เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ตอนนี้ก็เข้าสู่เทศกาลวันคริสต์มาสกันแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เทศกาลประจำชาติของบ้านเราจริง ๆ แต่ก็เชื่อว่ามีคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คน ที่รื่นเริงสนุกสนานไปกับเทศกาลนี้ด้วยใช่ไหมล่ะคะ ส่วนตัวคุณลูกเองก็ต้องมีเด็ก ๆ ได้ยินได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับซานตาคลอส หรือ คุณลุงซานต้าเคราขาวใจดี ที่เอาของขวัญมาแจกเด็ก ๆ กันมาจากหลาย ๆ ที่กันแน่นอนเลยล่ะ ไม่ว่าจะจากคุณครู จากเพื่อน ๆ จากที่โรงเรียนโดยเฉพาะโรงเรียนนานาชาติ หรือว่าจากการดูการ์ตูนดูหนังต่าง ๆ ตอนลูกยังเล็กคุณพ่อคุณแม่เลยถือโอกาสส่งเสริมจินตนาการ ด้วยการแอบซื้อของขวัญมาให้ แล้วอ้างชื่อว่ามาจากคุณลุงซานต้าเสียเลย แต่พอคุณลูกเริ่มโตขึ้นมา ก็พอจะรู้เรื่องแล้วว่า ซานตาคลอสนี่ไม่ได้มีอยู่จริงสักหน่อย หนูน้อยที่เคยเชื่อเรื่องราวแสนวิเศษของวันคริสต์มาสและซานตาคลอสมาตลอดคงจะผิดหวังคอตก ทำหน้าจ๋อยไปตาม ๆ กัน แล้วคุณพ่อคุณแม่จะอธิบายให้ลูกฟังอย่างไรดีนะ วันนี้กระปุกดอทคอมมีคำแนะนำมาให้ค่ะ
1. ลองฟังลูกบ่นดูเสียก่อน ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะเริ่มอธิบายว่าที่จริงแล้วซานตาคลอสไม่มีอยู่จริง ลองตั้งใจฟังสิ่งที่เจ้าตัวเล็กของคุณมาบ่นให้ฟังก่อนดีกว่า ว่าทำไมเขาถึงได้สงสัยขึ้นมาว่าคุณลุงซานต้าแสนใจดีที่เขาเฝ้ารอคอยอยู่ทุก ๆ ปีนั้นไม่มีตัวตน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเด็ก ๆ ก็มักจะรู้มาจากเพื่อน ๆ หรือจากที่โรงเรียน และระแคะระคายต่อจากการสังเกตของตัวเอง จากนั้นคุณก็ค่อย ๆ เสริมตามสมมุติฐานที่ลูกตั้งไว้แต่แรกว่า "นั่นสินะ จริงอย่างที่ลูกว่า ซานตาคลอสคงจะไม่มีจริง ๆ นั่นแหละ" เป็นวิธีการตอบแบบไม่ต้องหาคำอธิบายยืดยาว แค่ฟังสิ่งที่ลูกอยากระบายก่อน แล้วคุณก็จะจับจุดได้เองล่ะค่ะ ว่าควรจะตอบว่าอย่างไรต่อไป เพื่อไม่ให้ลูกเสียความรู้สึกมากนักดี
2. อย่าเพิ่งตอบทันทีว่า ซานต้าไม่มีอยู่จริง หากอยู่ดี ๆ เจ้าหนูก็เปิดประเด็นถามขึ้นมาว่า "ซานตาคลอสมีจริง ๆ ไหมคะ/ครับ" แทนที่คุณพ่อคุณแม่จะตอบกลับไปทันควันว่า "ไม่มีหรอกจ้ะ" เปลี่ยนเป็นลองเลียบเคียงถามลูกดูว่า ทำไมหนูถึงคิดอย่างนั้น เพื่อดูว่าความรู้สึกที่หนูน้อยมีต่อคุณลุงซานต้าที่แสนใจดีนั้นเป็นอย่างไร เมื่อได้ทราบแล้ว ก็น่าจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่หาคำตอบ และคำอธิบายแก่ลูกน้อยได้ง่ายขึ้นค่ะ
