นิทานเงือกน้อยผจญภัย สนุกสนาน ประทับใจ เสริมสร้างจินตนาการ

          นิทานเงือกน้อยผจญภัย เรื่องราวของเจ้าหญิงเงือกน้อยที่ต้องการจะเป็นคน โดยเอาเสียงไปแลกกับขาจากแม่มด สนุกสนาน ประทับใจ เรียกว่าเป็นนิทานก่อนนอนที่เด็ก ๆ ทั่วโลกชื่นชอบ
นิทาน

          หลายคนคงเคยประทับใจกับเรื่องราวของนางเงือกน้อยเสียงไพเราะที่ยอมแลกเสียงกับตัวเองกับขา เพื่อที่จะได้กลายเป็นมนุษย์และใช้ชีวิตได้อย่างใจฝันกันมาแล้ว ใช่ค่ะ เรากำลังพูดถึงนิทานเรื่อง เงือกน้อยผจญภัย ที่ถูกดิสนีย์นำมาทำเป็นการ์ตูนสนุกสนาน สร้างเสริมจินตนาการไม่รู้จบให้กับเด็ก ๆ นิทานเงือกน้อยผจญภัยนั้นมีตอนจบหลายแบบ แต่ที่เราจะนำมาเล่าในครั้งนี้คือเรื่องราวของเจ้าหญิงเงือกน้อย ที่เด็ก ๆ ทั่วโลกชื่นชอบ กระปุกดอทคอมจึงขอชวนคุณพ่อคุณแม่มาอ่านนิทานก่อนนอนเรื่องนี้ให้ลูก ๆ ได้ฟังกัน

นิทานเงือกน้อยผจญภัย

          ในท้องทะเลอันไกลโพ้น มีราชาแห่งท้องทะเลนามว่า ไทรทัน ปกครองอาณาจักรเงือกอยู่ด้วยความสุขสงบ คิงไทรทันมีลูกสาวทั้งหมด 7 คน นางเงือกทุกคนสามารถว่ายขึ้นไปบนผิวน้ำได้หลังจากอายุ 15 ปี แต่นางเงือกน้อยคนสุดท้องนั้นยังเด็กเกินไป เธอจึงเฝ้ารอคอย โดยฟังเรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์จากปากของเหล่าพี่ ๆ ที่ได้ประสบพบเจอ บอกเล่าความน่าอัศจรรย์ใจของโลกที่อยู่ด้านบน
 

          นางเงือกน้อยชอบใช้เวลาส่วนใหญ่ว่ายน้ำไปยังซากเรือที่จมลงสู่ก้นทะเล เรือที่เก็บสมบัติต่าง ๆ จากเบื้องบน ของใช้ที่เธอไม่เคยเห็นกลายเป็นของสะสมสุดโปรด นางเงือกน้อยมักจะเล่นของเหล่านั้นไปพร้อม ๆ กับการร้องเพลงโดยมีฝูงปลารายล้อมเป็นเพื่อน เสียงอันก้องกังวานของเงือกน้อยขึ้นชื่อว่าไพเราะที่สุดในท้องทะเล

นิทาน

          ในที่สุดเมื่อถึงเวลาที่เงือกน้อยอายุครบ 15 ปี เธอก็รีบว่ายขึ้นสู่ผิวน้ำ ภาพที่เห็นคือเรือลำใหญ่ บนเรือบรรเลงดนตรีไพเราะ กะลาสีกำลังเต้นรำอยู่บนดาดฟ้า เธอเห็นชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งที่ดูเหมือนทุกคนบนเรือต่างให้ความสนใจและเคารพยำเกรง “เขาต้องเป็นเจ้าชายแน่ ๆ” นางเงือกน้อยคิด และรู้สึกประทับใจชายหนุ่มคนนั้นทันที

