แพทย์สภา เล็งเปิดช่องให้หญิงที่ไม่ใช่ญาติอุ้มบุญแทนได้ แต่ต้องออกกฎระเบียบเข้มงวดป้องกันการรับจ้างตั้งครรภ์ พร้อมหารือควบคุมการขายไข่เพื่อใช้ในการตั้งครรภ์ หลังมีการซื้อขายจำนวนมากผ่านเว็บไซต์
เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2556 นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการแพทยสภาที่ผ่านมาได้มีการพิจารณาประเด็นเทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ เนื่องจากพบว่าปัจจุบันมีปัญหาค่อนข้างมาก ทั้งกรณีการตั้งครรภ์แทน หรือเรียกว่าอุ้มบุญ การขายไข่ผู้หญิง รวมไปถึงแพทย์ที่ทำในเรื่องนี้ ซึ่งจำเป็นต้องมีการทบทวนและให้มีการจัดทำหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน
สำหรับในกรณีของการตั้งครรภ์แทนซึ่งแพทยสภามีระเบียบให้หญิงที่ตั้งครรภ์แทนต้องเป็นญาติพี่น้องเท่านั้น ที่ผ่านมากลับปรากฏว่า มีผู้หญิงจำนวนหนึ่งที่มีปัญหามดลูกจนต้องตัดออก แต่ยังมีไข่อยู่ ต้องการที่จะมีลูกแต่ไม่มีญาติพี่น้อง ต้องให้บุคคลอื่นมาตั้งครรภ์แทน ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเห็นใจ แพทยสภาจึงทบทวนว่า อาจมีการเปิดในเรื่องนี้ เพียงแต่ต้องมีการกำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนและรอบครอบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรับจ้างตั้งครรภ์ โดยได้มอบให้ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ไปพิจารณา
ทั้งนี้ อาจต้องมีการพิจารณาว่าจะคิดค่าใช้จ่ายในการตั้งครรภ์ ทั้งการหาหมอฝากครรภ์ การบำรุงครรภ์ อย่างไรบ้างในกรณีที่ให้ผู้อื่นตั้งครรภ์แทน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรับจ้าง ซึ่งอาจต้องกำหนดเป็นจำนวนเงินเพื่อไม่ให้สูงจนเกินไป ส่วนหลักเกณฑ์การให้บุคคลอื่นตั้งครรภ์แทนนั้น ควรกำหนดเช่น ต้องอายุระหว่าง 20-35 ปี เพราะเป็นช่วงที่การตั้งครรภ์ปลอดภัยที่สุด และต้องมีลูกมาแล้วอย่างน้อย 1 คน เพื่อให้มั่นใจว่าการตั้งครรภ์ไม่มีปัญหา
นอกจากนี้ นพ.สมศักดิ์ ยังกล่าวว่า กรณีของการขายไข่เพื่อใช้ในการตั้งครรภ์ ในกรณีผู้หญิงบางคนที่ไม่มีไข่ตกนั้น ยอมรับว่าขณะนี้มีการซื้อขายมากขึ้น และมีจำนวนมากที่ประกาศขายผ่านทางเว็บไซด์ โดยมีรูปผู้หญิงให้เลือกด้วยว่าจะใช้ไข่จากผู้หญิงคนไหน หน้าตาเป็นอย่างไร เท่าที่ทราบตกใบละหมื่นบาทขึ้นไป ซึ่งตรงนี้กำลังเป็นปัญหาอย่างมาก และในประเทศจีน อินเดีย ก็ได้มีการประกาศห้ามขายไข่แล้ว เหลือแต่ประเทศไทยเท่านั้นยังไม่มีกฎหมายห้ามในเรื่องนี้ ทำให้ชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะมาทำในไทย จนถูกต่างประเทศโจมตีมาก ดังนั้นแพทยสภาจึงประชุมว่าจะมีการควบคุมในเรื่องนี้อย่างไร
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
