้าไปหาลูกแกะตัวน้อย
"แต่ว่าท่านหมาป่า.." คราวนี้ หมาป่าไม่รอให้พูดจนจบประโยคอีกแล้ว ทันทีที่ลูกแกะเอ่ยปาก เจ้าหมาป่าอันธพาลก็กระโจนจับเหยื่อที่น่าสงสารกินเป็นอาหารทันที โดยที่ลูกแกะนั้น ไม่มีโอกาสได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง และไม่มีโอกาสกลับไปสู่อ้อมกอดของคุณแม่แกะอีกเลย..
การพูดคุยต่อรองกับคนพาล คนขี้โกง และคนเจ้าเล่ห์ นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรเสียเวลาด้วยอย่างยิ่ง เนื่องจากคนประเภทนี้จะไม่มีความเมตตา ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น และจ้องแต่จะกดขี่ข่มเหงทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ถ้าเด็ก ๆ รู้ตัวว่ามีคนรอบข้างนิสัยแบบนี้ ก็ควรหลีกเลี่ยง ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยนะคะ เพราะถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ทำความผิดอะไร เขาก็จะหาข้ออ้างมาทำลายเราได้อยู่ดี ที่สำคัญเด็ก ๆ ไม่ควรไปไหนมาไหนคนเดียวโดยไม่ได้รับอนุญาตเด็ดขาดนะคะ ไม่เช่นนั้นอาจเจออันตรายเหมือนเจ้าลูกแกะในนิทานเรื่องนี้ก็เป็นได้