นิทาน

          นางเงือกน้อยเพลิดเพลินกับภาพตรงหน้าได้เพียงไม่นานก็เกิดพายุโหมกระหน่ำ ลูกเรือทุกคนพยายามคุมใบเรือและพวงมาลัยเรือเอาไว้เพื่อต้านแรงลมนั้น แต่คลื่นโหมแรงน่ากลัวจนในที่สุดเรือก็พลิกคว่ำ ร่างของชายหนุ่มรูปงามคนนั้นกระเด็นตกเรือในทันที เงือกน้อยตกใจมาก เธอรู้ดีว่ามนุษย์ไม่สามารถอยู่ใต้น้ำได้นาน จึงรีบพุ่งตัวดำดิ่งลงไปอย่างรวดเร็วแล้วคว้าคอเสื้อของชายคนนั้นเอาไว้ ก่อนที่จะว่ายขึ้นสู่ผิวน้ำให้เร็วที่สุด ทั้งสองลอยคออยู่ในน้ำกระทั่งพายุสงบ
นิทาน

          ในตอนเช้า นางเงือกน้อยมองเห็นหาดทราย เธอพยายามพาร่างที่นิ่งไม่ไหวติงของเจ้าชายขึ้นฝั่ง และจ้องมองใบหน้าอันหล่อเหลานั้นพลางรำพึงว่า “เขาตายแล้วเหรอ” เธอเริ่มร้องเพลงเศร้า แต่ทันใดนั้นเจ้าชายก็เริ่มขยับตัว “โอ้ คุณเป็นยังไงบ้าง” เงือกน้อยถามพร้อมแตะหน้าผากของเขา ในตอนนั้นเองเธอก็ได้ยินเสียงผู้คนมากมายกำลังตรงมา เธอจึงรีบว่ายน้ำไปหลบอยู่ตรงโขดหิน มองดูเจ้าชายถูกผู้คนทำการช่วยเหลือ โดยที่เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าใครทำให้เขารอดชีวิตมาได้
 

          เงือกน้อยกลับไปยังท้องทะเล เมินเฉยต่อเหล่าพี่ ๆ ที่อยากรู้ว่าการเดินทางไปโลกเหนือน้ำของเธอเป็นยังไงบ้าง เธอนิ่งเงียบ รู้สึกเศร้าหมอง เพราะตกหลุมรักเจ้าชายเข้า และแล้วเธอก็นึกถึงเรื่องราวของแม่มดแห่งท้องทะเลผู้ที่สามารถดลบันดาลอะไรก็ได้ เงือกน้อยไม่นึกกลัวเลยสักนิด เธอรีบไปหาแม่มดในทันที
 

          เมื่อพบกับแม่มด เงือกน้อยได้บอกไปว่าเธอต้องการจะมีขาแบบมนุษย์ เพื่อที่จะได้อยู่กับเจ้าชาย “ไม่มีปัญหาจ้ะที่รัก เรื่องง่าย ๆ” แม่มดบอก “แต่ก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน ฉันขอแลกเสียงของเธอกับขาคู่นี้” นางเงือกน้อยตกใจ เสียงของเธอคือสิ่งมีค่าที่ทำให้ใคร ๆ ต่างหลงรัก “เธอไม่จำเป็นต้องใช้มันนี่สาวน้อย เธอทั้งสวย น่ารัก ทำให้เจ้าชายหลงรักได้ไม่ยากอยู่แล้ว” แม่มดพูดต่อ “อ้อ แต่มีข้อแม้นะ ถ้าเจ้าชายแต่งงานกับคนอื่นไปละก็ วันรุ่งขึ้นเธอก็จะตาย และเสียงของเธอจะอยู่กับฉันไปตลอดกาล แต่ใครจะรู้ เขาอาจจะเลือกเธอก็ได้” เงือกน้อยครุุ่นคิด “ว่ายังไง ฉันไม่มีเวลาทั้งวันนะ” ในที่สุดนางเงือกน้อยก็ตอบตกลง แม่มดจึงร่ายมนตร์ทันที เธอรู้สึกเหมือนถูกหมุนเหวี่ยง และเมื่อลืมตาตื่นขึ้นเธอก็อยู่บนชายหาดที่เคยช่วยเจ้าชายเอาไว้ และที่น่าตกใจคือความฝันของเธอเป็นจริงแล้ว หางของเธอหายไป เธอมีขา !

