x close

นิทานอีสป แม่ปูกับลูกปู พร้อมภาพประกอบ แฝงแง่คิดเรื่องการเป็นแบบอย่างที่ดี

          นิทานอีสป แม่ปูกับลูกปู นิทานพร้อมภาพประกอบน่ารักอ่านเพลิน แถมยังแฝงไปด้วยข้อคิดดี ๆ ที่ลูกน้อยได้ฟังจะต้องชอบ

          การเล่านิทานให้ลูกรักฟังก่อนเข้านอน นับว่าเป็นวิธีเสริมสร้างทักษะด้านจินตนาการให้เด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี ยิ่งนิทานเรื่องนั้นมีภาพประกอบสวยงามควบคู่กันแล้ว จะยิ่งต่อยอดให้เขาได้นึกภาพต่อแบบสนุกสนาน แถมยังได้สานสัมพันธ์อันแสนอบอุ่นกับลูกในทุกค่ำคืนอีกด้วย

          แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่รู้จะเล่านิทานเรื่องอะไรให้ลูกฟังดี วันนี้กระปุกดอทคอมมีนิทานอีสป แม่ปูกับลูกปู มาฝาก รับรองถ้าได้เล่าให้ลูกรักฟังก่อนนอนเจ้าตัวเล็กจะต้องชอบและหลับฝันดีแน่นอน

           กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ริมชายหาดสีขาวพาดยาวไปตามท้องทะเลสีคราม มีครอบครัวปูอาศัยอยู่ด้วยกันหลายครอบครัว รวมทั้งยังมีแม่ปูกับลูกปูครอบครัวหนึ่งที่แสนจะอบอุ่น และชอบทำกิจกรรมด้วยกันอยู่ตลอดเวลาพักอาศัยอยู่ที่แห่งนั้นด้วย

นิทานอีสป

          "วันนี้อากาศดีมากเลยจ้ะแม่ เราออกไปเดินเล่นกันดีไหม" เสียงลูกปูบอกกล่าวกับแม่ปูด้วยความสดใส

          "นั่นสินะ อากาศดีแบบนี้เห็นทีเราต้องออกไปอาบแดดให้ร่างกายได้สดชื่นหน่อยแล้ว" แม่ปูตอบรับอย่างเห็นด้วย

          "ถ้าอย่างนั้นเราไปเดินเล่นจนถึงชายหาดฝั่งนู้นเลยนะจ๊ะแม่ เราไม่ได้เดินไปทางนั้นนานมากแล้ว" ลูกปูเชิญชวนแม่ปูให้พาไปอีกฝั่ง

          "ได้สิจ๊ะ อากาศดีขนาดนี้ ให้เดินไกลแค่ไหนแม่ก็พร้อมสู้อยู่แล้ว ปะ ไปกันเลยดีกว่า" ว่าแล้วแม่ปูกับลูกปูก็ออกเดินทางด้วยกันอย่างร่าเริงแจ่มใส

             ระหว่างทางที่กำลังเดินไปชายหาดอีกฟาก สองปูแม่ลูกต้องเดินผ่านบ้านของครอบครัวปูอีกหลายหลัง ซึ่งวันนี้แต่ละบ้านก็ออกมาทำกิจกรรมกันอย่างสนุกสนานเช่นเคยเหมือนทุกวัน และเมื่อเดินใกล้บ้านหลังใด ปูบ้านนั้นก็จะตะโกนทักทายกันตลอดทาง


นิทานอีสป

          "อ้าว แม่ลูกคู่นี้จะไปเที่ยวไหนกันจ๊ะ" เสียงป้าปูจากบ้านใต้ต้นมะพร้าวตะโกนถาม

          "สวัสดีจ้ะ วันนี้ฉันจะพาลูกไปเดินเล่นทางนู้นสักหน่อย เห็นว่าวันนี้อากาศดี" แม่ปูขานตอบ

          "จริงสิ อากาศดีมากทีเดียว ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้เที่ยวสนุก ๆ นะ" ป้าปูอวยพรท่ามกลางเหล่าลูกหลานที่กำลังวิ่งเล่นกันเต็มหน้าบ้าน
      
          "ขอบคุณมากจ้า ฉันไปแล้วนะ" สิ้นคำกล่าวลา สองแม่ลูกก็มุ่งหน้าไปยังจุดหมายทันที

          ในขณะที่เดินอยู่นั้นแม่ปูก็หันมาพูดคุยกับลูกของเธอด้วยความกังวลใจ เนื่องจากเธอเห็นเหล่าลูกหลานของป้าปูพากันเดินเฉไปเฉมาไม่น่ามองนัก

นิทานอีสป

          "นี่ลูกแม่ ลูกเห็นไหมว่าเด็ก ๆ บ้านนั้นเขาเดินไม่ค่อยตรงกันสักเท่าไร เดี๋ยวก็เฉไปทางซ้ายที มาทางขวาที" แม่ปูพูดอย่างกังวล

          "เห็นจ้ะ แต่หนูว่าไม่แปลกอะไรเลยนี่จ๊ะ" ลูกปูตอบด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสา

          "ไม่นะ แม่ว่ามันดูแปลกมากทีเดียว ไหนลูกลองเดินให้แม่ดูหน่อยสิ" พอกล่าวจบแม่ปูก็หยุดเดินเพื่อรอดูว่าลูกของเธอจะก้าวเท้าอย่างไร

          แต่ภาพที่เห็นแทบไม่ต่างจากเด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นในบ้านของป้าปูเลยสักนิด

นิทานอีสป

          "อะไรกัน !? ทำไมลูกถึงเดินอย่างนั้น เดินเฉไปเฉมาอย่างกับเด็กบ้านนู้นเลย" เสียงแม่ปูพูดอย่างแข็งกร้าว "เอาอย่างนี้ ดูแม่เป็นตัวอย่างแล้วทำตามนะ"

          จากนั้นแม่ปูจึงออกเดินนำหน้า ส่วนลูกปูก็หยุดยืนดู แต่แม่ปูที่โตเต็มวัยกลับเดินเฉไปเฉมาไม่ต่างอะไรจากปูตัวน้อยเลยสักนิด

          แถมเมื่อหันกลับมาแม่ปูยังเดินสะดุดขาตัวเองล้มครืนไปจนขายหน้า เพราะทำตามที่สั่งสอนลูกปูเอาไว้ไม่ได้นั่นเอง และหลังจากวันนั้น แม่ปูจึงไม่กล้าสอนลูกในสิ่งที่ตนทำไม่ได้อีกเลย

นิทานอีสป

          นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : หากต้องการสอนสิ่งใดให้แก่ผู้อื่น เราควรทำเป็นแบบอย่างที่ดีให้ได้เสียก่อน เพื่อที่คนอื่นจะได้เรียนรู้และปฏิบัติตามอย่างถูกวิธีนั่นเอง


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นิทานอีสป แม่ปูกับลูกปู พร้อมภาพประกอบ แฝงแง่คิดเรื่องการเป็นแบบอย่างที่ดี อัปเดตล่าสุด 19 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 16:09:49 401,912 อ่าน
TOP