3. เล่าเรื่องเซนต์นิโคลัส ให้ลูกฟัง หากรู้สึกว่าลูกน้อยของคุณโตพอที่จะฟังเรื่องราวได้อย่างมีเหตุมีผลแล้ว ลองเล่าเรื่องของเซนต์นิโคลัส ซึ่งเป็นที่มาจริง ๆ ของซานตาคลอสให้ลูกฟังดีกว่าค่ะ ว่านักบวชใจดีท่านนี้ มอบของขวัญให้กับคนยากคนจน และเพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ที่ดี ผู้คนก็เลยนำของขวัญไปวางไว้ใต้ต้นไม้ ในถุงเท้า ในรองเท้า และเซนต์นิโคลัส ก็เลยถูกยกให้กลายเป็นซานตาคลอส คุณลุงใจดีในวันคริสต์มาสไปนั่นเอง การบอกเล่าที่มาของเรื่องราวจริง ๆ ให้ลูกฟัง นอกจากจะชี้แจงให้เขาเข้าใจแล้ว ยังเป็นการปลูกฝังทัศนคติดี ๆ เกี่ยวกับวันคริสต์มาสและเรื่องการให้ ให้แก่เขาได้ด้วยนะ
4. ให้ลูกช่วยรักษามนตร์ขลังของซานตาคลอสต่อไปอีกหนึ่งวิธีที่ดีที่ช่วยให้ลูกของคุณเข้าใจที่มาที่ไปของวันคริสต์มาส และยังรู้สึกถึงความขลังของคุณลุงซานต้าสืบต่อไป ก็คือการบอกความจริงแก่เขา และขอร้องให้เขาช่วยสร้างหรือรักษามนตร์ขลังแห่งการให้ในวันคริสต์มาส เอาไว้แก่ญาติพี่น้องที่อายุน้อยกว่าของเขาต่อไปให้ได้ วิธีนี้จะช่วยให้ลูกเข้าใจวันคริสต์มาสจากมุมมองของความเป็นจริง และยังทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นพี่คนโต ที่ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นด้วย
5. สอนลูกให้เชื่อในความดีงามของการให้ ซึ่งแทนด้วยสัญลักษณ์คือซานตาคลอส สอนหนูน้อยแบบเป็นนามธรรมนิด ๆ ว่า แม้คุณลุงซานต้าเคราขาวจะไม่ได้มีตัวตนอยู่จริง ๆ แต่เราทุกคนต่างก็มีความเป็นซานตาคลอสอยู่ในตัวเอง ผ่านการมอบความรักและการให้ แก่ผู้ที่ยากไร้ ด้อยโอกาสกว่า หรือกำลังต้องการความช่วยเหลือ ถ้ามีเพื่อน ๆ ลูกที่ยังไม่เชื่อเรื่องซานต้า นั่นอาจเป็นเพราะเขาไม่มีสปิริตของซานต้าและวันคริสต์มาสอยู่ในใจก็ได้ พ่อแม่เองก็เชื่อในซานตาคลอสนะจ๊ะ ลูกเองก็คงมีอยู่เหมือนกันเนอะ .. รับรองถ้าไปพูดอย่างนี้ เจ้าหนูน้อยของคุณก็น่าจะโอนอ่อนเห็นด้วยได้ไม่ยากเลยล่ะ
ผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ต่างก็รู้มานานแล้วว่า ซานตาคลอสไม่มีอยู่จริง แต่สำหรับเด็ก ๆ แล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องคอขาดบาดตายกับเขาได้เหมือนกัน ในช่วงรอยต่อแบบนี้คุณพ่อคุณแม่จึงเป็นคนสำคัญที่สุด ที่จะช่วยชี้แจงให้เขาได้ทราบถึงความหมายที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ในร่างคุณลุงเคราขาวแสนใจดี และให้ลูกได้มีทัศนคติที่ดีกับซานตาคลอสต่อไป ในทิศทางที่เติบโตและเป็นจริงขึ้นนั่นเองค่ะ