นิทาน

          “คุณผู้หญิง คุณมีปัญหาหรือเปล่า” ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจ้าชายที่เอ่ยประโยคนี้ นางเงือกน้อยพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่มีเสียงใดออกจากปากของเธอ “พูดไม่ได้เหรอ” เขาถาม นางเงือกน้อยส่ายหัว "โอ้ ! งั้นผมจะพาไปที่ปราสาท คุณสามารถล้างเนื้อล้างตัวที่นั่นและหาเสื้อผ้าแห้ง ๆ มาใส่ได้
 

          นางเงือกน้อยมีความสุขมากที่ได้อยู่กับเจ้าชาย คืนนั้นเจ้าชายพาเธอชมรอบ ๆ ปราสาท เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้เธอฟัง แม้จะไม่ได้ใช้เสียงพูดคุยกัน แต่เจ้าชายทราบดีว่าเธอเข้าใจทุกอย่างที่เขาพูด เจ้าชายรู้สึกดีที่มีนางเงือกน้อยเคียงข้าง แต่ก็อดนึกถึงเจ้าของเสียงอันไพเราะที่ช่วยชีวิตเขาตอนเรือล่มไม่ได้ เจ้าชายมั่นใจว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างเขาตอนนี้ไม่ใช่เธอคนนั้น ขนาดพูดยังทำไม่ได้ นับประสาอะไรกับร้องเพลง
 

          วันต่อมา เจ้าชายได้ทราบข่าวจากพระราชาว่าเขาจะต้องแต่งงานกับเจ้าหญิงจากเมืองใกล้เคียง นางเงือกน้อยรู้สึกเศร้ามาก เพราะเธอรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เจ้าชายแต่งงานไปแล้ว ทว่าเจ้าหญิงที่แสนเอาแต่ใจองค์นั้นกลับมีเสียงของเธออยู่กับตัว เพราะแม่มดนำเสียงของเธอไปให้กับเจ้าหญิงองค์นี้ เจ้าชายขอให้หญิงสาวร้องเพลง ซึ่งเสียงนั้นก็คือเสียงที่เขาเคยได้ยิน เจ้าชายรู้สึกดีใจมากที่ได้เจอคนที่ตัวเองตามหา นางเงือกน้อยพยายามฝืนยิ้มด้วยความยินดี ทั้งที่มีความเศร้าโศกอยู่เต็มหัวใจ

นิทาน

          วันรุ่งขึ้น เงือกน้อยไปที่ทะเลและได้พบกับเหล่าพี่สาวของเธอที่มาพบยังผืนน้ำด้วยความเป็นห่วง นางเงือกน้อยเล่าเรื่องราวให้กับพี่สาวของพวกเธอได้ฟัง เหล่าพี่ ๆ บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงและให้เธอกลับขึ้นฝั่งไป แล้วค่อยมาพบเจอกันใหม่ในวันต่อมา เมื่อนางเงือกน้อยมาเจอกับพี่ ๆ อีกครั้ง เธอพบว่าผมอันยาวสลวยของพี่ ๆ นั้นหายไป เพราะพวกเธอได้ตัดมันทั้งหมดออกมามอบให้แม่มดทะเลเพื่อแลกกับมีด แม่มดมอบมีดนั้นเพื่อให้นางเงือกน้อยไปปลิดชีพเจ้าหญิง เพื่อที่งานแต่งงานจะได้ไม่เกิดขึ้น ไม่ต้องตาย และสามารถกลับไปเป็นนางเงือกได้อีกครั้ง นางเงือกน้อยรับมีดมาเพราะรู้ถึงความหวังดีของพี่ ๆ แต่เธอตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่ทำร้ายเจ้าหญิงองค์นั้น
 

          เหล่าพี่สาวนางเงือกกลับไปยังวังใต้ทะเล และพบกับพ่อซึ่งกำลังโกรธเกรี้ยว ซักถามว่าพวกเธอไปไหนมา และน้องสาวคนสุดท้องหายไปไหน เหล่าพี่สาวเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ราชาฟัง เมื่อราชาไทรทันขึ้นไปยังผิวน้ำและเห็นเรือซึ่งจัดพิธีแต่งงานจึงรู้ได้ทันทีว่านางเงือกน้อยไม่ได้ลงมือ ราชาไทรทันจึงไปหาแม่มดทะเล แม่มดใจร้ายหัวเราะขึ้น บอกว่าวิธีเดียวที่จะช่วยลูกสาวของเขาได้ก็คือมอบคทาของราชาให้กับนาง ราชาไทรทันไม่มีทางเลือก จึงจำเป็นต้องมอบคทาให้
 

          แม่มดหัวเราะอย่างบ้าคลั่งกับชัยชนะของตัวเองและรีบขึ้นไปยังผิวน้ำเพื่อดูงานแต่งงานนั้น นางแปลงร่างเป็นอสุรกายคล้ายปลาหมึกตัวใหญ่น่ากลัว นางเงือกน้อยเห็นดังนั้นจึงรู้ทันทีว่าต้องปกป้องทั้งเจ้าชายและว่าที่เจ้าสาวของเขา เธอหยิบมีดเล่มนั้นของแม่มดขึ้นมา ทว่าแม่มดก็ใช้หนวดปลาหมึกคว้าเธอเอาไว้เหวี่ยงไปมา และในที่สุดก็เหวี่ยงไปถูกอกของแม่มดเอง มีดเล่มนั้นถูกปักกลางอก ความเจ็บปวดทำให้แม่มดปล่อยนางเงือกน้อยให้เป็นอิสระ และเจ้าชายก็ยิงธนูไปยังอสุรกายตนนั้น แม่มดจมลงสู่ผืนน้ำ และเสียงของเงือกน้อยก็กลับมาหาเธออีกครั้ง
 

          เจ้าหญิงผู้เป็นว่าที่เจ้าสาวตะโกนออกมาด้วยความโกรธและตกใจว่า “อาณาจักรนี้มันช่างป่าเถื่อน ! เจ้าชายจะไม่มีวันได้แต่งงานกับคนที่เหมาะสมหรอก” เสียงที่ออกมานั้นไม่ใช่เสียงที่เจ้าชายเคยได้ยิน เขารู้ทันทีว่าเขาเข้าใจผิด จากนั้นเงือกน้อยก็เริ่มร้องเพลง และเจ้าชายก็รู้ทันทีว่านี่แหละคือคนที่เขาตกหลุมรักจริง ๆ

          คทากลับมาอยู่ในมือของราชาไทรทัน และเขาก็เห็นดีเห็นงามว่าเจ้าชายรูปงามคนนี้สามารถปกป้องลูกสาวของเขาได้ จึงส่งนางเงือกน้อยกลับขึ้นเรือ “ผมนึกแล้วว่าเป็นคุณมาตลอด แต่งงานกับผมนะ” นางเงือกน้อยพยักหน้าตอบรับด้วยความปีติ งานแต่งงานบนเรือถูกจัดขึ้นอีกครั้งท่ามกลางความยินดีของทั้งคนและเหล่าเงือก จากนั้นเจ้าชายและนางเงือกน้อยก็ได้ครองรักกันอย่างมีความสุขสืบไป

ขอบคุณข้อมูลจาก : bedtimeshortstories.com, storiestogrowby.org, princess.disney.com
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นิทานเงือกน้อยผจญภัย สนุกสนาน ประทับใจ เสริมสร้างจินตนาการ อัปเดตล่าสุด 7 มีนาคม 2567 เวลา 13:58:41 495,564 อ่าน
TOP
x close